ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “สันติศึกษา” มุ่งสร้างวิศวกรสันติภาพชั้นสูง เพื่อสังคมสันติสุข  (อ่าน 1133 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



“สันติศึกษา” มุ่งสร้างวิศวกรสันติภาพชั้นสูง เพื่อสังคมสันติสุข

อีกกิจกรรมหนึ่งเนื่องในงานเฉลิมฉลอง “วันวิสาขบูชา” วันสำคัญสากลของโลก ปี 2559 ที่หลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) กำลังเตรียมงาน “รวมพลคนทำงานสันติภาพ” จาก 5 ทวีปทั่วโลก ภายใต้หัวข้อ “จากสันติภาพโลกสู่สันติภาพชุมชน” (From Global Peace to Local Peace) เพราะความเชื่อที่ว่า “สันติภาพชุมชนคือจุดเริ่มต้นสันติภาพโลก” นับเป็นการรวมพลคนทำงานสันติภาพจาก 17 ประเทศ 5 ทวีป ครั้งสำคัญ เป้าหมายเพื่อสร้างตลาดสันติภาพ เปิดพื้นที่ให้เกิดการร่วมเรียนรู้ และแบ่งปันประสบการณ์ในการสร้างสันติสุข โดยกำหนดจัดให้มีขึ้น ณ บ้านท่าคอยนาง อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2559

พระอาจารย์หรรษา ธัมฺมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มจร. ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นของโครงการหมู่บ้านสันติสุข แล้วพัฒนาการสู่ตำบลสันติสุข จากตำบลสันติสุข ก้าวสู่อำเภอสันติสุข ซึ่งทุนทางสังคมที่สำคัญที่สุดที่จะนำมาต่อยอดการพัฒนาคือ “พลังบวร” หากชุมชนต่างๆ ช่วยกันดึงพลังนี้ออกมาใช้อย่างเต็มศักยภาพ ย่อมเชื่อได้ว่า ชุมชนฐานรากจะมีความเข้มแข็ง และร่มเย็นเห็นสันติสุข ซึ่งจะส่งผลต่อสันติภาวะของสังคมโดยภาพรวม โครงการสามเณรเย็นยิ้มจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่การเป็น “สังคมสันติสุข” อย่างยั่งยืน



พระอาจารย์หรรษา กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของแนวคิดว่า อาตมานำเอาต้นแบบของหมู่บ้านสรรโวทัย เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา โดยท่านอริยะตะเน เป็นผู้ก่อสร้างหมู่บ้านสรรโวทัย เพื่อให้มีรูปแบบของสันติภาพที่ต้องเริ่มจากหมู่บ้านตนเองก่อน เช่นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าตรัสบอกแก่พระสาวกรุ่นแรก 60 รูปให้เดินทางกลับไปพัฒนาบ้านของตนเอง จากฐานราก จากชุมชนที่ตนเองอยู่ สันติภาพไม่ได้มาจากไหน แต่เริ่มต้นจากหมู่บ้านจึงจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น จากนั้นอาตมาจึงวางแนวทางจากหมู่บ้านสันติสุข ที่มี 4 ตัวชี้วัด คือ

1.เรื่องกายภาพหรือสิ่งแวดล้อม พัฒนาเรื่องอาชีพ เศรษฐกิจพอเพียง การออม การปรับสภาพสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่อาศัย ให้เกิดเย็นตาเย็นใจ
2.เรื่องพฤติภาพ ด้วยการนำเอาศีล 5 มาเป็นพื้นฐานของพฤติภาพหรือพฤติกรรม ให้เกิดการประกันชีวิต ประกันทรัพย์สิน ประกันครอบครัว ประกันสังคมและประกันสุขภาพ เพราะศีล 5 กับการอภัยทานเป็นเรื่องเดียวกัน
3.เรื่องจิตภาพ คือการพัฒนาเรื่องจิตใจ เช่น การจัดบวชสามเณรเย็นยิ้ม มีการจัดค่ายคุณธรรมจริยธรรมของเด็ก พาพ่อแม่ของเด็กมาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมปฏิบัติกรรมฐานในวัด และการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่นศาลปู่ศาลตา การบวชต้นไม้ การส่งเสริมอาชีพ ซึ่งพื้นฐานก็คือการพัฒนาจิตใจของชาวบ้านนั่นเอง ต้องช่วยเขาพัฒนาให้มีความสงบร่มเย็นมากขึ้น และ
4. เรื่องปัญญาภาพ พัฒนาเรื่องปัญญาไม่ให้คิดไปเอารัดเอาเปรียบคนอื่น มีปัญญาในการที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ดูแลเอาใจใส่เพื่อนมนุษย์ มีปัญญาว่าจะทำอย่างไรให้ผู้อื่นมีความสุข ซึ่งไม่ใช่ปัญญาที่คิดจะเอารัดเอาเปรียบ ไปช่วงชิงอะไรของเขา ทั้งหมดนี้คือกรอบที่อาตมาทำในช่วงเวลาที่ผ่านมา จึงทำให้มีหมู่บ้านสันติภาพ เกิดหมู่บ้านสันติสุขตามมา



พระอาจารย์หรรษา กล่าวถึงภาคปฏิบัติของนิสิตปริญญาโทสันติศึกษาว่า บ้านท่าคอยนาง ต.สวาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เป็นหมู่บ้านต้นแบบของหมู่บ้านสันติสุข ภายหลังนิสิตปริญญาโทสันติศึกษา ลงพื้นที่นำวิชาความรู้ และหลักการของศีล 5 เป็นกลไกการพัฒนา พบว่า

วิถีชีวิตของชาวบ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการออมก็ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดีงามมากขึ้น พฤติกรรมก็เปลี่ยนมากขึ้น จากชาวบ้านที่เคยรุกล้ำถนนหนทางที่เป็นสาธารณะ เดิมทีทางเข้าหมู่บ้านขนาดกว้าง 8 เมตร รุกจนเหลือ 3 เมตรบ้าง 4 เมตรบ้าง เมื่อนำวิชาสันติวิธีกับประชาคมหมู่บ้านไปเจรจา ผู้ที่รุกล้ำ 60-70 ราย ก็ยอมคืนที่ดินให้กลับมาเป็นทางขนาด 8 เมตร 7 เมตรเช่นเดิม นอกจากนี้เรื่องของจิตใจก็มีความสุข มีความเยือกเย็นจากที่เราพาเขาไปปฏิบัติธรรม เดินจงกรม ร่วมกิจกรรมบวชสามเณรเย็นยิ้ม บวชเนกขัมมะสันติบารมี มีการจัดกิจกรรมทุกๆ วันสำคัญทางศาสนาตลอดระยะเวลา 2 ปี จึงเห็นได้ชัดจากพฤติกรรมที่มีการตักบาตรพระมากขึ้น ใส่บาตรพระกันแทบทุกหลังคาเรือน อย่างนี้เป็นต้น

“เรากำลังพัฒนาหมู่บ้านสันติสุขไปสู่หมู่บ้านช่อสะอาด หมู่บ้านช่อสะอาดนี้ ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ กำลังลงไปดูงาน โดยผู้บริหารหลักสูตรป.ป.ช.ทุกรุ่นจะต้องส่งนักศึกษาลงไปดูงานในพื้นที่จริง หมู่บ้านช่อสะอาดนี้ มี 4 สะอาด คือ สะอาดกาย สะอาดพฤติกรรม สะอาดจิตใจ สะอาดปัญญา หลักการก็ต่อยอดมาจากหมู่บ้านศีล 5 เมื่อต่อยอดมาเป็นหมู่บ้านสันติสุขแล้ว ก็ต่อยอดมาเป็นหมู่บ้านช่อสะอาด หมู่บ้านต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นผลผลิตโดยนิสิตของเรา” พระอาจารย์หรรษากล่าว


 st11 st11 st11 st11

เมื่อถามว่า นิสิตระดับปริญญาโทสันติศึกษาจบแล้วจะไปไหน พระอาจารย์หรรษากล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ปัจจุบันเขาเหล่านั้นนำวิชาความรู้ไปใช้กับหน้าที่การงานของตน บ้างก็ไปเป็นผู้ไกล่เกลี่ยประนีประนอมประจำศาล ทั้งศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลกาญจนบุรี ศาลสระบุรี ศาลธัญบุรี และบ้างก็ไปเปิดศูนย์ประนีประนอมข้อพิพาทภาคเอกชน

พระอาจารย์หรรษา กล่าวย้ำว่า โดยความร่วมมือของสถาบันพระปกเกล้าและสำนักงานศาลยุติธรรม ที่เห็นความสำคัญของการสร้างวิศวกรสันติภาพระดับสูง สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงได้อนุมัติหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) สาขาวิชาสันติศึกษา แล้ว และขณะนี้กำลังดำเนินการรับสมัครผู้เข้าศึกษาในรุ่นแรกในระดับปริญญาเอก ส่วนระดับปริญญาโทที่เป็นพื้นฐาน ยังคงเปิดรับสมัครต่อไปจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2559 สอบถามโทร. 09-9924-5401, 0-3524-8000 ต่อ 8528 หรือเข้าดูที่ www.ps.mcu.ac.th


ขอบคุณภาพข่าวจาก
tbcnews.org/2016/05/09/สันติศึกษา-มุ่งสร้างว/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ