พ่อเปิดใจ หลังลูกเข้าค่ายธรรมะ "สุดกดดัน หวาดผวา ใจสั่น" ต้องหาหมอ
พ่อเปิดใจหลังโซเชียลแฉค่ายธรรมะ สร้างสถานการณ์ขู่-กดดันให้เด็กกลัวและรู้สึกผิดอย่างรุนแรงจนลูกไปค่ายแล้วเกิดหวาดผวา บอกลูกเป็นเด็กเรียนดีส่วนหมอวินิจฉัยเป็นไบโพลาร์ ส่วนพี่ชายเผยหลังกลับจากค่ายน้องหวาดระแวงใจสั่นตลอดเวลา ก้มกราบคนในบ้านทุกคืน วอนหยุดกิจกรรมแบบนี้ ขณะโรงเรียนจ่อแถลงวันนี้ด้วย
จากกรณีวานนี้มีผู้ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป ระบุว่า เป็นเพื่อนของอดีตนักเรียนที่เข้าค่ายธรรมะที่มีการจัดกิจกรรมทางจิตวิทยาในลักษณะกดดันให้เด็กรู้สึกผิด กลัวการทำผิดอย่างรุนแรง มีการเปิดคลิปที่มีภาพสยดสยองประกอบ จนเพื่อนมีอาการปวดหัว กลัวทุกอย่างและร้องไห้ไม่หยุด ตลอดจนมีพฤติกรรมแปลกๆ จนต้องพาไปพบจิตแพทย์และพักการเรียนและต้องรักษาตัวระยะยาวนั้น
@@@@@@
ล่าสุด ปลัดอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นพ่อนักเรียนคนดังกล่าว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อ 4ปีที่ผ่านมาที่โรงเรียนของบุตรของตนได้จัดค่ายธรรมะ มีพระมาบรรยาย ในระหว่างที่เข้าค่ายทำกิจกรรมนั้น บุตรของตนได้มีอาการหวาดผวา ตกใจกลัว ทางโรงเรียนได้โทรให้ผู้ปกครองไปรับกลับหลังจากนั้นจึงได้พาน้องไปรักษา ซึ่งจากการรักษาคุณหมอบอกว่าลูกของตนป่วยด้วยโรคไบโพลาร์หรือเรียกอีกอย่างว่าโรคอารมณ์สองขั้ว เนื่องจากสารในสมองขาดความสมดุล โรคนี้จะต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง
นายสุนทรเล่าให้ฟังว่าบุตรของตนเป็นคนเรียนเก่งมาก ได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่ามาโดยตลอด เป็นเด็กดี จนมาถึงตอนเข้าค่ายธรรมะ น้องได้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกเป็นแบบนี้มาจากการเข้าค่ายธรรมะ
@@@@@@
ปลัดอำเภอรายดังกล่าวยังระบุว่า ปัจจุบันลูกของตนเป็นนักศึกษาเรียนอยู่ ปี 2 แต่ต้องพักการเรียนด้วยเหตุผลว่าช่วงปี 2 มีกิจกรรมมาก ทำให้ลูกกินยาไม่ต่อเนื่อง เพราะยาที่กินจะทำให้ง่วงนอนบุตรของตนอยากทำกิจกรรมจึงเลือกที่จะไม่กินยา เพราะยาที่น้องจะต้องกินในแต่ละวันจะต้องกินยา 3-4 เม็ด โดยหมอบอกว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้บางรายจะต้องกินยาตลอดชีวิต การที่ลูกของตนหยุดกินยาทำให้โรคกำเริบขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้ต้องหยุดพักการเรียนไว้ก่อน ขณะนี้น้องได้กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่เพื่อรักษาอาการที่กำเริบแล้ว
ปลัดอำเภอรายนี้ยังกล่าวว่า โรคนี้ไม่ได้ใช้ยาในการรักษาเพียงอย่างเดียว แต่ครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อาการน้องดีขึ้น ความรักความอบอุ่นความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ คนที่เป็นโรคนี้อารมณ์จะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก บางเวลาอารมณ์ดีๆ สักพักอารมณ์จะรุนแรง โมโห ขึ้นมาทันที บางครั้งเดินออกจากบ้านหายไปในสวน ซึ่งเป็นสวนปาล์มน้ำมัน เดินไปโดยไม่ใส่รองเท้า ไปนั่งอยู่ในสวน จนต้องตามหากันวุ่นวายเพราะ อาการของคนเป็นโรคนี้จะมีอาการซึมเศร้ากลัวจะคิดสั้น
@@@@@@
และเมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ขึ้นรถไฟฟรีจากชุมพรไปกรุงเทพโดยไม่ได้แจ้งผู้ปกครอง ไม่มีเงินติดตัวไปและไม่มีโทรศัพท์ซึ่งจะต้องดูแลเป็นพิเศษ ดูแลอย่างใกล้ชิด ในระหว่างที่น้องกลับมาอยู่บ้าน ตนเองจะพูดกับลูกด้วยถอยคำที่ไพเราะ โอบกอด เพื่อให้ลูกได้รับรู้ถึงความรักที่มีให้ ครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกหายจากอาการดังกล่าว ซึ่งทางครอบครัวหวังที่จะให้น้องกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งในระหว่างที่ลูกของตนกลับมาอยู่บ้านนั้น
ปลัดอำเภอรายนี้เล่าว่า น้องก็พยายามที่จะฟื้นความทรงจำของตัวเองโดยการเอากระดาษมาเขียนชื่อของเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ตนเองจึงหลังที่อยากให้ลูกกลับไปเรียนหนังสือจนจบ ทำในสิ่งที่รัก
@@@@@@
ส่วนพี่ชายของอดีตนักเรียนคนดังกล่าวก็เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าหลังน้องของตนกลับจากค่ายก็มีอาการหวาดระแวง ใจสั่น ก้มกราบคนในบ้านพร้อมเอ่ยคำขอโทษทุกคืน จนอาการหนักและต้องพาไปพบแพทย์ พร้อมวอนขอให้โรงเรียนหยุดการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ที่เหมือนเป็นการบีบบังคับและกดดันให้เด็กยอมสารภาพความผิด คล้ายเด็กเป็นนักโทษ รวมถึงบอกว่าทางโรงเรียนน่าจะตรวจสอบกิจกรรมให้ดีก่อนจัดด้วย
ล่าสุด ในวันนี้เวลา 14.30 น.ทางโรงเรียนของอดีตนักเรียนคนดังกล่าวซึ่งจัดกิจกรรมเข้าค่ายธรรมะจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีผู้ปกครองของอดีตนักเรียนร่วมแถลงข่าว
ขอบคุณภาพและข่าวจาก
https://today.line.me/th/pc/article/พ่อเปิดใจหลังลูกเข้าค่ายธรรมะสุดกดดัน+หวาดผวา+ใจสั่น+ต้องหาหมอ-9Z63wm/?utm_source=oa&utm_medium=all&utm_campaign=1811271057&utm_term=3 Reporter : GMM25
เผยแพร่ : 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 8.49 น. ,แก้ไข : 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 8.49 น.