ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พูดว่า กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้ กราบ"หลวงปู่สี"ครั้งเดียว  (อ่าน 1776 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ อมตเถระผู้มีอายุยืนนานถึง ๑๒๘ ปี  วัดเขาถ้ำบุญนาค ต.เขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์


สาธุ!! เมื่อมีคนบอกว่า หลวงปู่สี..เป็นพระที่ไม่น่านับถือ แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำกลับพูดว่า กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว!!

เรื่องราวปาฏิหาริย์และบารมีของหลวงปู่สีนั้นนับได้ว่ามีมากนัก ท่านได้รับขนานนามว่า พระอรหันต์ ๗ แผ่นดิน หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๒ ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลทีี ๓ และท่านได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๐ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ รวมอายุได้ ๑๒๘ ปี บวชพระมาได้ ๘๙ พรรษา เรื่องราวของบารมีของหลวงปู่สีนั้น แม้แต่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้กล่าวไว้ว่า

 :96: :96: :96: :96:

"กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว" เรื่องมีอยู่ว่า

สืบเนื่องจากคณะชาวชลบุรีเกิดความ ศรัทธาหลวงปู่ที่หลวงปู่ได้ไปโปรดที่จังหวัดชลบุรี จึงตามมาหาหลวงปู่ถึงวัด ครั้นพอถึงเวลาฉันเพลแล้ว ชาวชลบุรีก็นำอาหารที่เตรียมมาถวายเพล ท่านก็ลุกขึ้นมานั่งยอง ๆ ฉันอาหาร โดยมีแมวและสุนัขนั่งล้อมหน้าล้อมหลัง ชาวจังหวัดชลบุรีกลุ่มนั้น เมื่อได้เห็นอากัปกิริยาของหลวงปู่เช่นนั้น คือนั่งไม่สำรวม ก็ไม่ศรัทธา จึงได้พากันเดินทางต่อไปยังวัดท่าซุง เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พวกเขาได้เล่าให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำฟังถึงหลวงปู่สีว่า

"เป็นพระที่ไม่น่านับถือ"

แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านกลับตอบไปว่า

"กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว"

 :25: :25: :25: :25:

ต่อมาภายหลังชาวชลบุรีกลุ่มนี้ก็กลับกลายมาเป็นศิษย์ที่นับถือหลวงปู่สีมาก ที่สุดกลุ่มหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ และได้สร้างพระถวายหลวงปู่สีอยู่หลายรุ่น

หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ ท่านเป็นชาวเมืองสุรินทร์ เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านถูกเข้าเกณฑ์ทหารเข้ารับราชการ และเมื่อปลดจากสภาพการเป็นทหารมาแล้ว ท่านก็มายึดใช้อาชีพค้าวัว ค้าควาย และเป็นพราน อยู่แถวๆเขตช่องแค ซึ่งแต่เดิมมีสภาพเป็นป่าดงดิบ และยังไม่ได้ตั้งเป็นอำเภอตาคลี ท่านใช้ชีวิตเป็นหนุ่มอยู่หลายปีและรู้สึกเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๑ โดยมี พระครูธรรมขันธ์สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์



เมื่อบวชได้ระยะหนึ่งแล้ว ท่านจึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่ ถ้ำเขาเสียบ เขตช่องแค อำเภอตาคลี เพราะก่อนบวชท่านเคยอยู่ในเขตนี้มาก่อน ก่อนที่จะมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลีนั้น หลวงปู่สีท่านอยู่ที่วัดหนองลมพุก อำเภอโนนสังข์ จังหวัดอุดรธานี ในปีพ.ศ. ๒๕๑๒ พระพระครูนิวิฐปริยัติคุณ พร้อมด้วยชาวบ้าน ได้พากันไปนิมนต์หลวงปู่ให้มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค

ในระยะแรกที่หลวงปู่มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาคนั้น ท่านจำพรรษาอยู่ที่กุฏิไม้ หลังเล็กๆหน้าปากทางขึ้นถ้ำ (ปัจจุบันรื้อไปแล้ว) ในขณะนั้นคนในตลาดตาคลียังไม่ค่อยมีใครรู้จักหลวงปู่ และท่านก็ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อันใดให้ใครรู้ วันหนึ่งๆท่านจะนั่งตะบันหมากฉัน การฉันหมากของท่านก็ไม่เหมือนใคร เพราะท่านไม่ได้ฉันเปลือกไม้ที่มีขายตามท้องตลาดเหมือนที่คนกินหมากทั่วไปซื้อมากิน หลวงปู่ท่านจะฉันแก่นไม้คูนแดงซึ่งจะมีคนตัดมาถวายตลอด ท่านจะนำมาฟันเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงตำให้ละเอียดแล้วจึงฉันกับหมากแทนเปลือกไม้

 st12 st12 st12 st12

กิจสงฆ์ของท่านที่ทำเป็นประจำก็คือ หลวงปู่ท่านจะสรงน้ำตอนประมาณบ่าย ๓-๔ โมงเย็นทุกวันและหลวงปู่จะตื่นนอนทำวัตรเช้าตอนตี ๓ ทุกวันอีกเช่นกัน บทสวดมนต์ที่หลวงปู่สวดเป็นประจำคือ บท "กรณียเมตสูตร" เป็นประจำ เรื่องมนต์นี้ พระอาจารย์ประเทือง เคยถามหลวงปู่ว่าสวดมนต์บทไหนดี หลวงปู่จะบอกว่า "ดีทุกบท" บทที่สำคัญ "กรณียเมตสูตร" ให้นั่งภาวนา ทำวัตรสวดมนต์อย่าให้ขาด ท่านได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ รวมอายุได้ ๑๒๘ ปี บวชพระมาได้ ๘๙ พรรษา



ที่มาจาก : เพจ ศิษย์มีครู
https://th.wikipedia.org/wiki/หลวงปู่สี_ฉนฺทสิริ
เรียบเรียงโดยเสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/353069
ขอบคุณภาพจาก
http://www.dhammajak.net/
https://i.pinimg.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ