ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องสัญญาณไฟฟ้าสมอง ตรวจสอบพัฒนาฝึกสติ-สมาธิ  (อ่าน 819 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เครื่องสัญญาณไฟฟ้าสมอง ตรวจสอบพัฒนาฝึกสติ-สมาธิ


เครื่องสัญญาณไฟฟ้าสมอง - องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ คำนิยามเรื่องสุขภาวะ (Well-being) ที่ครอบคลุมทั้ง 4 มิติที่มีความสัมพันธ์กัน ทั้งในเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาวะทางสังคม และสุขภาวะทางปัญญา

นายฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในการสนทนาธรรม “สติ...กับการกู้ใจ ให้ไร้ระเบิดเวลา” กับ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน และ นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.ศูนย์คุณธรรม ว่า ระเบิดเวลาทางใจ

เกิดจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสุขภาวะทางใจ โดยเฉพาะในสังคมเสมือนจริงที่อยู่บนโลกออนไลน์ พบว่าผู้คนเริ่มแยกกันมาอยู่กับตัวเอง อยู่กันไม่เป็นสังคมกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากเราไม่รู้เท่าทัน เสพสื่อโดยขาดสติ จะทำให้สุขภาพทางใจเราเริ่มเสียไปด้วย



ความเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อเกิดของอนุมูลอิสระ เป็นปัจจัยที่มีส่วนสัมพันธ์กับโรคต่างๆ โดยมีข้อมูลว่าเกี่ยวเนื่องกับการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ซึ่งรวมไปถึงการแก่ก่อนวัย ปัจจุบันเรามีการริเริ่มใช้ ‘เครื่องวิเคราะห์คลื่นสัญญาณไฟฟ้าสมอง’ (Electroencephalography หรือ EEG) มาทำให้เรื่องสุขภาพทางใจเป็นเรื่องที่จับต้องได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการช่วยดูพัฒนาการฝึกสติ และสมาธิได้

เครื่อง EEG สามารถใช้วิเคราะห์คลื่นสมองหลัก 4 คลื่น คือ คลื่นเบต้า ซึ่งสามารถบอกได้ทั้งความคิดและความเครียดที่ก่อเกิดอยู่ คลื่นแอลฟ่า ที่บอกถึงการผ่อนคลายในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจหมายถึงการรับรู้เท่าทันกับความเครียดและพยายามกำหนดวิถีในการผ่อนคลาย และอีก 2 คลื่น คือ ธีต้า และเดลต้า ที่สามารถบ่งชี้ภาวะความผ่อนคลายในระดับที่ลึกขึ้น และการมีระดับของสมาธิที่สูงขึ้นได้



คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า ถ้าเรามีความเครียดสูงเมื่อตรวจด้วยเครื่อง EEG จะพบว่ามีคลื่นเบต้าค่อนข้างสูงในแต่ละช่วงเวลา แต่เมื่อมีการควบคุมความเครียด ได้ดีขึ้น หรืออีกนัยคือผ่อนคลายดีขึ้น คลื่นแอลฟ่าก็จะสูงขึ้นตาม โดยคลื่นสมองที่มีสัดส่วนแอลฟ่าสูงกว่าเบต้าจะถูกวิเคราะห์และแสดงผลออกมาเป็นกราฟ

ซึ่งเกิดมาจากการฝึกสติให้รู้เท่าทัน โดยผลจากการวัดคลื่นไฟฟ้าสมองจะสามารถช่วยยืนยันได้ว่า ที่เราฝึกมานั้นทำได้ถูกต้อง ถูกทางเพียงใด ในขณะเดียวกันคนที่ไม่สามารถที่จะครองสติอยู่ได้ มีแต่ความเครียดสะสม จะไม่เห็นคลื่นสมองในสัดส่วนหรือสมดุลที่ดีได้ เนื่องจากมีคลื่นเบต้าสูงกว่าคลื่นแอลฟ่ามาก


คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกับเสถียรธรรมสถาน และศูนย์คุณธรรม ขับเคลื่อน Mindfulness & Moral-based Learning Society ซึ่งหมายถึงการใช้เรื่องของสติ และคุณธรรมต่างๆ เข้ามาช่วยกันเพื่อให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งสุขภาวะที่ดี ที่คณะเทคนิคการแพทย์เรามีศูนย์ส่งเสริมสุขภาวะแบบองค์รวม ที่ดูแลทั้งมิติสุขภาพกายและใจ

ล่าสุดได้มีความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดตั้งคลินิกส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ของ สปสช.เขต 13 กรุงเทพมหานคร โดยสามารถที่จะให้บริการตามสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อการดูแลสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคด้วย ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 09-2554-5230


“คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะนำเอาความพร้อมและศักยภาพต่างๆ ที่มีอยู่มาช่วยทำให้ประสบผลมากที่สุด โดยจะทำให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทรัพยากรบุคคล ข้อมูล และเทคโนโลยี เพื่อการร่วมขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาสังคมแห่งสุขภาวะ ให้คนในสังคมมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยเรามุ่งหวังที่จะทำให้ประเทศไทย และโลกของเราเป็นสังคมแห่งศานติสุข” นายฉัตรเฉลิมกล่าวทิ้งท้าย


ขอบคุณที่มา : https://www.khaosod.co.th/amulets/news_3667675
1 มี.ค. 2563 - 10:09 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ