พิมพ์

[raponsan]

ความศักดิ์สิทธิ์ ‘หลวงพ่อทองคำ’ วัดไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

ไพศาล ถิระศุภะ รายงาน

วัดไทรใหญ่ ตั้งอยู่ที่หมู่ ๕ บ้านไทรใหญ่ ถนนไทรน้อย-ต้นเชือก ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อยู่ริมคลองพระพิมลราชา และคลองทวีวัฒนา ผ่านทางด้านทิศเหนือและตะวันตกของวัด

ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะต่างๆ อาทิ อุโบสถกว้าง ๘ เมตร ยาว  ๒๔ เมตร สร้างเมื่อปี ๒๔๙๘ ลักษณะทรงไทยหลังคามุงกระเบื้อง มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันปิดทอง ที่ฝาผนังมีจิตรกรรมเรื่องพระเจ้าสิบชาติ กุฏิสงฆ์จำนวน ๑๐ หลัง เป็นอาคารคอนกรีตและไม้ทรงไทย หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาท่าน้ำ ศาลาบำเพ็ญกุศล ฌาปนสถาน หอระฆัง หอปริยัติธรรม โรงครัว

 

วัดไทรใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๔๑๐ ช่วงสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี นางเง็ก แสงประภา เป็นผู้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัด เดิมชื่อ “วัดมหานิโครธาราม” แปลว่า "ไทรต้นใหญ่” ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็น "วัดไทรใหญ่” เนื่องจากชาวบ้านเรียกง่ายกว่า

นอกจากที่ตั้งวัดประมาณ ๒๐ ไร่แล้ว นางเง็ก ยังได้ถวายที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์อีกจำนวน ๗๗ ไร่ ๗๒ ตารางวา และนางผัน คำจงจิต ได้ถวายที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์ ๑๕ ไร่ ๙๖ ตารางวา

วัดไทรใหญ่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๔๙๑ ได้ทำพิธีผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘

 

สำหรับปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัดไทรใหญ่ คือ พระประธานในอุโบสถ ขนาดหน้าตักกว้าง ๑.๖๙ เมตร ปางมารวิชัย หล่อด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ สร้างขึ้นสมัยอู่ทอง ฝีมือช่างหลวง มีความงดงาม อลังการมาก ชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า “หลวงพ่อทองคำ”

มีการบอกเล่ากันมาว่า ได้อัญเชิญมาจากทางหัวเมืองเหนือ เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาขอพรหรือบนบานศาลกล่าวใดๆ มักจะสมหวังเสมอ สิ่งของที่นิยมนำมาแก้บนได้แก่ การรำละคร การถวายช้างไม้ การบวชแก้บน ฯลฯ

ในด้านวัตถุมงคลของหลวงพ่อทองคำ ทางวัดไทรใหญ่ได้จัดสร้างขึ้นหลายประเภท เช่น รูปเหมือนบูชา รูปเหมือนห้อยคอ เหรียญ ล็อกเกต แหวน ผ้ายันต์ ฯลฯ ได้รับความนิยมทุกประเภท สำหรับวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเหรียญ ซึ่งจัดสร้างขึ้นหลายรุ่นด้วยกัน รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เหรียญหลวงพ่อทองคำ รุ่นแรก ลักษณะเป็นรูปใบเสมา สร้างปี ๒๔๙๘ ในโอกาสผูกพัทธสีมา มีเนื้อเงิน, ทองแดงรมดำ, ทองแดงกะไหล่ทอง และทองแดงกะไหล่เงิน

เหรียญรุ่นนี้ได้รับการปลุกเสกจากพระคณาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี, หลวงปู่เผือก วัดโมลี จ.นนทบุรี, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี ฯลฯ นับเป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูงทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีและคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ได้ดี ใครได้ครอบครองก็มักจะหวงแหน มีการเช่าหากันที่ระดับหลักหมื่นต้น ค่อนข้างพบเห็นได้ยาก และมี ของปลอม ระบาดมานานแล้ว หลายฝีมือด้วยกัน

เหรียญอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญหลวงพ่อทองคำ รุ่น ๒ ลักษณะเป็นรูปกงจักร สร้างปี ๒๕๐๐ มีเนื้อทองแดง และอัลปาก้า พระคณาจารย์ที่ปลุกเสกส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกับที่ปลุกเสกเหรียญรุ่นแรก พุทธคุณจึงไม่แตกต่างจากเหรียญรุ่นแรก มีการเช่าหากันที่ระดับหลักพันปลาย

อภินิหารหลวงพ่อทองคำ วัดไทรใหญ่ มีมากมายนานัปการ อาทิ

เรื่องแรก ช่างก่อสร้างประจำวัดไทรใหญ่ท่านหนึ่งได้คาบตะปูไว้ที่ปาก ขณะทำงานเพลินๆ ได้เผอเรอปล่อยให้ตะปูหลุดจากปากเข้าไปในลำคอลงไปอยู่ในท้องโดยไม่ทันตั้งตัว มีความทุกข์ใจมาก จึงนำ น้ำมนต์หลวงพ่อทองคำ มาดื่มและบนบานว่า เมื่อหายดีแล้วจะบวชถวาย ๓ เดือน ปรากฏหายจริงๆ เพื่อให้เกิดความแน่ใจ วันรุ่งขึ้นจึงไปเอกซเรย์ดูตะปูในช่องท้อง ก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆ จึงต้องบวชถวายหลวงพ่อทองคำที่วัดไทรใหญ่ตามที่ได้บนบานไว้

เรื่องที่ ๒ สามีภริยาคู่หนึ่งมีบุตรชายอายุ ๓ ขวบ ซึ่งปกติควรจะเดินได้คล่องแล้ว แต่บุตรชายดังกล่าวยังตั้งไข่ไม่เป็นเลย จึงได้มาบนบานหลวงพ่อทองคำ ขอให้ช่วยเหลือ ถ้าสมหวังจะนำทองคำเปลว ๕๐ แผ่นมาปิดแก้บน หลังจากนั้นไม่ถึง ๗ วัน คำอธิษฐานเริ่มเห็นผล เด็กน้อยเริ่มหัดคลาน ตั้งไข่และเดินได้ในที่สุด

และเรื่องสุดท้าย คือ ชายหนุ่มคนหนึ่งตกตึก ๕ ชั้นไม่ตาย เพียงแค่ร่างกายบวมช้ำเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ด้วยบารมีของ เหรียญหลวงพ่อทองคำ รุ่นแรก ที่เขาแขวนไว้ที่คอ

 

สำหรับท่านผู้อ่านที่จะไปเยี่ยมชม วัดไทรใหญ่ นอกจากจะได้กราบขอพร หลวงพ่อทองคำ แล้ว ยังมีโอกาสได้แวะชม “ตลาดน้ำไทรน้อย” ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองพระพิมลราชา ติดกับวัดไทรใหญ่ ตลาดน้ำแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของอาหารคาวหวาน ผัก ผลไม้ นานาชนิดที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายริมฝั่งคลอง มีรสชาติอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย และราคาเป็นกันเอง สามารถเลือกซื้อเลือกหาได้ตามอัธยาศัย

อีกทั้งยังมีโอกาสได้ชมทัศนียภาพ และวิถีชีวิตของชาวนนทบุรี ที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งคลองซึ่งยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติและความเป็นไทยที่รักษาประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิมไว้อยู่อย่างพร้อมมูล ซึ่งนับวันจะหาดูได้ยากในขณะนี้...เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. บริเวณตลาดน้ำมีเรือบริการล่องคลองพระพิมลราชา ออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐-๑๖.๐๐ น. นำเที่ยวชมวัดไทรใหญ่และสวนมะพร้าว โดยมีเยาวชนเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำชมสถานที่ต่างๆ อย่างผู้ชำนาญการ

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150709/209424.html