ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยติดกลุ่ม ดูวิดีโอ ผ่านจออุปกรณ์ดิจิทัล สูงสุดในโลก  (อ่าน 1098 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29359
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ไทยติดกลุ่ม ดูวิดีโอ ผ่านจออุปกรณ์ดิจิทัล สูงสุดในโลก

ผลสำรวจจากมิลวาร์ด บราวน์ ระบุคนไทยชมวิดีโอผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก แนะสร้างคอนเทนต์ให้เหมาะกับหน้าจอ

มิลวาร์ด บราวน์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยระดับโลก รายงานผลการวิจัยล่าสุดในหัวข้อ AdReaction: Video Creative in a Digital World พบว่า ผู้ใช้อุปกรณ์มัลติสกรีน (multiscreen users) ในประเทศไทย ใช้เวลารับชมวิดีโอคอนเทนท์ผ่านสื่อดิจิทัลมากกว่าโทรทัศน์
    โดยผู้บริโภคชาวไทยใช้เวลาอยู่กับหน้าจอรวมๆ แล้วนานถึง 463 นาทีต่อวัน ซึ่งร้อยละ54 ของเวลาที่ใช้บนหน้าจอนั้นเป็นการชมวิดีโอคอนเทนต์นานถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน (246 นาที, 4.1 ชั่วโมง) 
    เมื่อดูเจาะถึงเวลาในการชมวิดีโอนั้น พบว่า ร้อยละ 59 เป็นการรับชมผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟน (76 นาที) แท็บเล็ต (29 นาที) แล็ปท้อป (42 นาที) และร้อยละ 41 รับชมผ่านทางโทรทัศน์ (102 นาที)

ผลวิจัยยังแสดงข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกว่า ผู้บริโภคในประเทศไทยการใช้เวลาบนจอสมาร์ทโฟนสูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลกถึงร้อยละ 20 ทำให้ไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้เวลากับการดูวิดีโอมากที่สุดในโลก โดยมีไนจีเรียติดอันดับประเทศที่ดูวิดีโอมากที่สุดในโลก คือ 4.5 ชั่วโมงต่อวัน และฮังการีเป็นประเทศที่ใช้เวลาในการดูวิดีโอน้อยที่สุด คือ 2.5 ชั่วโมงต่อวัน

รายงานผลการวิจัยประจำปี 2558 ดังกล่าว จัดทำโดยบริษัท มิลวาร์ด บราวน์ บริษัทวิจัยชั้นนำของโลก ซึ่งได้มีการสำรวจผู้ใช้งานอุปกรณ์มัลติสกรีนผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต อายุระหว่าง 16-45 ปี จำนวนกว่า13,500 คน ใน 42 ประเทศ  นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา

 :96: :96: :96: :96:

ผลงานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมในการรับชมวิดีโอของผู้บริโภคว่า มีลักษณะการชมอย่างไรรับชมที่ไหน และทำไมถึงเลือกรับชมวิดีโอ ช่วงเวลาที่ผู้บริโภคเปิดดูโฆษณา และรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานโฆษณาในการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านจออุปกรณ์ที่แตกต่างกันควรเป็นอย่างไร

สำหรับประเทศไทย ผลวิจัยระบุว่าการรับชมวิดีโอโดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บ้านและผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นหลัก ในขณะที่การชมวิดีโอผ่านสื่อดิจิทัลเกิดขึ้นทั้งที่บ้าน ในขณะเดินทางและที่ทำงาน  ผลวิจัยยังพบอีกว่า โทรทัศน์มักเป็นช่องทางการบริโภคสื่อภายใต้บริบททางสังคม ซึ่งผู้บริโภคแนวโน้มที่จะดูทีวีร่วมกับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว ส่วนการดูผ่านสื่อดิจิทัลนั้น ผู้บริโภคชาวไทยซึ่งมีมากถึงร้อยละ 50 มักทำโดยลำพัง

ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสต่างๆ สำหรับบริษัทและนักการตลาดของไทย เพื่อสร้างสรรค์วิดีโอคอนเทนท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ ดังนี้

 ans1 ans1 ans1 ans1

1. คนไทยรับได้กับการเป็นเป้าหมายทางการตลาด แต่ไม่ชอบถูกสะกดรอยตาม ผลวิจัยพบว่าผู้บริโภคชาวไทยเป็นกลุ่มที่ยอมรับได้มากที่สุดสำหรับการถูกจัดให้เป็นกลุ่มเป้าหมายของวิดีโอโฆษณาตามแบรนด์ที่ตนชื่นชอบ (ประเทศไทยรับได้ร้อยละ 43  ทั่วโลกรับได้ร้อยละ 40) และตามความสนใจ (ประเทศไทยรับได้ร้อยละ 42  ทั่วโลกรับได้ร้อยละ 41) แต่ชาวไทยจะยอมรับน้อยที่สุดหากเป็นโฆษณาที่เข้าถึงตัวเอง โดยเป็นผลมาจากการติดตามประวัติการเข้าเว็บไซต์ โดยเฉพาะการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (ประเทศไทยรับได้ร้อยละ 27 ทั่วโลกรับได้ร้อยละ 25) ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แอพพลิเคชั่นที่คำนึงถึงเรื่องความละเอียดอ่อนด้านความรู้สึกมาใช้กำหนดกลุ่มเป้าหมายน่าจะมีความเหมาะสมที่สุด

2. ความสำคัญของปัจจัยแวดล้อม ร้อยละ 43 ของผู้บริโภคชาวไทยกล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะข้าม(Skip) การชมวิดีโอโฆษณาออนไลน์น้อยลง และจะรู้สึกสนใจมากขึ้นหากโฆษณาวิดีโอออนไลน์นั้นมีการนำเสนอสิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นรูปแบบโฆษณาที่คนไทยเปิดรับได้มากที่สุด

นอกจากนี้ผู้บริโภคชาวไทยยังเปิดรับโฆษณาที่สามารถข้ามการรับชมได้ (ประเทศไทยรับได้ร้อยละ28 ทั่วโลกรับได้ร้อยละ 34) และโฆษณาในรูปแบบที่มี click-to-play ซึ่งให้อำนาจผู้บริโภคในการเลือกรับชม (ประเทศไทยยอมรับร้อยละ 36  และทั่วโลกยอมรับร้อยละ 28)  ผู้บริโภคยังรู้สึกด้วยว่า มีอำนาจในการเลือกรับชมโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลมากกว่าการชมผ่านโทรทัศน์ โดยคนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าอุปกรณ์ดิจิทัลที่ทำให้รู้สึกว่ามีอำนาจมากที่สุดในการเลือกชมโฆษณาคือ แล็ปท็อป (ประเทศไทยลงความเห็นร้อยละ 69 ทั่วโลกลงความเห็นร้อยละ 63)

3. เนื้อหาสำคัญที่สุด ผลวิจัยระบุว่า การคำนึงถึงสื่อดิจิทัลตั้งแต่ขั้นตอนแรกของกระบวนการสร้างสรรค์งานโฆษณาเป็นสิ่งจำเป็น และควรคำนึงถึงความเหมาะสมของโฆษณาดังกล่าวเมื่อปรากฏบนจออุปกรณ์ต่างๆ และแม้รูปแบบของวิดีโอโฆษณาที่ผู้บริโภคสามารถกดข้ามได้ ยังคงเป็นสิ่งท้าทายสำหรับการสร้างสรรค์งานโฆษณา แต่ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ บริษัทจึงควรมุ่งสร้างความน่าสนใจให้เกิดขึ้นให้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกของวิดีโอโฆษณา


 :49: :49: :49: :49: :49:

อุษณา จันทร์กล่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลวาร์ด บราวน์ ไฟร์ฟลาย (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า ปัจจุบัน เราสามารถเข้าถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางต่างๆ ได้ในวงกว้าง แต่แบรนด์ต้องใส่ใจในรายละเอียดเมื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่ถนัดและรอบรู้การใช้สื่อดิจิทัล เพราะเราไม่สามารถใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ แบบเดียวกับที่ใช้กับโทรทัศน์ได้อีกต่อไป ผลวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยได้พัฒนาไปพร้อมกับอิทธิพลของสื่อดิจิทัล และมีความต้องการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกรับชมผ่านหน้าจอต่างๆ ดังนั้น นักการตลาดจึงควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับมือให้เหมาะสม


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.posttoday.com/digital/411583
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

    มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

       ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา