ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปักหมุดเที่ยว...สกลนคร...หล่ะเบ๋อ.!  (อ่าน 943 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29352
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ปักหมุดเที่ยว...สกลนคร...หล่ะเบ๋อ.!
« เมื่อ: เมษายน 22, 2019, 06:40:55 pm »
0


ปักหมุดเที่ยว...สกลนคร...หล่ะเบ๋อ.!

วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังหวัดสกลนคร ซึ่งตั้งอยู่ในภาคอีสานตอนบน มีแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ ที่อายุกว่า 3,000 ปี เป็นชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน

นอกจากนี้ สกลนครยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุ 5 แห่ง เป็นแหล่งธรรมะมากมายด้วยปูชนียสถานที่สำคัญ มีพระเกจิอาจารย์ผู้เป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศหลายรูป ตลอดจนมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายอีกด้วย จึงนับว่าสกลนครมีความหลากหลาย น่าไปเยือนอย่างยิ่ง

สกลนคร...ยังเป็นเมืองสามธรรม ให้เราสามารถที่จะเลือกท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวทางธรรมะ ชมธรรมชาติ และชมวิถีวัฒนธรรมในแต่ละชนเผ่า ซึ่งสกลนครมีชนเผ่าพื้นเมืองอยู่ถึง 6 ชนเผ่า มีสำเนียงภาษาพูดแตกต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากๆ ถึงแม้ชาวสกลนครจะมาจากหลากหลายชนเผ่า แต่พวกเขาก็รักใคร่ปรองดองกัน ชนเผ่าหรือชาติพันธุ์คนสกลนคร มี ไทย้อ ภูไท ไทโย้ย ไทโซ้ ไทกะเลิง และไทลาวอีสาน...นี่ยังไม่รวมถึงชาวจีน และชาวเวียดนาม ที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองสกลนครมาอย่างยาวนานอีกด้วย



ตามผมไป ‘ปักหมุดเที่ยว...สกลนคร...หล่ะเบ๋อ!’ ด้วยกันครับ

ทริปนี้ผมขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวได้ทั่วทั้งตัวเมืองสกลฯ และขับร่อนออกไปนอกเมือง ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดสกลนคร

เริ่มที่ประตูเมืองก่อนเลยครับ ประตูเมืองสกลนครใหญ่โตมโหฬาร เป็น ‘ลานร่วมน้ำใจ’ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมสะพานหิน (สะพานขอมโบราณ) ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูเมือง



บนประตูเมืองสกลนครประดิษฐานรูปหล่อของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร และหลวงพ่อพระองค์แสนซึ่งมีความงดงามยิ่ง และเป็นที่ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มากราบสักการะทุกครั้งที่ทรงแปรพระราชฐานมายังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร



ตั้งอยู่ถนนเจริญเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ในวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ภายในวิหารใกล้พระธาตุเชิงชุม เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสกลนคร วัดพระธาตุเชิงชุม นับเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ใครเมื่อได้ไปเยือนเมืองสกลนครแล้วไม่ควรพลาดครับ

หนองหาร



ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ใกล้กับพระธาตุเชิงชุม เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีชื่อเสียง และกว้างใหญ่มากแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 123 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งรับน้ำตกของลำห้วยต่างๆ หลายสาย และยังเป็นต้นน้ำของลำน้ำก่ำซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม บริเวณหนองหารมีเกาะต่างๆ กว่า 20 เกาะ เช่น เกาะดอนสวรรค์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด บนเกาะมีวัดร้างและพระพุทธรูปเก่าแก่ นอกจากนั้นตามเกาะต่างๆ เหล่านี้จะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่มากมาย เป็นที่อาศัยของนกนานาชนิด...เมื่อเวลาแดดส่องลงในหนองหารจะมองเห็นสาหร่ายเป็นสีทองสวยงาม

พระธาตุดุม



หลังจากไหว้พระธาตุเชิงชุม นั่งรถไปไม่ไกล ห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ไปชมพระธาตุดุมกันครับ เป็นพระธาตุเก่าแก่ อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-17 เป็นศิลปะแบบบาปวน เป็นปรางค์องค์เดียวสร้างด้วยศิลาแลง มีเพียงยอดเดียว ไม่มีฐานรองรับ พบทับหลังทั้ง 4 ด้าน ด้านทิศเหนือเป็นภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์ นอกจากนี้ยังมีภาพเทวดาทรงพาหนะเหนือหน้ากาล ประกอบด้วยสัตว์ต่างๆ

พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส



หลวงปู่มั่น นับเป็นแม่ทัพธรรม สายวิปัสสนา ท่านธุดงค์กรรมฐานเข้ามาจำพรรษาที่วัดป่าสุทธาวาส และได้มรณภาพที่วัดแห่งนี้ ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์เครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่ ภายในมีรูปหล่อเหมือนองค์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในท่านั่งสมาธิ และมีตู้กระจกบรรจุอัฐิของท่านที่แปรสภาพเป็นแก้วผลึกสีขาว พร้อมทั้งตู้แสดงอัฐบริขารรวมทั้งประวัติความเป็นมาของท่านตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ

ปราสาทพระธาตุนารายณ์เจงเวง



ตั้งห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางสกลนคร-อุดรธานี พระธาตุนารายณ์เจงเวง ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง บ้านธาตุ ลักษณะเป็นพระปรางค์องค์เดียว สร้างด้วยหินทรายฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ สลักลวดลายลงบนเนื้อหิน มีทับหลังจำหลักภาพกฤษณะฆ่าสิงห์ในรูปแบบศิลปะขอม สมัยบาปวน ลักษณะคล้ายกับปราสาทหินของขอมที่ปรากฏหลายแห่งในภาคอีสาน ลวดลายสลักหินบนซุ้มประตูหน้าต่างมีลักษณะสมบูรณ์ปรากฏชัด อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17

วัดถ้ำผาแด่น



เป็นดินแดนแห่งอารยธรรม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการไปทำบุญพักผ่อนจิตใจ เรียกได้ว่าเที่ยวไปอิ่มบุญไปและตื่นตาตื่นใจกับประติมากรรมฝีมือมนุษย์ที่แกะสลักภูเขาทั้งลูกเปลี่ยนจากหินภูเขาธรรมดา กลายเป็นของมีคุณค่าทางจิตใจที่ไม่สามารถเปรียบมูลค่าได้

ชุมชนบ้านท่าแร่



ตั้งอยู่ริมหนองหาร บนทางหลวงหมายเลข 22 (สกลนคร-นครพนม) ต.ท่าแร่ อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 21 กม. หมู่บ้านท่าแร่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย เป็นชุมชนที่เก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านท่าแร่นั้น นักท่องเที่ยวจะได้พบกับความสวยงามของบ้านโบราณ โดยอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นแบบตึกปูนทรงยุโรปในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสผสมเวียดนาม ในช่วงเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ทุกๆ วันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ชุมชนแห่งนี้จะจัดเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส โดยจัด ‘ขบวนแห่ดาวคริสต์มาส’ ในทุกปีจะมีรถดาวเข้าร่วมขบวน ใครเดินผ่านไปมาจะเห็นแต่รอยยิ้มและคำเชิญชวน ความสุขอวลอยู่แทบทุกอณูในความเป็นบ้านท่าแร่วันนั้น

อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ



อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบึงหนองหาร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2553 เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมบัวพันธุ์ต่างๆ และรองรับการประชุมวิชาการบัวนานาชาติปี พ.ศ.2553 ที่จัดขึ้นที่วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ศึกษาค้นคว้าของนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป รวมทั้งยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสกลนคร ความโดดเด่นของอุทยานบัวคือ มีบึงบัวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า มีสะพานไม้สีแดงทอดยาวเชื่อมต่อกันสำหรับเดินชมดอกบัวรอบสระ มีศาลาชมวิวกลางบึงบัวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ นั่งชมบัวรับลมเย็น นับเป็นอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

พระธาตุภูเพ็ก



เป็นพระธาตุที่สร้างอยู่บนยอดเขาภูพาน องค์พระธาตุสร้างด้วยหินทรายบนฐานศิลาแลง เป็นพระธาตุยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ไม่มีหลังคาและยอดปราสาท เพียงแต่ทำขื่อตั้งไว้เท่านั้น พระธาตุภูเพ็กสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ตั้งห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 22 กิโลเมตร เส้นทางสกลนคร-อุดรธานี

พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์



พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นในบริเวณเทือกเขาภูพาน โดยพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ทรงเลือกพื้นที่สร้างพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ทรงใช้แผนที่ทางอากาศและการเสด็จสำรวจเส้นทางบริเวณป่าเขา น้ำตก อาคารต่างๆ ภายในเขตพระราชฐานที่เรียกรวมๆ ว่า ‘หมู่พระตำหนัก’ มีสไตล์การตกแต่งที่เรียบหรู ดูคลาสสิก ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักต้นไม้ได้เลยทีเดียว เนื่องจากภายในเต็มไปด้วยไม้นานาพรรณ โดยเฉพาะไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งนี้ พันธุ์ไม้ที่เป็นที่ชื่นชมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ได้แก่ พันธุ์ไม้ดอกจากป่าภูพาน อาทิ ดุสิตา มณีเทวา และทิพย์เกสร ซึ่งจะมีให้ชมเฉพาะช่วงหน้าหนาว ทั้งนี้ ในระหว่างที่ไม่มีพระองค์ใดประทับอยู่ ทางสำนักเลขาธิการพระราชวังจะอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน

สะพานหินธรรมชาติ (ทางผีผ่าน)



ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูพาน อำเภอเมือง สกลนคร มีลักษณะเป็นสะพานหินที่เชื่อมต่อระหว่างหินสองกลุ่ม ขนาดกว้างของสะพานประมาณ 1.5 เมตร ยาว 8 เมตร ด้านใต้เป็นเวิ้งกว้าง ใช้เป็นที่หลบแดดหลบฝนได้ นับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างหนึ่ง

นอกจากนี้ทางอุทยานฯ ได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่บริเวณผานางเมิน ลานสาวเอ้ แก้งขี้ลิง เขตป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง แล้วกลับสู่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติอีกครั้ง และตลอดเส้นทางเดินป่าจะมีจุดสำหรับการศึกษาธรรมชาติในเรื่องของสภาพป่าไม้โดยทั่วไปของพื้นที่อุทยานฯ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

สกลนคร เมืองสงบงามที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ วัดวาอาราม รวมถึงมีวิถีชีวิตของผู้คนที่น่าสนใจ มากด้วยแง่งามทางศิลปวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงาม...เป็นอีกเมืองรอง ที่ไม่เป็นรองใคร น่าไปเยือน และไปปักหมุดเที่ยวมากครับ



ขอบคุณ : https://www.rabbittoday.com/articles/guide-to-go/sakon-nakhon
Published 27 มี.ค. 2019 ,By คชาชาติ อนนทสีหา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2019, 07:18:49 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ