พิมพ์

[raponsan]

วัดโสธรเหงา นักท่องเที่ยวน้อย คนโบกรถครวญ ขาดรายได้

ฉะเชิงเทรา-วัดโสธรยังคงเงียบเหงาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดนักขัตฤกษ์ เหตุมีผู้คนเดินทางมาทำบุญอย่างบางตา ขณะโดยรอบบริเวณวัดไม่มีคนคอยโบกเรียกให้รถเข้าจอดและชวนซื้อดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบูชาอีก ด้านคนค้าขายระบุยอดลูกค้าหดหายตกต่ำ แต่ยังคงพอขายได้สำหรับลูกค้าขาประจำเท่านั้น
       
       วันที่ 5 พ.ค.59 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศนักท่องเที่ยวมาสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภายในบริเวณวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบว่า ในวันนี้มีพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญไหว้พระค่อนข้างบางตา ทั้งที่เป็นวันหยุดยาวในวันนักขัตฤกษ์ จากการสอบถามพบว่าในช่วงเช้ายังมีประชาชนเข้ามาสักการะอยู่ แต่ในช่วงบ่ายนั้นบรรยากาศ กลับเงียบเหงา จนทำให้พื้นที่ภายในบริเวณวัดที่เคยมีผู้คนหน้าแน่นกลับโล่งเตียน หายไปอย่างผิดหูผิดตา
       
       จากการสอบถาม นางปราณี หาบุญมี อายุ 53 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเรือ 10 บาท แปดริ้ว กล่าวว่า ในวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญที่วัดโสธร มีจำนวนน้อยกว่าทุกวัน ทำให้รายได้จากการขายก๋วยเตี๋ยวลดลง จากแต่เดิมเคยขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งมีรายได้ดี โดยขณะนี้ขายได้เพียงเฉพาะคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำเท่านั้น เนื่องจากตนขายถูก โดยขายก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 10 บาท และขายข้าวจานด่วน หรืออาหารตามสั่งเพียงจานละ 40 บาทเท่านั้น จึงยังพออยู่ได้
       

       ด้านกลุ่มแม่ค้าขายดอกไม้ ธูปเทียน และผู้มีอาชีพเรียกโบกรถ ด้านหน้าวัดโสธรต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยถึงความเดือดร้อนกันอย่างถ้วนหน้า หลังจากทางจังหวัดและหน่วยราชการได้ใช้มาตรการเข้มงวด กวดขันจับกุมไม่ให้มีการเรียกโบกรถอีกต่อไป โดยเฉพาะทางฝ่ายตำรวจและทหาร ที่ออกกวาดล้างจับกุมผู้มีอาชีพโบกรถหน้าวัดโสธรวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา อย่างหนัก จนไม่สามารถประกอบอาชีพทำกินได้
       
       โดยนางบุญช่วย ประสานสุข อายุ 63 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่เลขที่ 40 ม.5 ต.ศรีมหาโพธิ์ ต.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมาอยู่อาศัยที่บ้านของสามีที่เสียชีวิตไปแล้วในบริเวณใกล้วัด และมีอาชีพเรียกโบกรถบริเวณด้านฝั่งตรงข้ามพระอุโบสถหลังใหม่ ด้านหน้าวัดโสธร เพื่อรับส่วนแบ่งรายได้จากแม่ค้า ร้านขายดอกไม้ธูปเทียน และพวงมาลัย กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของคนเพียงคนเดียวอย่างหนัก จนทำกินไม่ได้ และไม่มีอะไรจะกินกันอยู่แล้ว หลังถูกทางเจ้าหน้าที่ไล่จับกุม ไม่ให้เรียกโบกรถ
       
       ทำไมทางเจ้าหน้าที่จึงไม่ไปตามเอาตัวคนที่โพสต์เฟซบุ๊ก ให้มามีชี้ตัวเลยว่าคนที่ขายดอกไม้ธูปเทียนเครื่องไหว้บูชาเกินจริง ถ้าพบร้านไหนที่ทำแบบนั้น ให้ทางเจ้าหน้าที่จับตัวไปดำเนินคดีเลย หรือให้เขาเลิกขายไปเลย เพราะทำแบบนี้คนที่ค้าขายรายอื่นๆ อีกหลายร้อยคนต้องมาเดือดร้อนไปไปด้วย

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000045626