ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถาม อยากให้พระอาจารย์ยกคุณของพระพุทธเจ้าให้ฟังสักบท  (อ่าน 1213 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถาม อยากให้พระอาจารย์ยกคุณของพระพุทธเจ้าให้ฟังสักบท

ตอบ ก็เป็นการดีในคำถาม
คุณของพระพุทธเจ้าเรียกว่า พุทธคุณ บทมาตรฐาน มี ๙ บท ที่เรียกว่า พุทธคุณ ๙ ในบทสวดชื่อว่า อิติปิโส ภควา เป็นต้น

ในพระสูตร นั้นกล่าวว่า มีคุณทางด้านจิตใจ มากยิ่งจะทำให้เกิดความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ถ้าเราได้นึกถึงพระพุทธเจ้า ก็จะไม่ท้อแท้ พ้นจากความหวาดกลัว พ้นจากหมู่มาร ผู้สวดเจริญอยู่ จะรู้ หรือ ไม่รู้คำแปลก็ได้อานิสงค์ ตามนั้น

ในหลักกรรมฐาน พุทธคุณ ๙ เมื่อเข้ามาในภาคปฏิบัติ แล้ว พุทธคุณ นั้นแจกแจง มีถึง ๑๐๘ ตามหลักการปฏิบัติ ในตัวบทพุทธคุณเอง ไม่ได้เกี่ยวโยง กับ ธรรมคุณ หรือ สังฆคุณ แต่เกี่ยวไปที่ ตัวหลักการปฏิบัติ ตรง ๆ เลย

ดังนั้นฉันจะหยิบยก พุทธคุณบทเดียว นั่นก็คือบทที่ว่า สัตถาเทวมนุสสานัง แปลความว่า เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

บทนี้เป็นบทที่ฉันระลึก และนึกถึงมาเป็นเวลา ๓ ปี ย่างปีที่ ๔ เพราะด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงพากเพียร ในการสอนสรรพสัตว์ให้รู้คุณ แห่งนิพพาน เพื่อไปสู่หนทางแก่งการไม่เกิดอีกต่อไป ส่วนที่ฉันระลึกถึงนั้น ก็คือ พระปรีชาความสามารถที่พระพุทธเจ้า พระองค์สามารถแจกแจ้งบรรยายขยายความให้กับบุคคลที่เหมาะสม มีคุณสมบัติพร้อมได้เข้าใจในหลักแห่ง อริยสัจจะ และ มรรคสมังคี จนลุล่วงถึงเป้าหมาย เป็นคุณอันยิ่งที่ฉันต้องการมี สักน้อยนิดหนึ่งของพระพุทธเจ้า

เพราะส่วนตัวตอนนี้ ตลอด ๓ ปีมานี้ฉันเป็นพระที่หยุดสอน เพราะเป็นผู้นิ่ง นั่งเฉย ๆ เวลาพบปะผู้คนไม่เหมือนเมื่อก่อน จะชอบการแนะนำและสอน แต่วันนี้ไม่รู้จะสอนอย่างไร ในสิ่งที่ตนเองทำได้ เพราะด้วย วินัยบ้าง คุณธรรมบ้าง บัญญัติที่ต้องรักษาไว้นั้น เหมือนกำแพงในการกางกั้น ให้ฉันไม่ทราบวิธีการที่จะแนะนำหลักธรรม เช่นบางท่านมีคุณสมบัติทางกรรมฐาน มองเห็นความก้าวหน้า เมื่อเข้ามาปรึกษา แต่ไม่ได้เป็นศิษย์ การพูดสอนก็ติดประเพณี กับ วินัยบัญญัติ สุดท้ายก็นิ่ง ๆ อนุโมทนา เท่านั้น หรือแม้แต่บุคคล ที่รักยิ่ง อย่างโยมแม่ ที่่ท่านก็มีอายุตามวัยชรา ก็ปรารถนาให้ท่านเข้าใจในหลักการธรรมกรรมฐาน แต่ทุกวันนี้ ฉันก็ยังทำอะไรไม่ได้ เลยในการแนะนำโยม นอกจากอยู่เป็นพระให้เห็น พยายามไม่สร้างความเดือดร้อนทางใจให้โยม ในเรื่องของตนเอง แม้กระทั่งญาตพี่น้อง ฉันก็ยังหาวิธีการที่จะสอนจะช่วย อย่างไรให้เข้าใจในหลักธรรม นี่เป็นอารมณ์ในช่วง 3 ปีนี้ ที่ผ่านมาซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนมากที่ฉันพยายามพูดออกไป จะเล็ก จะน้อย แม้กระทั่งนำด้วยตนเอง เพื่อโปรดคนข้างเคียง แต่พอมาถึงผลที่ได้ และพยายามจะหาวิธีการที่ดีที่สุด กลับให้วิธีการไม่ได้ นอกจากรูปแบบกรรมฐาน ตอนนี้ญาตส่วนใหญ่ ไปทางสายวัดท่าซุง ไปปฏิบัติดูนรก ดูสวรรค์ ดูเทพ เป็นลูกพระพุทธเจ้า องค์นั้น องค์นี้กัน เวลาถามหลักธรรมก็ตอบกันไม่ได้ ตอบได้แต่เรื่องเห็นเทพองค์นั้น องค์นี้ ยิ่งเป็นอย่างนี้ ยิ่งสอนยากเพราะว่า มานะ ก็จะสูงด้วย ฉันจะระลึกนึกถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้า คือ สัตถาเทวมนุสสานัง นี้มากเพราะถ้าฉันมีปฏิภาณ สักนิดหนึ่งของพระพุทธเจ้า ก็จะสามารถนำผลภาวนา ออกมาชักนำให้คนที่ฉันรัก ได้ถึงผลภาวนาเช่นฉันบ้าง

ทุกวันนี้เลยกลายเป็นว่า การสอนธรรม เป็นการยากมากขึ้นเพราะดูองค์ประกอบของผู้รับธรรม ถ้าเห็นว่า เขายังอยู่ในโลกธรรมเกินกว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ใช้การประเมิน ๓ ครั้งจากการแสดงธรรม เรื่อง อริยสัจจะ ถ้าฟังไม่เข้าใจ ฉันก็จะหยุดสนทนาด้วยในครั้งที่ ๔ ซึ่งฉันจะหยุดสนทนา แล้วก็เปลี่ยนเป็น อนุโมทนากุศล ให้เขาแทน ถ้าหากใครพอมีแวว แนวทาง ก็จะรับเป็นศิษย์ไว้ เพื่อให้มีสิทธิ์อ่านข้อความที่สำคัญได้ ซึ่งวันหนึ่งคนที่ฉันอนุญาตไว้นี้ก็จะถึง ธรรมของเขาเอง เมื่อบารมีสะสม ได้สมบูรณ์แล้ว แม้วันนั้นฉันไม่มีแล้ว จากไปแล้ว ก็เป็นการส่งเสริมไว้ทั้งทางตรง และทางอ้อม

ดังนั้นคุณแห่ง พระพุทธเจ้า ที่ฉันว่า พระพุทธเจ้ายอมเหน็ดเหนื่อยหลังจากตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงกระทำแม้กระทั่งจะปรินิพพาน นั้น ก็คือ การสอนทั้งเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ให้รู้ตาม นี่เป็นคุณอันยิ่งใหญ่ ที่พระองคกระทำตลอดการเป็นพระพุทธเจ้า เพียงแค่ ๓๙ ปีที่พระองค์ได้โปรดมนุษย์แลกกับการเวียนว่ายตายเกิด ถึง ๕ แสนอสงไขยชาตที่ต้องเป้นพระโพธิสัตว์ นับว่าเป็นคุณที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

ขอให้ท่านทั้งหลาย จงระลึกถึงคำว่า สัตถาเทวะมนุสสานัง ไว้กันบ้างนะ ถ้าหากคิดจะทำงานเผยแผ่ พระธรรม หรือปิดทองหลังพระ เพราะหนทางของการสอน ที่ไม่เจือด้วยอามิส นั้น เป็นหนทางที่ทำได้ยาก สำหรับ ปุถุชน การช่วยคนโดยที่ไม่มีผลตอบแทน แถมโดนด่า ด้วยนั้นเป็นปกติ ของผู้แสดงธรรม เป็นกลาง เสมอ ๆ มา

ขอให้ทุกท่านจงมีความอาจหาญใน การภาวนา และ มีความรุ่งเรืองด้วยปฏิภาณ ฉลาดในการภาวนา และ แสดงธรรม กันทุกท่านทุกคนเทอญ

เจริญพร


บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ