สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
“ญาณสังวร” มีที่มาและความหมาย อย่างไร.?ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะที่ “สมเด็จพระญาณสังวร” นั้น นับว่าเป็นตำแหน่งพิเศษในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นตำแหน่งที่พระราชทานสถาปนาแก่พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสสนาธุระโดยเฉพาะ
ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงตั้ง พระอาจารย์สุก วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ)ซึ่งเป็นพระเถระผู้ทรงคุณพิเศษในทางวิปัสสนาธุระ เป็นที่พระราชาคณะนั้น ก็ทรงตั้งในราชทินนามว่า พระญาณสังวรเถร อันเป็นราชทินนามที่แสดงถึงความเป็นผู้ทรงคุณในทางวิปัสสนาธุระ
ครั้นมาในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา พระญาณสังวรเถร (สุก) ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ก็โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาในราชทินนามว่า สมเด็จพระญาณสังวร เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๙ ตามราชทินนามเดิม ที่ได้รับพระราชทานแต่ครั้งรัชกาลที่ ๑
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงเป็น “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
@@@@@
พระอาจารย์สุก วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) เป็นพระเถระที่เลื่องลือด้านวิปัสนาธุระและเปี่ยมด้วยเมตตายิ่ง ถึงขนาดมีตำนานเล่าว่าสามารถแผ่เมตตาให้ไก่ป่าที่ได้ชื่อว่าปราดเปรียวและระแวงภัยยิ่ง ให้เชื่องเหมือนไก่บ้านได้ และเมื่อสมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ชาวประชาทั้งหลายจึงมักพากันขนานพระนามท่านว่า “สมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน”
ครั้นสมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๓ ราชทินนามตำแหน่งที่ สมเด็จพระญาณสังวร ก็ไม่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาพระเถระรูปใดอีกเลยนับแต่รัชกาลที่ ๒ เป็นต้นมา
@@@@@
กระทั่งถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ จึงได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา พระสาสนโสภณ (สุวฑฺฒโน เจริญ คชวัตร) วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร) ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ในราชทินนามว่า สมเด็จพระญาณสังวร ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงเป็น “สมเด็จพระญาณสังวร” รูปที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ในคราวที่ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระญาณสังวร ทรงปรารภว่า
“ถ้าไม่มีสมเด็จญาณสังวรฯ (สุก ไก่เถื่อน) รูปที่ ๑ ก็คงไม่มีสมเด็จญาณสังวรฯ รูปที่ ๒”

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)“สมเด็จพระญาณสังวร” รูปที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
นับแต่ปีที่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๓ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ มาจนถึงปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา พระสาสนโสภณ (สุวฑฺฒโน เจริญ คชวัตร) ขึ้นเป็น สมเด็จพระญาณสังวร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ นั้น นับเป็นเวลา ๑๕๒ ปี ซึ่งเป็นเวลายาวนานถึง ๖ รัชกาลที่ว่างเว้นไม่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาพระเถระรูปใดในราชทินนามตำแหน่งนี้
ราชทินนามตำแหน่งที่ สมเด็จพระญาณสังวร ตามพระนาม หมายถึง ผู้สำรวมในญาณคือ ความรู้ หรือผู้มีความสำรวมในความรู้อย่างยิ่ง (“ญาณ” หมายถึง ความรู้ และ “สังวร” หมายถึง สำรวม) หรือหากอ้างถึงพระอรรถกถา ความหมายของ “ญาณสังวร” จะเป็นหัวข้อหนึ่งใน สังวรวินัย ๕ คือ สีลสังวร สติสังวร ญาณสังวร ขันติสังวร และวิริยสังวร และดังได้มีอรรถาธิบายความหมายของ “ญาณสังวร” ว่า
@@@@@
สังวรที่ตรัสไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
“ดูก่อนอชิตะ กระแส (ตัณหา) เหล่าใดในโลกมีอยู่ สติย่อมเป็นเครื่องห้ามกระแสเหล่านั้น เราตถาคตกล่าวสติว่าเป็นเครื่องระวังกระแสทั้งหลาย กระแสเหล่านั้นอันบุคคลย่อมละด้วยปัญญานี้เรียกว่า ญาณสังวร” ขุ.สุ. ๒๕/๔๒๕/๕๓๐
เพราะฉะนั้นราชทินนามตำแหน่งที่ “สมเด็จพระญาณสังวร” นี้ จึงกล่าวได้ว่า เป็นตำแหน่งที่มีความหมายสำคัญในประวัติการณ์ ของคณะสงฆ์ไทยแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตำแหน่งหนึ่งขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=45045โพสต์โดย คุณสาวิกาน้อย
รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหามาจาก ::
• พระประวัติสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=44309• พระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=19822