ภาพสลักหินรูปเทพอัปสร ปราสาทนครวัด (ภาพถ่ายโดย นนทพร อยู่มั่งมี)
ทำไม เหล่าเทพอัปสร ต้องเปลือยอก.?
ปราสาทนครวัดมีภาพสลักหินเป็นรูปเทพธิดาหรือนางฟ้านางอัปสรจำนวนมาก นักโบราณคดีและนักท่องเที่ยวหลายคนพยายามนับว่ามีทั้งหมดเท่าไร? แต่ถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครยืนยันจำนวนแน่นอนได้
รองศาสตราจารย์ ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ (ผู้เรียบเรียงหนังสือเรื่องปราสาทพนมรุ้งฯ) บอกว่าที่ปราสาทนครวัดมีภาพสลักหินรูปเทพธิดาจำนวน ๑,๐๘๐ ภาพ และมีรูปนางอัปสรอีกจำนวนหนึ่งซึ่งยังนับไม่ได้แน่นอน
ภาพสลักหินเหล่านี้บางทีเรียก “เทพธิดา” แต่คนทั่วไปชอบเรียก “อัปสร” ต่อไปนี้จะขอเรียกรวม ๆ ว่า “เทพอัปสร” ตามชื่อที่ปรากฏในอนิรุทธคำฉันท์ และเพื่อความสะดวกสบายใจในเรื่องนี้ด้วย
บรรดาเทพอัปสรที่ปราสาทนครวัดมีเครื่องแต่งตัวพร้อมเครื่องประดับประดาถนิมพิมพาภรณ์อลังการมากดังเห็นจากลวดลายที่แกะสลักหิน แต่ – เปลือยอกทุกนางภาพแกะสลักหินเทพอัปสร (ภาพจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับ มีนาคม ๒๕๓๖)
ทำไม เหล่าเทพอัปสร ต้องเปลือยอก.?ยังไม่รู้จะอธิบายอย่างไร.? แต่นักโบราณคดีทั้งหลายเชื่อว่าช่างแกะหินรูปนางเทพอัปสรที่ปราสาทนครวัดแกะเลียนแบบชีวิตจริงของผู้หญิงสมัยนั้นเมื่อพันกว่าปีมาแล้วนั่นเอง
ตรงนี้มีหลักฐาน เพราะเอกสารของคณะราชทูตจีนที่บันทึกโดยโจวต้ากวาน (เมื่อ พ.ศ. ๑๘๓๙ ตรงกับปีที่สร้างเมืองเชียงใหม่) กล่าวถึงกัมพูชาสมัยนั้นว่า ผู้หญิงเปลือยอกหมด ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูงหรือชนชั้นต่ำ แล้วยังย้ำว่าพวกชาววังกับพวกผู้ดีมีผิวขาว “เปลือยอกที่ขาวนุ่มนวลดุจเนยเหลว” (แปลจากต้นฉบับภาษาจีน โดย เฉลิม ยงบุญเกิด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
“ทุกคนนับตั้งแต่พระเจ้าแผ่นดินลงมาทั้งชายและหญิงมุ่นมวยและเปลือยท่อนบน ใช้ผ้าพันเอว เมื่อออกไปนอกบ้าน ก็เพิ่มผ้าผืนใหญ่หนึ่งผืนพันทับผ้าผืนเล็กเข้าไว้ เรื่องผ้าที่นุ่งนั้นมีชั้นอันดับอยู่มาก”
“พวกชาววังและพวกผู้ดีตามบ้านนั้น ที่เป็นผู้หญิงมีผิวขาวประดุจหยก ทั้งนี้เนื่องจากไม่เห็นแสงตะวันกันเลย โดยทั่วๆ ไปแล้วผู้หญิงก็เหมือนกับผู้ชายคือใช้ผ้าผืนเดียวกันพันเอว เปลือยอกที่ขาวนุ่มนวลดุจเนยเหลว เกล้ามวย และเดินด้วยเท้าเปล่า แม้แต่พระมเหสีของพระเจ้าแผ่นดินก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน”
จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นเฉพาะเขมร แต่รวมถึงมอญ ลาว และไทยด้วย ดังมีภาพปูนปั้นนักดนตรีและนักร้อง ๕ นางที่พบที่เมืองคูบัว จังหวัดราชบุรี ไม่มีเสื้อสักคนเดียว
คัดลอกส่วนหนึ่งจากบทความ “คือเทพอัปสร สรรพสรรพาภรณ์ เรืองรองตระศักดิ์เสด็จลงจากฟ้ายาตรหล้าเลิศลักษณ์ค่าใครเชยชักทราบสิ้นสุดสมอง” ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม มีนาคม ๒๕๓๖)
ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม ๒๕๓๖
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ.2563
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ.2561
ขอบคุณ :
https://www.silpa-mag.com/history/article_18809