ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เงิน 'พ่อคูณ' 47 ล้านไม่หาย 'ผู้ว่าโคราช' รอตรวจสอบ  (อ่าน 879 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29440
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เงิน 'พ่อคูณ' 47 ล้านไม่หาย 'ผู้ว่าโคราช' รอตรวจสอบ

ผู้ว่าโคราชรอคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน "หลวงพ่อคูณ" เช็กเงินมูลนิธิที่ตัวเองดูแลอยู่ ยืนยันเงิน 47 ล้านบาทไม่ได้หายไปไหน ส่วนเงินที่คณะลูกศิษย์ ถ้ามีปัญหาแจ้งความร้องทุกข์ได้ 

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ตั้งคณะกรรมการ 31 คน ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และเงินของวัดบ้านไร่ ว่า วัดบ้านไร่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายสถานะทางกฎหมายเทียบเท่ากับบริษัททั่วไป มีกรรมการบริหารเหมือนนิติบุคคล มีเจ้าอาวาสวัดเป็นเจ้าพนักงาน ผู้ใดขัดขืนคำสั่งของเจ้าอาวาส ในสถานะกิจของสงฆ์ ผู้นั้นถือว่าขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน ผิดกฎหมายคุ้มครองเจ้าอาวาส ใครทำร้ายเจ้าอาวาสถือว่าทำร้ายเจ้าพนักงาน


 :96: :96: :96: :96: :96:

ขณะที่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุชัดเจนว่า ทรัพย์สินของสงฆ์ที่ได้มาในระหว่างบรรพชา จนถึงแก่มรณภาพให้ถือเป็นทรัพย์สินของวัด เว้นแต่มีทรัพย์สินที่ได้มาก่อนบรรพชา ทั้งนี้ การตรวจสอบทรัพย์สินของวัดบ้านไร่นั้น กลไกทางกฎหมายที่พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนั้น กำลังดำเนินการไปตามขั้นตอนจะมีการตรวจสอบทรัพย์สินทุกอย่างที่มีผู้นำมาถวายหลวงพ่อคูณ ต้องตกเป็นของวัดบ้านไร่แน่นอน ทั้งทรัพย์สินที่มีหลักฐานทางทะเบียนและไม่มีหลักฐานทางทะเบียน อยู่ที่คณะกรรมการจะตรวจสอบอย่างละเอียด




ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเงินในส่วนของมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่มีตนเป็นประธาน คณะกรรมการสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ทุกเมื่อ ซึ่งมีหลักฐานในระบบบัญชีถูกต้องครบถ้วน เงินไม่ได้หายไปไหน 1,000% ยอดเงินที่ถูกถอนออกจากบัญชี จะต้องมีหลักฐานบันทึกจากคณะกรรมการที่ดูแลบัญชีนี้ระบุว่า เงินถูกถอนออกไปใช้ทำอะไร ขณะนี้เงินยังอยู่ในบัญชีตัวเลขประมาณ 47 ล้านบาท ไม่ได้หายไปไหนขอให้ทุกคนสบายใจได้

 :41: :41: :41: :41:

ส่วนเงินที่อยู่ในรูปแบบอื่นๆ ที่คณะลูกศิษย์จัดทำขึ้นมานั้น จะมีเงื่อนไขการตรวจสอบอย่างไร ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบดำเนินการ ถ้าหากตรวจสอบได้โดยราบรื่นก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าการตรวจสอบมีปัญหาความเห็นไม่ตรงกันหรือขัดแย้งกันสามารถโยงเข้าเรื่องกฎหมาย ในฐานะวัดเป็นนิติบุคคลสามารถแจ้งความร้องทุกข์ทางคดีอาญาได้ สามารถฟ้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจากทรัพย์สินนั้นได้

ถ้าหากมีความขัดแย้งถึงระดับที่ต้องแจ้งความหรือฟ้องร้องกัน ก็ต้องให้กลไกของรัฐเข้าไปดูแลแก้ปัญหาให้เรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังไม่อยากให้ทุกฝ่ายวิตกกังวลกันมาก ตนคิดว่าถ้าหากทุกคนอยากแสดงกตัญญูกตเวทิตาแก่หลวงพ่อคูณ ควรจะทำแต่เรื่องที่ดีเอาไว้ ทุกคนมีสำนึกในตัวเองอยู่แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดี ซึ่งหลวงพ่อคูณไม่สบายใจอยู่แล้วไม่ว่าตอนท่านยังมีชีวิตอยู่หรือแม้แต่ท่านมรณภาพไปแล้วดวงวิญญาณของหลวงพ่อยังรับรู้ได้..


ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/323183
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ