ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เอเชียติดสมาร์ทโฟนมากสุด ผู้ใช้วัยเด็กลงเรื่อยๆ  (อ่าน 867 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เอเชียติดสมาร์ทโฟนมากสุด ผู้ใช้วัยเด็กลงเรื่อยๆ

ผลศึกษาในเกาหลีใต้พบชาวเอเชียใช้สมาร์ทโฟน 2.5ล้านคน ขณะที่เยาวชนอายุ 11-12 ปี ถึง 72% มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง

โรคโนโมโฟเบีย หรือโรคติดโทรศัพท์มือถือ เป็นอาการที่เกิดจากความวิตกกังวลเนื่องจากไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือที่ถูกพูดถึงในทั่วโลกกันมาสักพัก แต่สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียที่เป็นต้นกำเนิดของไม้เซลฟี่หรืออีโมจิ นักจิตวิทยาได้ชี้ให้เห็นว่าจำนวนคนติดโทรศัพท์มือถือกำลังเพิ่มมากขึ้นเป็นอันดับต้นของโลกและมีแนวโน้มอายุน้อยลง

ผลการศึกษาพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของเด็กนักเรียน 1,000 คนในประเทศเกาหลีใต้ พบว่าเยาวชนอายุระหว่าง 11-12 ปี มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเองถึง 72% และใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้เฉลี่ย 5.4 ชม.ต่อวัน เท่ากับว่า 25% ของเด็กนักเรียนมีอาการติดสมาร์ทโฟน โดยชี้ว่าภาวะความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เสพติด โดยเฉพาะผู้ที่ท่องโลกโซเชียลผ่านสมาร์ทโฟนจะยิ่งมีอาการเสพติดง่ายขึ้น


 :49: :49: :49: :49:

สมาร์ทโฟนได้หลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียหลากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นกระแสถ่ายภาพอาหารลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือฟู้ดพอร์น (หมายถึง รูปอาหารที่ดูดี ยั่วน้ำลาย) หรืออย่างในประเทศญี่ปุ่น โทรศัพท์มือถือกลายเป็นวัฒนธรรมย่อยของสังคม จนมีคำเรียกเฉพาะของตัวเองว่า “วัฒนธรรมเคอิไต”

ในเอเชียซึ่งมีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนมหาศาลถึง 2,500 ล้านคน มักจะมีข่าวอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ อาทิ นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันที่ก้มหน้าก้มตาเล่นเฟซบุ๊คเพลินจนเดินตกท่าเรือ หรือสาวจากมณฑลเสฉวนของจีน ที่เดินตกท่อระบายน้ำเพราะมัวแต่สนใจกับโทรศัพท์มือถือ

 :96: :96: :96: :96:

แม้ข่าวเหล่านี้จะสร้างความขบขันให้ผู้ที่ได้พบเห็น ทว่า ประเทศสิงคโปร์กำลังเป็นห่วงเรื่องการอุปกรณ์ที่แทบจะกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 เนื่องจากอายุของผู้ใช้งานเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ประเทศเล็กๆ แห่งนี้มีประชากรเพียง 6 ล้านคน แต่กลับมีส่วนแบ่งการตลาดของสมาร์ทโฟนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก เท่ากับฮ่องกงที่ 87% โดยทางรัฐบาลสิงคโปร์พยายามแก้ปัญหาการเสพติดสมาร์ทโฟนด้วยการเพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการเสพติดอุปกรณ์ดิจิทัลไว้ให้คำปรึกษาผู้ที่มีปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจกับพฤติกรรมของเด็กๆ ในประเทศหลังการใช้สมาร์ทโฟน เนื่องจากระบบการศึกษาของที่นี่ครูผู้สอนจะสั่งการบ้านผ่านแอพพลิเคชั่นสื่อสารอย่าง WhatsApp


 :41: :41: :41: :41:

ในประเทศเกาหลีใต้ นักเรียนหญิงวัย 19 ปีรายหนึ่งเสพติดโทรศัพท์มือถือจนถึงขั้นต้องเข้ารับการบำบัดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2013 โดยเธอเผยว่า โทรศัพท์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอ เพียงแค่คิดว่าไม่มีโทรศัพท์หัวใจจะเต้นแรงและมีเหงื่อออกตามนิ้วมือ

ด้วยเหตุนี้หลายประเทศเริ่มให้ความสำคัญและพยายามออกกฎเพื่อควบคุมการใชสมาร์ทโฟนของเยาวชน อย่างในเกาหลีใต้ รัฐบาลออกกฎให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่อายุต่ำกว่า 19 ปี ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่จับตาการใช้อินเทอร์เน็ตของเจ้าของโทรศัพท์ โดยพ่อแม่สามารถบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้ หากไม่ติดตั้งโทรศัพท์ก็จะใช้งานไม่ได้


 :91: :91: :91: :91: :91:

ส่วนในจีนซึ่งเป็นประเทศแรกๆ ที่จัดให้การเสพติดอินเทอร์เน็ตเป็นภาวะอาการซึมเศร้า ได้จัดตั้งแคมป์สำหรับเด็กที่อยากเลิกอาการเสพติดโทรศัพท์ในลักษณะคล้ายค่ายทหารในกรุงปักกิ่ง แต่ละคนจะต้องเวลาอยู่ที่แคมป์นี้ราว 3-4 เดือน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับพฤติกรรม โดยถูกตัดขาดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด


ที่มา www.m2fnews.com <http://www.m2fnews.com>
http://www.posttoday.com/digital/387078
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ