« เมื่อ: กันยายน 22, 2018, 06:23:25 am »
0
ตัดภพ สิ้นชาติ เพราะเข้าใจ "ปฏิจจสมุปบาท" ปฏิจจสมุปบาท เป็นคำสอนหนึ่งของพระพุทธเจ้าที่มีความลึกซึ้ง ลุ่มลึก ทำให้เข้าใจถึงการกำจัดอวิชชา และเข้าใจว่าเพราะความไม่รู้นี่เองที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายยังคงเวียนว่ายตายเกิดในทะเลแห่งวัฏฏะสงสาร การที่จะตัดภพ สิ้นชาติให้ได้นั่นต้องมีความเข้าใจในคำสอนเรื่องนี้เสียก่อน
คำสอนที่มีชื่อเรียกยากนี้ หากใครได้ยินเป็นครั้งแรก ต้องขอให้ผู้พูด พูดชื่อนั้นซ้ำอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยคำถามเชิงอุทานว่า “ปฏิจจสมุปบาทคืออะไร” ปฏิจจสมุปบาทคือองค์ธรรมที่อาศัยกันและกันให้เกิดขึ้น มีด้วยกันทั้งหมด 12 องค์ธรรม ได้แก่ อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ
@@@@@@
หากจะอธิบายคำสอนนี้ได้ให้เกิดความเข้าใจ ต้องอิงตามพระพุทธพจน์ของพระ ในพระสูตรหนึ่งมีชื่อว่า ” ปัจจัยสูตร ” ยกส่วนที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องปฏิจจสมุปบาทพอสังเขปมาดังนี้
องค์ธรรมที่อิงอาศัยกันและกันให้เกิดขึ้น (ปฏิจจสมุปบาท) เริ่มจากการเกิด (ชาติ) ทุกชีวิตจึงต้องแก่และตาย (ชรามรณะ) ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เป็นองค์ธรรมที่อิงอาศัยกัน หากไม่มีชาติก็ไม่มีชรามรณะ เพราะเรา (ตถาคต) เข้าใจในการอิงอาศัยขององค์ธรรมนี้ เราจึงได้บรรลุธรรม
@@@@
เพราะเกิด (ชาติ) เป็นเหตุ จึงต้องแก่และตาย (ชรามรณะ)
เพราะ ความเป็นสิ่งนั้น ๆ (ภพ) ทำให้มีการเกิด (ชาติ)
เพราะความยึดติด (อุปาทาน) ความเป็นสิ่งนั้น ๆ (ภพ) จึงมี
เพราะความอยาก (ตัณหา) ทำให้เกิดความยึดติด (อุปาทาน)
เพราะความรู้สึก (เวทนา) ทำให้เกิดความอยาก (ตัณหา)
เพราะการสัมผัส (ผัสสะ) ทำให้เกิดความรู้สึก (เวทนา)
เพราะอายตนะทั้ง 6 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ (สฬายตนะ) ทำให้เกิดการสัมผัส (ผัสสะ)
เพราะการรวมกันระหว่างรูปกับนาม คือจิตกับกาย (นามรูป) ทำให้เกิดอายตนะทั้ง 6 (สฬายตนะ)
เพราะการรับรู้ทางอารมณ์ (วิญญาณ)ทำให้เกิดจิตกับกาย (นามรูป)
เพราะการปรุงแต่ง (สังขาร) ทำให้เกิดการรับรู้ทางอารมณ์ (วิญญาณ)
เพราะความไม่รู้ (อวิชชา) ทำให้เกิดการปรุงแต่ง (สังขาร)
องค์ธรรมเหล่านี้มีความไม่เที่ยง ถูกปรุงแต่ง อาศัยกันและกันให้เกิดขึ้น มีความสิ้น ความเสื่อม ความคลาย และความดับไปเป็นธรรมดา เมื่อใดที่เข้าใจในปฏิจจสมุปบาท ด้วยปัญญาอันชอบ (สัมมาทิฏฐิ) ที่ได้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามจริง ผู้นั้นจะไม่สนใจเรื่องการเกิดอีกต่อไป
@@@@@@
จากข้อความใน ปัจจัยสูตร ที่ยกมานี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่เข้าใจปฏิจจสมุปบาทอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งมองอะไรในชีวิตประจำวันเป็นไปตามปฏิจจสมุปบาททั้งหมด เช่น
สฬายตนะ(ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) ทำให้เกิดการสัมผัส(ผัสสะ) เมื่อตา(อายตนะ) ไปกระทบดอกบัว (อารมณ์) เมื่อจิตเห็น(วิญญาณ) ภาพปรากฏจากดวงตาเป็นรูปดอกบัว
เมื่อเห็นดอกบัวสวยจิตจึงปรุงแต่ง (สังขาร) ว่าตนชอบ(เวทนา) เมื่อจิตชอบดอกบัว เกิดความอยาก(ตัณหา)ได้ดอกบัวดอกนั้น
เมื่อเกิดความอยากขึ้น ก็ยึด(อุปาทาน) ว่าสิ่งที่เราอยากได้นั้น มันเป็นสิ่งของที่มีอยู่จริง นี้คือองค์ธรรมที่ทำให้การเป็นมนุษย์ที่หลงใหลในวัตถุเกิดขึ้น
เมื่อหลงใหลในวัตถุ ไม่ว่าวัตถุนั้นจะสร้างความสุขหรือทุกข์ให้ เมื่อจิตได้สนใจไปแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ การเกิด(ชาติ) ไปเรื่อยๆ เมื่อเกิดสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการแก่(ชรา) และตาย(มรณะ)
@@@@@@
พระพุทธเจ้าตรัสในตอนจบของพระสูตร (ปัจจัยสูตร) ว่า ผู้ที่เข้าใจในปฏิจจสมุปบาท ย่อมไม่สนใจในการเกิดอีก เพราะเข้าใจแล้ว(วิชชา) ไม่สนใจลุ่มหลงสิ่งต่าง ๆ ผ่านอายตนะทั้ง 6 อีก อวิชชาย่อมไม่สามารถสร้างความเข้าใจผิด ให้จิต(นาม) ดวงนี้หวนกลับมาเกิดในกาย(รูป)ใหม่อีกต่อไป สิ้นภพ(ความเป็น) และชาติ(การเกิด) อย่างสิ้นเชิง
ที่มา : ปัจจัยสูตร
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/115209.htmlby nintara1991 , 21 September 2018
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 22, 2018, 06:26:26 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ