ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "ไพบูลย์" ระบุ มส.ไม่มีอำนาจห้ามบวชภิกษุณี พระพุทธเจ้าออก ′ครุธรรม′8 สำหรับสตรี  (อ่าน 987 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28565
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


"ไพบูลย์" ระบุ มส.ไม่มีอำนาจห้ามบวชภิกษุณี พระพุทธเจ้าออก ′ครุธรรม′8 สำหรับสตรี

(23 ก.ค.58) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยกรณีที่สมาคมนักวิชาการพระพุทธศาสนา (สนพ.) ยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) คัดค้านมติ กมส.ที่ให้มหาเถรสมาคม (มส.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ทบทวนการห้ามบวชภิกษุณีและการออกวีซ่าให้พระสงฆ์ต่างชาติที่เข้ามาบวชภิกษุณีในไทย ว่า

เคยศึกษาพุทธประวัติของภิกษุณีมาก่อน พบว่า มส.มีอำนาจปกครองดูแลเฉพาะพระภิกษุสามเณรที่อยู่ในไทย ตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายรวมถึงภิกษุณี หาก มส.ยึดพระธรรมวินัยในการห้ามพระสงฆ์บวชภิกษุณีในไทยก็ทำได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่น อาทิ ห้ามพระสงฆ์จากต่างชาติมาบวชภิกษุณีในไทย มส.ไม่มีอำนาจขนาดนั้น ดังนั้นการออกคำสั่งใดๆ ของ มส.ที่เกี่ยวกับภิกษุณี หากเกินอำนาจจะดูไม่ชอบด้วยกฎหมาย


 :96: :96: :96: :96: :96:

นายไพบูลย์กล่าวว่า ในส่วนการตีความพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ ระบุว่าการบวชภิกษุณีขัดต่อหลักพระธรรมวินัย โดยอ้างเฉพาะเรื่องที่พยายามไม่ให้บวชภิกษุณี เช่น การบวชภิกษุณีต้องพร้อมด้วยสงฆ์ 2 ฝ่าย คือ ภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์ ทั้งที่แท้จริงแล้วพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ท่านพระราชทานให้บวชภิกษุณี และตามพุทธบัญญัตินั้น อนุญาตให้ภิกษุณีบวชจากภิกษุสงฆ์ฝ่ายเดียวได้

ยกตัวอย่างของพระนางมหาปชาบดีโคตมี ภิกษุณีรูปแรกในนิกายเถรวาทที่บวชจากพระพุทธเจ้า หรือบวชจากภิกษุสงฆ์เพียงฝ่ายเดียว โดยพระพุทธเจ้าได้ทรงออกหลักปฏิบัติพิเศษสำหรับสตรีที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา คือครุธรรม 8 ประการ หลังจากที่ภิกษุณีมีพรรษาครบ 10 ปี พระพุทธองค์จึงบัญญัติให้บวชภิกษุณีจากสงฆ์ 2 ฝ่าย แต่ท่านไม่ได้ยกเลิกการบวชภิกษุณีจากภิกษุสงฆ์ฝ่ายเดียวแต่อย่างใด

 
 :32: :32: :32: :32:

ทั้งนี้ นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ไม่เชื่อว่าจะหยุดยั้งการบวชภิกษุณีได้ เพราะพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้แล้ว คณะสงฆ์ต่างอ้างว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และควรส่งเสริมในพุทธบริษัท 4 แต่ทำไมถึงขัดขวางการบวชภิกษุณี ถ้า มส.ยึดหลักพระธรรมวินัยในนิกายเถรวาทอย่างเคร่งครัดจริง ควรออกประกาศห้ามพระสงฆ์จับต้องเงิน หรือยินดีในทรัพย์สิน หากทำได้ถือว่า มส.ได้ทำหน้าที่ในการดูแลพระศาสนาอย่างแท้จริง


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437625946
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
กาลวิบัติ แห่ง ศาสนา ก็เริ่ม จากคนเหล่านี้แหละ
การเรียกร้องสิทธิ์ ต่าง ๆ ตามกฏหมาย นั่นก็เป็นทางหนึ่ง ดึงดัน
เคยฟังในรายการ อยู่ครั้งหนึ่ง

  พระ ถ้าไม่มีการยกสังฆกรรม ด้วย ญัตติจตุดถกรรม ก็เป็นพระไม่ได้ ( สมมุติว่าพระ ตามพระธรรมวินัย )
  ในทางกลับกัน มีการญัติจตุตถกรรม แต่ กระทำโดยกลุ่มที่ไม่ใช่ พระที่มีญัตติจตุตถกรรม มาก่อน หมายถึงคนเอาผ้าเหลืองมานุ่งห่มเยี่ยงพระ โกนหัว ทำตัวอย่างพระ แล้วทำการบวชคนด้วย ญัตติจตุตถกรรม ต่อมา ผู้ที่บวชกับคนเหล่านี้ ถือว่า เป็นโมฆะ ในทางพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ สมมุติสงฆ์ ตามพระธรรมวินัย
 
   แน่นอนคนปลอมบวชพระ ทำตัวเยี่ยงพระ ใช้ชีวิตอย่างพระ ในท่ามกลางสงฆ์ ก็เป็นพระไม่ได้ เมื่อบริโภคปัจจัย 4 ที่ ศรัทธาของคนได้มอบถวาย แก่พระสงฆ์ ในสังฆกรรม ผู้ที่ปลอมปนเหล่านั้น ล้วนต้องบาปอกุศล มีนรกเป็นปลายทาง แน่นอน

   ต้องลองฟัง พระอาจารย์พูด แต่ รู้สึกจะพูดสด อยู่ ครั้งหนึ่ง.... และก็ไม่ได้ยินอีก

   เรื่องของอายุพระพุทธศาสนา ที่จะหายไปกึ่งหนึ่ง ทันที

   ฟังแล้วน่าตกใจ ... ส่วนตัว เห็นชัดด้วยเหตุผล ถึงแม้จะเป็นผู้หญิง แต่ก็ยอมรับในวินิจฉัย ของ มส. เช่นกันคะ เพราะความเป็นจริงเขาไม่ได้ห้ามถือศีลเป็นแม่ชี เลย แม่ชีในประเทศไทย ล้วนมีบทบาท สำคัญ แต่ที่นี้คุณผู้หญิง อาจจะต้องการมีบทบาทให้สูงขึ้นอย่างภิกษุ จึงพยายามไปบวชเป็น ภิกษุณี แต่ครั้นบวชที่อื่น ๆ มาแล้ว ก็มาทำสังฆกรรม กับฝ่ายเถรวาทไม่ได้ เพราะทางเถรวาท ถือว่า เป็นโมฆะบุคคละ เป็นบุคคล แต่งตัวเลียนแบบ เท่านั้น ถึงแม้สังคมสมัยใหม่ ยุคประชาธิปไตย จะยอมรับแต่ พระสงฆ์ไม่ได้ยอมรับเพราะผิดพระธรรมและวินัยอันเป็นบัญญัติของพระพุทธเจ้า นั่นเอง

   คนที่ทำเรื่องราวตอนนี้ นับว่า มีความเสี่่ยงในกรรม ที่ลิดรอนอายุพระพุทธศาสนา ลงเป็นบาป เป็นโทษมาก แต่ท้ายที่สุดคนเหล่านี้ เมื่อพาลทำไม่ได้สำเร็จก็จะบีบระบบพระสงฆ์ จนต่อไปในยุคข้างหน้าพระสงฆ์ที่เป็นเถรวาท ก็จะหายไปหมด เหลือเพียงสัญญลักษณ์ผูกผ้ากาสาวพัตร์ไว้ที่ตุ้มหูเท่านั้น ( ยังนึกไม่ออกว่าแต่งกายเยี่ยงไร ) แต่เรื่องเหล่านี้มีปรากฏข้อความในจักวรรติสูตร ในส่วนอรรถกถา ว่าด้วยอายุพระพุทธศาสนา จักลดน้อยลงตามคำพยากรณ์ ของพระพุทธเจ้า เนื่องด้วย พุทธบริษัท4 และ การมีอยู่ของพระภิกษุณี

 :25: :25: :25: :25:
   
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ