ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จิตสำนึกร่วม..ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา  (อ่าน 779 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




จิตสำนึกร่วม..ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา

เชื้อไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลกระทบต่อพลเมืองทั่วโลก คณะสงฆ์จะต้องตื่นตัวอย่างรู้เท่าทัน การป้องกัน การดูแลวัดและพระภิกษุสามเณรเป็นสิ่งสำคัญ ล่าสุดประเทศอิตาลีปิดประเทศแล้ว

ผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทุกหย่อมหญ้า ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม วงการคณะสงฆ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น กิจกรรมทางศาสนาหลายกิจกรรมต้องเลื่อนบ้าง ยกเลิกบ้าง ทั้งงานบวชสามเณรภาคฤดูร้อน,กิจกรรมงานสงกรานต์ และรวมทั้งงานวิสาขบูชานานาชาติ

แม้แต่การเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ก็งดให้ประชาชนเข้าเฝ้า ดังความว่า “คณะแพทย์ผู้ถวายการอภิบาลพระอนามัยเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แจ้งแก่สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชว่า ด้วยเหตุแห่งพระชนมายุสูง และการปฏิบัติพระกรณียกิจที่ต้องประทับท่ามกลางสมาคมของหมู่ชนจำนวนมาก นับเป็นภาวะเสี่ยงต่อโรค จึงสมควรงดการประทานพระวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าเป็นการทั่วไป และงดการเฝ้าของบุคคลทั่วไปโดยใกล้ชิด ในระยะที่มีการแพร่ระบาดของโรค

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จึงขอประกาศงดการนำความกราบทูลขอประทานพระวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้า และงดการเปิดให้ประชาชนเฝ้าถวายสิ่งของและเครื่องสักการะได้เป็นการทั่วไป จนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลาย ทั้งนี้ ความทราบฝ่าพระบาทแล้ว..”


@@@@@@

เมื่อสมเด็จพระสังฆราช ทรงงดศาสนกิจบางศาสนกิจแบบนี้ งานประสาทปริญญากลางเดือนพฤษภาคมของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย “ส่อเค้าโรคเลื่อน” เป็นแน่แท้ ซึ่งก็ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากมหาจุฬา ฯ อีกครั้ง

คณะสงฆ์ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคม งานวัด งานกิจกรรมประจำปีที่เคยจัด หากไม่เบากว่าแรง “ควรงด” อย่าเห็น “การสร้างรายได้” สำคัญไปกว่า “จิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม” มาทำลาย “ความชอบธรรม” ที่สังคมไทยควรจะมี แต่เรื่อง “จริยธรรมความรับผิดชอบแบบนี้” ในขณะที่คณะสงฆ์สอน อบรมให้ประชาชนมีความรับผิดชอบ..การปฎิบัติแบบอย่างน่าจะดีกว่า “คำพูด”

เชื้อไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลกระทบต่อพลเมืองทั่วโลก คณะสงฆ์จะต้องตื่นตัวอย่างรู้เท่าทัน การป้องกัน การดูแลวัดและพระภิกษุสามเณรเป็นสิ่งสำคัญ ล่าสุดประเทศอิตาลีปิดประเทศแล้ว และหลายประเทศก็จะมีลักษณะแบบนี้ “เปิดประเทศ แต่บรรยากาศเหมือนปิดประเทศ”

@@@@@@

สำหรับประเทศไทย ตอนนี้คงไม่ต้องบอกทุกคนก็รับรู้ได้ว่า “ประชาชนหลอน” แค่ไหนต่อโรค เชื้อไวรัสโคโรนา นี้ บรรยากาศตามห้าง บรรยากาศตามร้านค้าทั่วไป สิ่งที่เราเคยเห็นประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส ตอนนี้ค้าขาย ซบเซาหมดแล้ว

บรรยากาศแบบนี้ “ข้าวยากหมากแพง” แบบนี้ หากคณะสงฆ์ เจ้าอาวาส ยังจัดงาน “เพื่อระดมทุน” ชวนคนทำบุญด้วยการบริจาคปัจจัย สิ่งของ เพื่อเข้าวัดที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอันเป็นสาธารณะ..ผมว่า จิตใจอำมหิตเกินไป

เรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา ที่กำลังทำลายโลกและประเทศไทยอยู่ตอนนี้ คณะสงฆ์ “อย่าวางเฉย” ต้องร่วมกันปกป้องและคุ้มครองประชาชนและสังคมร่วมกัน..การจัดกิจกรรมในวัดอันไหนที่เลิกได้เลิก อันไหนที่เลื่อนได้เลื่อน..คณะสงฆ์ต้องร่วมการสร้างขวัญและกำลังใจให้เกิดแก่ประชาชนในการที่จะใช้ชีวิตต่ออย่างน้อย “สวดพระปริตร” ก็ยังดี

อย่าให้สังคมมองว่า..พระสงฆ์เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้



คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง ,โดย “เปรียญ10” : riwpaalueng@gmail.com.
ขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/article/762029
พุธที่ 11 มีนาคม 2563 ,เวลา 11.00 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ