พิมพ์

[raponsan]

รัฐบาล เร่งคลอด กฎหมาย อุปภัมภ์พุทธศาสนา

“สุวพันธุ์”พร้อมหนุนพ.ร.บ.อุปภัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา - พ.ร.บ.การศึกษาสงฆ์ ให้ทันอายุรัฐบาลในปี 2560 ขณะที่เรื่องตั้งสังฆราชองค์ที่ 20 ยังอยู่ในมือ ชี้ พศ.ส่งข้อมูลสถานการณ์-ปัญหาบางส่วนให้พิจารณาแล้ว

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวในการบรรยายพิเศษประชุมสัมมนาครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางและหนใต้ว่า สิ่งที่รัฐบาลมองการพัฒนากิจการพระพุทธศาสนาไปข้างหน้า ต้องการเห็นความสำเร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 ได้มีการบัญญัติหน้าที่ของรัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นไว้ โดยวรรค 2 ระบุไว้ว่า ในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาที่รัฐพึงกระทำ 2 เรื่องหลัก คือ
    1.ต้องส่งเสริมการศึกษาคณะสงฆ์ และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
    2.รัฐพึงกำหนดมาตรการและกลไกในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ไม่ให้ถูกบ่อนทำลาย ให้พุทธศาสนิกชนเข้ามามีส่วนร่วมในกลไกที่รัฐกำหนดขึ้น ได้นำมาเป็นกรอบสนับสนุนพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง

 

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ร่างพ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม และร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา เป็นกฎหมายรากฐานสำคัญพัฒนาพระพุทธศาสนาในอนาคต รัฐบาลอยากสนับสนุนได้ผ่านออกมาใช้ภายในรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม อยู่ในขั้นตอนขอความเห็นในส่วนราชการต่างๆ และจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ค.2559

ซึ่งทุกอย่างน่าจะผ่านไปด้วยดี หากกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอี่นๆที่เกี่ยวข้องเห็นชอบ ตนก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) หากเป็นไปได้จะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2559 และภายในปี 2560 ก็จะสามารถประกาศใช้ได้

ส่วนร่างพ.ร.บ.อุปภัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว เพียงแต่จะต้องนำหารือมส.อีกครั้งว่า จะต้องปรับเนื้อหาใดบ้าง และคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปีเดียวกัน “ปัจจุบัน มส.แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาขึ้นมา 6 ด้านและ 1 ด้านพัฒนาพุทธมณฑลเรียบร้อยแล้ว และทราบว่า มส.มีมติมอบหมายเจ้าคณะจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปในระดับจังหวัดขึ้น ซึ่งผมมองว่าหากคณะสงฆ์ดำเนินการเช่นนี้ การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาจะเป็นไปตามที่รัฐบาลและคณะสงฆ์ตั้งเป้าหมาย จะเกิดประสิทธิภาพ มีผลสัมฤทธิ์” รมต.สำนักนายกฯกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามความคืบหน้าการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องยังอยู่ที่ตนและขณะนี้ พศ.ได้ส่งข้อมูลบางส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาและสถานการณ์ทั้งฝ่ายสนับสนุน คัดค้าน การเสนอนามสมเด็จพระสังฆราช มาให้ตนพิจารณาแล้ว

ขอบคุณข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/397148