ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พลังธรรมานุภาพ ลานบุญหนุนศรัทธา  (อ่าน 779 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พลังธรรมานุภาพ ลานบุญหนุนศรัทธา
« เมื่อ: ธันวาคม 30, 2019, 06:40:16 am »
0


พลังธรรมานุภาพ ลานบุญหนุนศรัทธา

"ปีกุน"…“หมู” อำลาให้ชวดหนูแทนที่...ปีใหม่นี้คงเห็นคนเดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กันทุกทิศทั่วไทย

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ “วัดพระแก้ว” จะคับคั่งไปด้วยเหล่าพุทธศาสนิกชนที่มากราบไหว้ “พระแก้วมรกต” พระคู่เมืองที่สร้างขึ้นเมื่อปี 500 พบครั้งแรกขณะถูกพอกปูนหุ้มองค์อยู่ในเจดีย์วัดปาญะ ต.เวียง เมืองเชียงราย...ปี 1977 ถูกฟ้าผ่าจึงเห็นองค์จริงเป็นเนื้อหยกสีมรกต แล้วจึงถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังเมืองต่างๆ อาทิ ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรี และกรุงเทพฯ

ตำนานเล่าว่า ครั้งประดิษฐานอยู่กรุงปาฏลีบุตร เคยเกิดแผ่นดินไหว แต่กลับไม่ระคายพระงดงามองค์นี้ ต่อมาได้อัญเชิญสู่ลังกาทวีป แล้วเคลื่อนย้ายเข้าอ่าวกัมพูชา ก่อนถึงอโยธยาและกำแพงเพชร ถึงหัวเมืองฝ่ายเหนือเชียงแสน เชียงราย ฝาง

ถึงวันนี้...พระที่ได้ชื่อว่าคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณด้านสันติสุขโชคลาภกับมงคลชีวิต มีคาถาบูชา “พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง ปูเชมิ ทุติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง ปูเชมิ ตะติยัมปิ พุทธะฯ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ มะหาเตโช เจวะ มะหาปัญโญ จะ มะหาโภโค จะ มะหายะโส จะภวันตุ เม นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ”

@@@@@@

นอกจากนี้มี “พระพุทธชินราช” วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร “วัดใหญ่” ริมฝั่งลำน้ำน่าน ซึ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองโรคภัยกับชีวิตให้รุ่งเรือง เคยแสดงอภินิหารครั้งศึกอะแซหวุ่นกี้ตีเมืองพิษณุโลก แล้วจุดไฟเผาพระวิหาร แต่ไม่กระทบองค์พระแม้แต่น้อย...คาถาบูชาคือ “อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อภิปูชิเตหิ ทีฆายุโกโหมิ อะโรโค สุขิโต สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะ ประสิทธิลาโภ ชะโยโหตุ สัพพะทา พระพุทธชินะราชา อภิปะเลตุมัง นะโมพุทธายะ”

องค์ถัดมาเป็นหลวงพ่อพระพุทธโสธร วัดโสธรวรวิหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นพระหินทรายไม่ปรากฏปีที่สร้าง แต่เชื่อว่าต้นกำเนิดอยู่ภาคเหนือเมื่อ 500-600 ปีก่อน แล้วลอยน้ำมาให้ชาวบ้านอัญเชิญประดิษฐานยังวิหาร มีสาธุชนแห่สักการะขอพรบันดาลให้แคล้วคลาดอุบัติภัย

ขณะวัดบ้านแหลม อ.เมืองสมุทรสงคราม ถิ่นหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ปางอุ้มบาตร มีตำนานเกี่ยวเนื่องหลวงพ่อโสธร คราวลอยน้ำจากเมืองเหนือ ที่นี่คึกคักด้วยมีคุณด้านเมตตา คนป่วยหากได้กราบบูชาจะหายหรือบรรเทา ใครทุกข์ร้อนก็คลายทุกข์ได้ ชาวจีนนิยมกันมาก



เหตุนี้ถึงทำให้ชาวละครชาตรีและงิ้วแสดงถวาย รู้กันดีว่า...ถ้าไม่รำถวายมือหลวงพ่อก่อนจะถูกมหันตภัยใกล้ตัวเล่นงานแน่นอน คาถาบูชาคือ “นะมะ ระอะ นะ เท วะ อะ”

หลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม นี่เช่นกัน ประชาชนจะหลั่งไหลไปที่นั่น มากขนาดงานบุญประจำปียากจะเข้าถึงองค์พระ ต้องยอมลงรักปิดทององค์จำลองด้านนอกแทน

มีตำนานเดียวกับหลวงพ่อโสธรและบ้านแหลม ตรงลอยน้ำมาจากเมืองเหนือ มีพุทธคุณค้ำจุนมนุษย์ให้พ้นทุกข์ พบแต่ความร่มเย็น ด้วยบทบูชา “กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา มะเหสักขายะ เทวะตายะ อะภิปาลิตัง อิทธิปาฏิหาริกัง มังคะละจินตารามะ พุทธปะฏิมากะรัง ปูชามิหัง ยาวะชีวัญจะ สุกัมมิโก สุขะปัตติตถายะ” แลไกล...ไปถึง จ.นครศรีธรรมราช อาณาจักรศรีวิชัย แดนพระพุทธสิหิงค์ ศูนย์รวมจิตใจในหอพระของอดีตเจ้าพระยานคร ตั้งอยู่ข้างศาลประจำจังหวัด สร้างราวปี 700 จากลังกาทวีป

ไม่น่าแปลก...ที่ไม่มีทุจริตชนคนใดกล้าเอ่ยปากสาบาน เพราะรู้ในอิทธิฤทธิ์ต่อชีวิตดี!



ข้ามไปอีสาน “หลวงพ่อพระใส” วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จ.หนองคาย ที่คนไทยและเพื่อน บ้าน สปป.ลาว เลื่อมใส ด้วยรับรู้ถึงปาฏิหาริย์มากมาย เช่น ครั้งการหล่อองค์พระมีชีปะขาวรายหนึ่งมาอาสาสูบเตาหลอมให้ แล้วพลันมีชีปะขาวพร้อมเตาเพิ่มขึ้นบัดดล จนหลอมทองเสร็จ...ไม่มีใครเห็นชีปะขาวเหล่านั้นอีกเลย

อีกครั้งหลวงพ่อได้แสดงอิทธิฤทธิ์ที่หน้าวัดโพธิ์ชัย ขณะประดิษฐานอยู่เหนือแท่นเกวียนจนเล่มเกวียนหัก จึงทำให้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า

“หลวงพ่อเกวียนหัก” จนปัจจุบันหลวงพ่อให้คุณเรื่องโชคลาภ ไร้โรคภัย และมีชัยต่อสิ่งปรารถนา คาถาบูชา “อะระหัง พุทโธ โพธิชโย เสยยะคุโณ โพธิสัตโต มะหาลาโภ ปิยัง มะมะ ภะวันตุโน โหตุ สัพพะทาฯ”

@@@@@@

ย้ายมาที่กรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา ก็มีพระพุทธไตรรัตนนายก หรือ “หลวงพ่อโต” วัดพนัญเชิงวรวิหาร ริมแม่น้ำป่าสัก ด้วยพุทธลักษณะพระพักตร์สี่เหลี่ยมดูเคร่งขรึม พระเกศาเล็ก รัศมีเป็นเปลว สันนิษฐานว่าสร้างปี 1867...คราวเสียกรุงแก่พม่าช่างน่าเศร้า หลวงพ่อโตมีน้ำพระเนตรไหลหยดลงอย่างน่าฉงน!

หลวงพ่อองค์นี้ช่วยเสริมเรื่องค้าขาย และนิยมแก้บนโดยถวายผ้าห่มหลวงพ่อ คาถาบูชา “อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ ทุติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ ตะตะยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชยามิ”

อีกที่องค์พระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่สาธุชนไทยกับ สปป.ลาว มีศรัทธาไม่เสื่อมคลาย แม้จะเคยพังทลายลงเมื่อปี พ.ศ.2518 ก็ยังมีกองทัพธรรมแห่มาสักการะไม่ขาดสาย

ปัจจุบันได้อัญเชิญ “พระมหาสุวรรณศากยมุนี” วัดป่าหนองเกาะแก้ว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาไว้บนชั้น 5 องค์พระธาตุ ให้สาธุชนได้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสืบไป



สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง อาจไม่สะดวกพอที่ใครบางคนจะเดินทางไปบูชาได้ครบทั้งหมด

จึงอยากบอก...สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ ททท.พัทยา ได้ส่งเสริมเป็นสถานที่เที่ยวเพื่อพักผ่อน ศึกษาธรรมชาติและทำกิจกรรม สนับสนุนจัดลานบุญก่อซุ้มบุษบกประดิษฐานองค์จำลองพระ 9 องค์ ขึ้นในสวนลอยฟ้าให้นักท่องเที่ยวไปกราบไหว้ขอพรแทนองค์จริง

คมสัน จันทร์สืบสาย ผอ.ฝ่ายอนุมัติปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธ.กรุงไทย และซีอีโอ บ.เฮงดีเจริญ ผู้ผลิตนมอัดเม็ดกับเป็นผู้สนับสนุนลานดังกล่าว ยืนยันพระพุทธรูปส่วนหนึ่งคือพระเก่าเก็บของตระกูล “ตันสัจจา”

อีกส่วนหนึ่งเป็นสมบัติราชนิกุล ร.4 จากพระอารามต้นทาง ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วทั้งสิ้น โดยมีอายุ 60-70 ปี จึงเชื่อได้ว่ามีความขลังอันเนื่องมาจากบ่อเกิดแห่งพลังพุทธานุภาพนั้นกล่าวกันว่า...“ปาฏิหาริย์” และแรง “ศรัทธา” นั้นไม่ต่างกับการได้เดินทางไปสัมผัสองค์จริง ณ แหล่งที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 แห่ง

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

            รัก-ยม



ขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1736290
จากคอลัมน์ เหนือฟ้าใต้บาดาล โดย รัก-ยม ,29 ธ.ค. 2562 ,05:06 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 30, 2019, 06:52:56 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ