ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “กัลปพฤกษ์เรืองแสง” จากพุทธศิลป์สู่ อันซีนอินไทยแลนด์ ณ เมืองอุบล  (อ่าน 1818 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




“กัลปพฤกษ์เรืองแสง” จากพุทธศิลป์สู่ อันซีนอินไทยแลนด์ ณ เมืองอุบล

หากพูดถึงจังหวัดอุบลราชธานี เมืองดอกบัวงามแล้ว คงต้องนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม และ ประเพณีแห่เทียนพรรษา ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลฯ ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 ก.ค. 59 แต่เดี๋ยวก่อนค่ะคุณผู้ช้มมมมมมมมมมมมมมมมม

วันนี้ผมไม่ได้จะพาเที่ยวงานแห่เทียนพรรษานะครับ แต่จะพาไปชมความงดงามของ “ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ต้องไปชมความงดงามให้ได้ เมื่อไปเยือนอุบลฯ

“วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว” เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ของอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เหมือนการจำลองสภาพแวดล้อมของป่าหิมพานต์ หากเราขับรถไปถึงจะมองเห็นอุโบสถสีทองอร่ามตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา ยิ่งตอนเย็นแสงสีทองสาดส่อง ตัวอุโบสถยิ่งเหลืองอร่ามงดงามมากๆครับ




ตัวอุโบสถถอดแบบสถาปัตยกรรมมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว  เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า ทางเข้าเป็นต้นสาละ ถัดมาเป็นต้นมะขามป้อม ต้นสมอ และด้านในสุดเป็นต้นโพธิ์ ส่วนพระประธานมีผู้นำมาถวายวัด ดั้งเดิมนั้นเป็นองค์พระพุทธชินราช แต่ช่างคุณากรได้ออกแบบใหม่โดยถอดรัศมีและพระเกตุมาลาออก แล้วแกะสลักไม้เป็นต้นโพธิ์ไปวางอยู่ด้านหลังพระประธาน กลายเป็นพระประธานที่สวยงามแก่ผู้มาเห็นเป็นอย่างมาก

หากจะมาเยี่ยมชมและสักการะวัดสิรินธรวรารามภูพร้าวแห่งนี้ ผมแนะนำให้มาช่วงเย็นนะครับ เพราะบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็นจุดชม วิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและมองเห็นด่านสากลช่องเม็กอย่างสวยงามรวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่ อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป  โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเราเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก




เมื่อแสงพลบค่ำ ความสวยงามก็มาเยือน กับไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกๆคนตั้งใจที่จะมารอชมความงดงาม และความเป็นอันซีนของวัดแห่งนี้นั้นก็คือ ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงสีเขียวนวล ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 18.00 - 19.30 น.  แต่ภาพเรืองแสงนี้หากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเล็กน้อย จะไม่เห็นเป็นสีเขียวชัดเจนเท่ากับภาพที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นหากจะมาเก็บภาพความงดงามผ่านสายตาต้องเผื่อใจไว้ด้วยนะฮะ เพราะมันไม่ได้เขียวฉ่ำเหมือนภาพที่เห็นๆกันนะจ๊ะ

สำหรับต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร รวมทั้งเป็นผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเองและเป็นเจ้าของไอเดียใช้สารเรืองแสงที่เรียกว่า “ฟอสเฟอร์”  รอบต้น ทำให้ต้นไม้นี้ปรากฏสีเขียวเรืองแสงเมื่อยามค่ำคืน





ส่วนการเดินทางไปยังวัดนั้น จากตัวเมืองอุบลไปยังอำเภอสิรินธรใช้เส้นทางเดียวกับทางไปด่านช่องเม็ก จนเลยเขื่อนสิรินธรก่อนถึงช่องเม็กประมาณ 2 กม.จะเจอ ที่กลับรถ สังเกตุป้ายวัดจะอยู่ทางซ้ายมือนะครับ

หากใครมีแพลนไปเที่ยวอุบล ก็อย่าลืมแวะไปชมความงามของต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง ที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวกันด้วยนะครับ รับรองว่าจะต้องประทับใจแน่นอน



ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://travel.sanook.com/1399821/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1076
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ