ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'มจร' บวชเณรทั่วไทย เสริมทักษะภาษาอังกฤษ ปลูกฝังศีล ๕  (อ่าน 952 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



'มจร' บวชเณรทั่วไทย เสริมทักษะภาษาอังกฤษ ปลูกฝังศีล ๕

มจร ผนึกกำลังพระสงฆ์ทั่วประเทศ จัดบวชเณรและอบรมเยาวชนสร้างคนดีคนเก่งกว่า ๖๘,๔๖๒ รูป/คน ฝึกทักษะภาษาอังกฤษปลูกฝังศีล ๕

เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ กองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดสัมมนาหัวหน้าหน่วยอบรมโครงการบรรพชาและอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อน ต้านยาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวน ๔๕๒ แห่ง ขึ้น ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อกำหนดแนวปฏิบัติในการจัดโครงการฯให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและรับฟังนโยบายจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัย

การจัดโครงการดังกล่าวฯ มีกองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี เป็นผู้กำกับดูแลและอำนวยความสะดวกให้แด่หัวหน้าหน่วยที่เข้าร่วมอบรมสัมมนา โดยลำดับพิธีการได้เริ่มขึ้นในเวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นพิธีเปิดโครงการฯ โดยมีพระเดชพระคุณพระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มจร รองเจ้าคณะภาค ๖ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และเปิดงาน โดยมี พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี ได้ถวายรายงานว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทย โดยจัดการศึกษาพระพุทธศสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม ตามปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ผู้ทรงสถาปนามหาวิทยาลัยที่ต้องการให้ศึกษาพระไตรปิฏก และวิชาชั้นสูงสำหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ทั้งศิษย์ปัจจุบัน และ ศิษย์เก่าของ มจร ได้ออกไปบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาติ ซึ่งการจัดโครงการบรรพชาสามเณรและอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อนนี้ ได้เริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๓  เป็นต้นมาเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย ให้เป็นคนดีมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ เป็นเยาวชนที่มีความรู้ และมีความประพฤติดีงามตามหลักศีลธรรมของพระพุทธศาสนา เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักหน้าที่ มีระเบียบวินัย ใฝ่ใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รู้จักกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณ และเพื่อให้เยาวชนได้รู้จักโทษ รวมไปถึงวิธีป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากยาเสพติด อันเป็นภัยอันตรายระดับชาติ ในปัจจุบันนี้


 :96: :96: :96: :96:

พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต กล่าวต่ออีกว่า ในการจัดอบรมสัมมนาในครั้งนี้ มีหัวหน้าหน่วยโครงการฯ ที่แจ้งความประสงค์ จะขับเคลื่อนตามนโยบายของ มจร แล้วถึง ๔๕๒  แห่งจากทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเชิงปริมาณของผู้ที่จะเข้าอบรมในโครงการฯ มีจำนวนดังนี้ (๑) สามเณร จำนวน ๓๓,๖๑๒รูป (๒) เยาวชน จำนวน ๑๖,๙๔๑ คน (๓) ประชาชนทั่วไป จำนวน ๓๓,๑๕๖ คน วัตถุประสงค์ในการจัดการอบรมสัมมนาหัวหน้าหน่วยโครงการฯ ครั้งนี้ เพื่อให้หัวหน้าหน่วยมีเทคนิคในการอบรมเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ และร่วมกันวางแผนในการพัฒนาการอบรม พัฒนาทีมงานพระวิทยากร ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการอบรม เด็กและเยาวชนผู้เข้ารับการอบรมก็จะเป็นคนดีของสังคม ช่วยกันสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา และพัฒนาประเทศชาติสืบไป

การเปิดโครงการและบรรยายพิเศษ โดยพระราชวรมุนี,ดร. (พล อาภาโร ป.ธ.๙) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต รองเจ้าคณะภาค ๖ ได้กล่าวเปิดงานว่า ต้องขออนุโมทนาขอบคุณทุกรูปที่ได้เสียสละทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา เป็นพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม และได้ฝากข้อคิดความเห็นให้หัวหน้าโครงการฯต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อย ๔ ข้อ คือ
   (๑) มีความรู้ดี
   (๒) มีความประพฤติเป็นตัวอย่าง
   (๓) มีทักษะชีวิต
   (๔) มีจิตสาธารณะ

ทำอย่างไรโครงการฯ จึงจะมีศาสนทายาทเพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ต้องคิดใหม่ทำใหม่กำหนดกุศโลบาย สร้างรากแก้วหน่อแก้วของพระพุทธศาสนา ทำให้เด็กมาอยู่กับเรามีพฤติกรรมเปลี่ยนให้ได้ ปลูกศรัทธาผู้ปกครอง อาจใช้ภาษาอังกฤษสอนให้ลูกเณรแผ่เมตตาเป็นภาษาอังกฤษ นำศีล ๕ มาประยุกต์ในโครงการสอนงานคณะสงฆ์ อย่างน้อยที่สุดกิจกรรมสำคัญคือ ทำวัตร บิณฑบาต ปัดกวาดเสนาสนะ บริหารศรัทธาทำให้ชาวบ้านมั่นใจได้ว่า พระสงฆ์พระเณรมีประโยชน์กับสังคม



ภาคบ่ายพระเดชพระคุณพระศรีคัมภีรญาณ,รศ.ดร. รองอธิการดีฝ่ายวิชาการ ได้บรรยายให้ความรู้หัวหน้าหน่วยอบรมว่า ต้องขอบคุณและอนุโมทนากับทุกท่านที่เสียสละทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาและช่วยพัฒนาสังคม การบริการวิชาการแก่สังคมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยผมพูดอยู่ประจำเมื่อมีโอกาสใน ๓ เรื่องสำคัญ คือ
   (๑) การปฏิบัติศาสนกิจ
   (๒) ครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน
   (๓) โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน

ซึ่งผมทราบว่ามีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในวันนี้กล่าวโดยเฉพาะเรื่องบทบาทพระสงฆ์กับการคาดหวังของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ผมมีข้อคิดความเห็นใน ๗ ประเด็นสำคัญ
   (๑) พระสงฆ์สามารถตอบคำถามข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับหลักธรรมคำสอน
   (๒) เป็นผู้นำในการประกอบพิธีกรรทางพระพุทธศาสนา
   (๓) เป็นคนกลางให้กับชาวบ้าน
   (๔) มีสถานที่ปฏิบัติธรรมและนำปฏิบัติได้
   (๕) เป็นที่พึ่งในการให้การอบรมลูกหลานชาวบ้าน
   (๖) แก้ปัญหาต่างๆให้กับชุมชน และ
   (๗) ให้การศึกษาแก่ลูกหลานชาวบ้าน

ฝากทุกท่านนำไปต่อยอดและกำหนดทิศทางการทำงานให้ตรงกับความคาดหวังของชาวบ้านและการจัดโครงการบรรพชาและอบรมเยาวชนฯก็จะเป็นประโยชน์กับพระพุทธศาสนาและสังคม


 st11 st11 st11 st11 st11 st11

หลังจากนั้นหัวหน้าหน่วยอบรมได้รับการแนะนำเทคนิควิธีการอบรมเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพระมหาวิชาญ สุวิชาโน ผู้อำนวยการส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรมและทีมงานวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ได้แนะนำเทคนิควิธีที่สนุกสนานและสามารถนำไปใช้ได้จริงในโครงการฯ ภายหลังจากนั้นได้มีพิธีมอบวุฒิบัตรและปิดโครงการฯโดย พระเดชพระคุณพระราชวรมุนี,ดร. รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ได้กล่าวขอบคุณและเน้นย้ำอีกครั้งถึงภารกิจสำคัญในการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา หลังจากนั้นได้ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกันเป็นอันเสร็จพิธี


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20160331/225116.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ