ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อในหลวงทรงปลอมพระองค์..เพื่อไปซื้อที่ดินจากชาวบ้าน แต่ความแตกเพราะเห็นปฏิทิน  (อ่าน 2192 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ใครจะมาซื้อที่.!! เมื่อในหลวงทรงปลอมพระองค์..เพื่อไปซื้อที่ดินจากชาวบ้าน แต่ความแตกเพราะเห็นปฏิทินภาพ..ในหลวงกำลังทรงงาน ปลื้มปิติที่สุด.!!

หนึ่งในเรื่องราวสุดประทับใจจากโครงการในพระราชดำริที่เราจะนำเสนอวันนี้มาจากคุณมนูญ มุกข์ประดิษฐ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ อดีตเลขาธิการสำนักงานกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักบริหารระดับ ๑๑) ท่านเล่าให้ฟังถึงเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มีพระราชกระแสให้เจ้าหน้าที่ซึ่งรับสนองพระราชดำริไปจัดซื้อที่ดิน เพื่อนำมาพัฒนาหรือนำมาจัดสรรแบ่งแปลงให้กับผู้ยากไร้ไว้เพื่อทำกิน ด้วยพระราชทรัพย์ของพระองค์เอง

เป็นการบังเอิญที่ผู้เขียนเป็นผู้หนึ่งซึ่งปลอมตัวเป็น “เสี่ย” นักจัดสรรที่ดินเข้าไปเจรจาซื้อที่ดินในรายนี้ด้วย จึงจำได้แน่ชัดถึงบรรยากาศของเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า มีชาวบ้านเป็นกลุ่มๆออกมายืนมองและซุบซิบกันทำนองแปลกประหลาดใจว่า เหตุใดจึงมีผู้สนใจจะซื้อที่ที่ไม่น่าสนใจแถวนี้…หรือว่าพวกเสี่ยที่มาถามซื้อที่ที่นี่เป็นพวกหลอกลวงสิบแปดมงกุฎ เพราะดูไปจริงๆแล้วราศีของเสี่ยหรือเศรษฐีก็ไม่ได้จับอยู่ที่ใครเลย มิหนำซ้ำยังหน้าตาแปลกๆ บางคนสูงเกินไป บางคนคล้ำเกินไป บางคนใส่แว่นตาหนาเตอะ



ประโยคแรกๆที่ลุงเจ้าของบ้านและเจ้าของที่ถามไถ่ก็คือ

"ใครคือคนที่จะมาซื้อที่" …ก็ต้องตอบไปว่า "ผู้ใหญ่ ท่านจะมาซื้อที่"

ครั้นลุงถามว่า "เอาที่แบบนี้ไปทำอะไรกัน" ก็ต้องตอบว่า "เอาไปทำประโยชน์" ประโยชน์อะไร จัดสรรหรือ? ทำคอนโดหรือ?

ลุงก็ได้รับคำตอบให้งุนงงต่อไปว่า "ไม่ใช่ทั้งนั้น"

ท้ายที่สุดลุงและคณะชักตาเขียวและสีหน้าไม่ดี เหล่าบรรดากองเชียร์ชักพูดแซมขึ้นมาบ้างว่า

"อีแบบนี้ถ้าจะเสียเวลาเปล่า! เจ้าของเขาไม่รีบร้อนขายหรอก เพราะเงินทองก็พอมี ไม่เดือดร้อน"

คณะเสี่ยปลอมรู้สึกสถานการณ์จะคับขัน ก็เลยบอกว่าผู้ใหญ่จะเอาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนแถวนี้เอง ทำประโยชน์ให้กับชุมชนนี้ ไม่ได้เอาไปขายต่อหรือจัดสรรเอากำไรเข้าพกเข้าห่อแต่อย่างใด



ลุงถามว่า "มีด้วยหรือ ผู้ใหญ่แบบนี้…หรือจะเป็นนายกฯ" พวกเรารีบแทรกว่า "ใช่แล้ว…นายกฯให้มาซื้อ"

ลุงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีกลับไปกลับมา พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นปฏิทินที่แขวนไว้ข้างฝา เป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ กำลังทรงงานอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และเสี่ยปลอมทั้งหลายครบทุกคนยืนอยู่ข้างหลังพระองค์ ลุงมองหน้าทุกคนอย่างตกใจเล็กน้อย

"เอ๊ะ คนนี้ก็ใช่ คนนั้นก็ใช่…หรือว่าผู้ใหญ่ที่จะมาซื้อที่นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

เมื่อความแตก ลุงและชาวบ้านวัดมงคลชัยพัฒนาก็ปีติตื่นเต้นเป็นล้นพ้น ในท้ายที่สุดลุงเจ้าของที่โดยการสนับสนุนของสมาชิกละแวกวัดมงคลชัยพัฒนาและญาติพี่น้องทั้งปวงก็ตกลงขายที่จำนวน ๑๕ ไร่ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เพื่อนำมาทดลองแนวคิด “ทฤษฎีใหม่” ทางด้านเกษตรกรรม ก่อนลาจากกัน ลุงเจ้าของที่ต่อว่าคณะเสี่ยปลอม "ไหนแต่แรกว่านายกฯมาซื้อที่ไง…" เสี่ยปลอมทั้งหลายไม่ตอบคำถามนี้ แต่ในใจทุกคนคิดว่า ก็ใช่น่ะสิ นายกฯแท้ๆเลย แต่เป็น

   “นายกกิตติมศักดิ์มูลนิธิชัยพัฒนา”



ปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ถูกพัฒนาเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสระบุรี  เพื่อเป็นแปลงสาธิตการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรนำรูปแบบแปลงสาธิตเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ไปประยุกต์ใช้ในไร่นาของตนเอง  โดยจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆตามการใช้ประโยชน์ คือ ส่วนแรกขุดสระเก็บกักน้ำประจำไร่นา เพื่อรองรับน้ำและนำน้ำไปใช้ในการเกษตรได้ตลอดปี ตลอดจนเลี้ยงปลา ปลูกพืชน้ำและพืชริมสระ ส่วนที่สองทำนาข้าวเพื่อบริโภค และหากมีเหลือก็สามารถขายได้ พร้อมทั้งปลูกพืชหมุนเวียน เช่น พืชตระกูลถั่ว เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน ส่วนที่สามปลูกพืชไร่ พืชสวน ไม้ยืนต้น หรือเกษตรผสมผสานตามสภาพพื้นที่และภาวะตลาด และส่วนสุดท้ายใช้ปลูกบ้าน สร้างโรงเรือน ปลูกพืชผักสวนครัว และเลี้ยงสัตว์

ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ อันได้แก่ กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาชุมชน และจังหวัดสระบุรี ตลอดจนเจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนาและประชาชนบริเวณพื้นที่โครงการ ภายใต้การประสานงานของมูลนิธิชัยพัฒนาและสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ ตลอดจนเป็นตัวอย่างให้แก่เกษตรกรและราษฎรในท้องที่อื่นสามารถนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้ระบบเกษตรกรรมในปัจจุบันมีความมั่นคงสมบูรณ์และยั่งยืนต่อไป



ที่มาจาก :  http://www.praew.com
วัดมงคลชัยพัฒนา.com, www.chaipat.or.th, www.เรารักพระเจ้าอยู่หัว.com,
คุณมนูญ มุกข์ประดิษฐ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อดีตเลขาธิการสำนักงานกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(นักบริหารระดับ ๑๑)
เรียบเรียงโดยเสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/350185
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2017, 07:35:02 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา