ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อ่านแล้วน้ำตาจะไหล  (อ่าน 976 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
« เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2016, 09:39:15 am »
0



อ่านแล้วน้ำตาจะไหล

อ่านบทความของอาจารย์ สุกรี เจริญสุข คณบดี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยการดนตรีชั้นนำของไทย เรื่อง “สิงคโปร์ตัวอย่างที่ควรยกย่อง” ใน นสพ.มติชนวันก่อน อ่านแล้วน้ำตาจะไหลอย่างที่อาจารย์เขียน

อาจารย์สุกรี เขียนบทความนี้หลังจากนำทีมงานวิทยาลัยไปดูงานที่สิงคโปร์ เพราะเห็นว่าเป็นประเทศตัวอย่างในเรื่องการบริหารจัดการในทุกเรื่องได้สำเร็จ ผมเลยขออนุญาตอาจารย์นำบทความบางส่วนมาแชร์กันตรงนี้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

“วันนี้สิงคโปร์อายุได้ 51 ปี (ตั้งประเทศ พ.ศ.2508) มีความเจริญก้าวหน้า โดยอาศัยเพียงการบริหารจัดการเท่านั้น เพราะสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรใดๆที่สำคัญ มีเฉพาะมันสมองและฝีมือในการบริหารจัดการเท่านั้น หากได้มีการแลกเปลี่ยนผู้นำประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนการบริหารกันบ้างก็น่าจะดี เอาระหว่างชาติประเทศอาเซียนด้วยกัน ก็คงจะดีไม่น้อย เช่น ให้ผู้บริหารของไทยไปบริหารสิงคโปร์สัก 1 ปี แล้วให้ผู้บริหารสิงคโปร์มาบริหารประเทศไทยสัก 1 ปี ซึ่งก็น่าสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อการบริหาร 1 ปีผ่านไป


 :96: :96: :96: :96:

คนไทยที่ได้ผู้บริหารจากสิงคโปร์ 1 ปี ตื่นขึ้นมาดีใจจนน้ำตาไหลว่า แค่ 1 ปีทำไมจึงเจริญได้ถึงเพียงนี้ ในขณะเดียวกันเมื่อชาวสิงคโปร์ ซึ่งได้ผู้บริหารไทยไปใช้บริการ 1 ปี ตื่นขึ้นมาก็คงน้ำตาไหลเช่นกันว่า แค่ 1 ปี สามารถที่จะสร้างความเสียหายได้ถึงเพียงนี้”

อาจารย์สุกรี ยกตัวอย่าง ยุง หนู แมลงสาบ (ที่มีอยู่เกลื่อนกรุงเทพมหานคร ขนาดร้านขายกระเป๋าแบรนด์หรูในห้างใหญ่ยังเคยถูกหนูเข้าไปกัดเสียหายมาแล้ว) ว่า สิงคโปร์ไม่มียุง ไม่มีหนู ไม่มีแมลงสาบ

ทั้งๆที่เป็นประเทศร้อนชื้น มีอาหารการกินเหมือนเมืองไทย แต่เขาบริหารจัดการยุง กำจัดหนู กำจัดแมลงสาบได้อย่างไร เมื่อเขากำจัดได้ ก็เพิ่มรายได้จากลูกค้าชาวตะวันตกที่กลัวยุง กลัวหนู กลัวแมลงสาบ


 :03: :03: :03: :03: :03:

อาจารย์สุกรี ยกตัวอย่าง พุทธมณฑล ที่อยู่ติดกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ว่า

“คิดแค่พื้นๆ หาก นายอำเภอพุทธมณฑล ร่วมมือกับ สำนักพุทธศาสนา สร้างเมืองพุทธมณฑลให้เจริญ เพียงปลูกป่า ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่เหลือๆในเขตของพุทธมณฑล (2,500 ไร่) ให้ร่มรื่น ทำความสะอาด ดูแลเอาใจใส่ เอาป้ายที่ติดประจานหน่วยงานต่างๆที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ จัดการกับรถที่เข้าไปจอด และจัดการเหลือบที่เข้าไปทำมาหากินกับพุทธมณฑลรอบๆ พุทธมณฑล พุทธมณฑลก็จะเจริญขึ้นทันที พื้นที่ป่าเล็กๆในพุทธมณฑลนั้น ก็ใหญ่กว่าป่าในสิงคโปร์แล้ว”

บทความ อาจารย์สุกรี เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารทุกระดับ ทั้งในภาครัฐและเอกชน การบริหารจัดการที่ดี สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ทุกสิ่ง ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้มีอำนาจเอง อย่างเรื่อง ยุง หนู แมลงสาบ ในกรุงเทพมหานคร ถ้าวันนี้มีการเปิดท่อระบายน้ำใน กทม.แล้วไล่หนู แมลงสาบ ออกจากท่อ ไม่รู้จะมีหนูกี่ล้านตัว แมลงสาบอีกกี่สิบล้านตัว ที่อาศัยอยู่ในท่อ กทม. ที่ไม่เคยมีการบริหารจัดการเรื่องความสะอาดเหมือนสิงคโปร์เลย


 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

เรื่องการปลูกต้นไม้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อ 30 ปีก่อน สื่อเล็กๆกลุ่มหนึ่งรวมทั้งผมอยู่ด้วย ได้รับเชิญไปดูการถมเกาะของสิงคโปร์ ก็ได้เห็นการบริหารจัดการของสิงคโปร์อย่างที่อาจารย์เห็น สมัยนั้นไทยมี พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกฯ วันหนึ่งสื่อกลุ่มผมได้มีโอกาสสนทนากับ นายกฯเกรียงศักดิ์ ก็ได้เสนอแนวคิดเรื่องการปลูกต้นไม้ในเมืองแบบสิงคโปร์ นายกฯเกรียงศักดิ์ เห็นด้วย และสั่งการให้มีการดำเนินการทันที

เริ่มจาก ต้นตาเบบูย่าดอกสีชมพู ให้ กทม.นำต้นขนาดใหญ่ไปปลูกริมถนน ดอกบานแล้วสวยงามมาก แต่ดอกร่วงเร็ว คนก็ติว่าทำให้พื้นสกปรก เลยไม่ปลื้ม แต่วันนี้หลังจากคนไทยไปชื่นชมดอกซากุระญี่ปุ่น เห็นดอกซากุระร่วงพลิ้วลงสู่พื้น ทำให้พื้นดินเป็นสีชมพูสวยงาม วันนี้คนไทยก็กลับมาชื่นชมความสวยงามของดอกตาเบบูย่า ทั้งที่มีมาหลายสิบปีแล้ว

นายกฯเกรียงศักดิ์ ยังได้สั่งขนย้าย กองขยะดินแดง ซึ่งเป็นที่ตั้ง สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ในปัจจุบัน เอาขยะไปถมที่รกร้างสร้างเป็น “สวนจตุจักร” ที่ร่มรื่นให้คนกรุงได้พักผ่อน กำจัดภูเขาขยะกลางเมืองออกไปได้ แถมยังได้สวนสาธารณะขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ทุกอย่างก็แค่การบริหารจัดการเท่านั้น ขอเพียงคิดให้เป็น และตรงไปตรงมา.


“ลม เปลี่ยนทิศ”



คอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย โดย ลม เปลี่ยนทิศ 12 พ.ค. 2559 05:01
http://www.thairath.co.th/content/618574
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ