ปริศนาธรรมในสมเด็จญาณฯ.!! ศิษย์ใกล้ชิดเล่าพระจริยวัตรอันชวนฉงนของสมเด็จญาณฯ ทำไมต้องใช้พระหัตถ์ลูบพระอุระพระพุทธเจ้า แล้วเอามาลูบเศียรพระองค์ในเฟสบุ๊คของเพจป๊อปวัดบวร ซึ่งทางคุณป๊อปท่านเป็นเหมือนศิษย์ที่ใกล้ชิดรับใช้อยู่กับ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สุวัฑฒนมหาเถระ) หรือ สมเด็จญาณฯ จึงไม่แปลที่จะมีเรื่องราวเกี่ยวเจ้าพระคุณมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ ดังเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้
การถ่ายทอดเรื่องราวของภาพนี้ เป็นภาพที่ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้ถึงการลูบพระอุระ พระพุทธรูป ของเจ้าพระคุณสมเด็จญาณ ณ ห้องโถงตำหนักคอยท่าปราโมช ที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานเรียงรายอยู่มาก ท่านที่เคยเข้ากราบถวายสักการะ คงพอนึกภาพในอดีตออกถึงบริเวณชั้นหนึ่งที่พระองค์ท่านทรงรับญาติโยม จะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งในช่วงเวลาราว ปี ๒๕๓๐ กว่า พระองค์ท่าน จะทรงสวดมนต์ทำวัตรเช้าและค่ำ ในตอนเช้าพระองค์ท่านจะออกมาพระองค์เดียวช่วงเวลาตีสี่ของทุกวัน ซึ่งลูกศิษย์รับใช้จะยังไม่ตื่น จะใกล้ๆ ๖ โมงเช้าจึงจะออกมากราบพระ แล้วไปอาบน้ำออกมาถวายงาน
ช่วงสวดมนต์ทำวัตรเย็น ลูกศิษย์รับใช้จะอยู่ถวายงานและนั่งอยู่ด้วย สิ่งที่สงสัยหลายครั้งคือการลูบพระอุระของพระพุทธรูป แล้วพระองค์ท่านจะนำพระหัตถ์นั้นมาลูบพระเศียรของพระองค์ ไม่มีใครเคยถาม แต่เด็กก็คงมองและถามกันเองว่า ท่านทำอะไร เพื่อนบอกอยากรู้ก็ถาม จึงได้ทูลถามพระองค์ท่านทรงตอบว่า หัวใจพระพุทธเจ้าสถิตเหนือหัว
ทุกครั้งในยามดึก ที่ทรงเดินผ่านพระพุทธรูป พระองค์ท่านจะเดินไปพนมมือไหว้พระพุทธรูป นำพระหัตถ์ลูบบริเวณพระอุระ และนำมาลูบพระเศียร แล้วจึงเสด็จกลับเข้าไปในห้องบรรทม 
พระองค์ท่านจะถามลูกศิษย์บ่อยครั้ง "องค์นี้พระอะไร"คำตอบคือ "พระสุโขทัย,พระไพรีพินาศ,พระเชียงแสน" เป็นต้น ถามซ้ำทุกครั้ง ซึ่งเมื่อก่อนก็เคยสงสัยว่า ท่านลืม เลยถามทุกวันทุกครั้งหรือเปล่า ซึ่งก็มีตอบได้บ้าง ตอบไม่ได้บ้าง พอตอบไม่ได้ พระองค์ท่านก็รับสั่งบอกชื่อพระนาม ที่ถูกให้ความเป็นจริงคือไม่ใช่ แต่ทรงถามเพื่อให้ลูกศิษย์ได้สามารถตอบคนอื่นได้ ซึ่งพระพุทธรูปนั้น แต่ละองค์มีทั้งชื่อ และปางต่าง ๆ มากมาย อันเป็นอีกหนึ่งเรื่องของความรู้ ที่พระอาจารย์ได้สอนลูกศิษย์ ให้มีความรู้มากขึ้น ซึ่งได้มาอันเป็นประโยชน์ของความรู้ ที่ได้นำมาใช้ต่อในอนาคตหลังจากนั้นมาโดยตลอด
ความรู้ใช่เพียงแค่หาอ่านได้ในตำรา แต่อยู่รอบข้างตัวเราทุกอย่าง อยู่ที่การเรียนรู้นั้น จะมีผู้ชี้ให้เห็นเป็นทางลัด หรือเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่ต้องสะสมยาวนานโชคดีที่มีครูที่มา FB: เพจป๊อปวัดบวร
เรียบเรียงโดยกิตติ จิตรพรหม : สำนักข่าวทีนิวส์
http://www.tnews.co.th/contents/361025