ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดใจสาวชัยภูมิ ยกบ้านให้ใช้เป็นที่กักตัวของรัฐ เผยขอพระภูมิเจ้าที่ให้แล้ว  (อ่าน 810 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เปิดใจสาวชัยภูมิ ยกบ้านให้ใช้เป็นที่กักตัวของรัฐ เผยขอเจ้าที่ให้แล้ว

เปิดใจ "สีทอง" สาวชัยภูมิใจบุญมีจิตเป็นกุศล ประกาศยกบ้านราคา 18 ล้าน พร้อมโกดัง ให้ทางการใช้เป็นที่กักตัวของรัฐ และโรงพยาบาลสนามที่ชัยภูมิ หลังขออนุญาตเจ้าที่แล้ว บอกเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด

กรณีหญิงสาวน้ำใจงามชาวจังหวัดชัยภูมิ ใช้ชื่อ สีทอง กุมมาร ได้โพสต์รูปบ้านหรูหลังใหญ่ 2 ชั้นพร้อมโกดังหลังใหญ่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท อยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 14 ตำบลกวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ยกให้หน่วยงานภาครัฐนำไปใช้เป็นสถานที่กักผู้สงสัยป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พร้อมยังมีโกดังที่สามารถดัดแปลงใช้เป็นโรงพยาบาลสนามได้ด้วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ก่อนลงเฟซบุ๊ก ผู้คนบนอินเทอร์เน็ตต่างแห่กดไลค์ แสดงความชื่นชมมากกว่า 7 พันครั้ง โดยเธออ้างว่าได้ขออนุญาตพระภูมิเจ้าที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อพบกับนางสีทอง กุมาร อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 14 ตำบลกวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ผู้เป็นเจ้าของโพสต์เฟซบุ๊กยกบ้านมูลค่า 18 ล้าน ให้ทางการใช้เป็นสถานที่กักตัวดูอาการ โดยนางสีทอง กล่าวว่า ตัวเองได้โพสต์และข้อความดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยตัวนางสีทอง ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า

ตัวเธอเองมีอาชีพค้าขาย อยู่ที่ ตลาดชุมแพ จ.ขอนแก่น ช่วงนั้น (24 มี.ค.) ได้ติดตามข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตลอด มีเจ้าของสถานที่หลายแห่ง ที่ยอมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยติดเชื้อ และทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งประกอบกับเธอเองมีบ้านและโกดังสินค้า ที่ปิดไว้เฉยๆ ไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงมีความคิดว่าอยากจะมอบบ้านหลังดังกล่าวให้เป็นที่กักตัว และรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด19 สำหรับหน่วยงานราชการ




เจ้าของบ้าน กล่าวต่อว่า หลังจากตนตัดสินใจแล้ว จึงได้เปิดดูกล้องวงจรปิดผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน และมีกล้อง 1 ตัวที่จับภาพที่บริเวณหน้าบ้านที่มีศาลพระภูมิเจ้าที่ตั้งอยู่ โดยเธออ้างว่าขณะนั้นตัวเธอได้พูดคุย (ทางจิต) กับเจ้าที่ประจำบ้านเพื่อสอบถามว่า จะอนุญาตหรือไม่ ถ้าหากอนุญาตก็ให้แสดงปาฏิหาริย์อย่างใดอย่างหนึ่งออกมาให้เห็น ถ้าไม่อนุญาตก็ให้อยู่เฉยๆ

ซึ่งเธอเล่าต่อว่าระหว่างนั้นหลังจากเธอพูดจบก็ปรากฏว่าบริเวณด้านหน้าศาลพระภูมิเจ้าที่ตั้งอยู่มีแสงสีเขียวสีเหลืองสีน้ำเงินขนาดใหญ่ลอยพวยพุ่งขึ้นมา โดยหลังจากนั้นก็ตัดสินใจโพสต์ข้อความและรูปบ้านลงเฟซบุ๊กทันที

นางสีทอง กล่าวอีกว่า โดยหลังจากโพสต์ข้อความและรูปลงเฟซบุ๊กไป ก็มีชาวเน็ตแห่กดไลค์ชื่นชมเธอเกือบ 7 พันครั้ง พร้อมคอมเมนต์กล่าวชื่นชมอีกจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้เริ่มมีหน่วยงานบางหน่วยงานได้โทรมาสอบถามบ้างแล้ว และก็ยังมีประชาชนทั้งคนไทย และต่างประเทศติดต่อเธอเข้ามาว่า จะขอมาอาศัยเป็นที่กักตัวจะคิดค่าเช่าเท่าไหร่ก็ยินดี ซึ่งเธอก็ได้ตอบปฏิเสธและให้เหตุผลไปว่าจะยกให้เฉพาะหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรเท่านั้น




"ปัจจุบันเธออยู่ตัวคนเดียว บ้านหลังดังกล่าวสร้างมานานหลายปี แต่ไม่ค่อยได้มาอยู่เพราะต้องเดินทางไปทำธุรกิจค้าขายอยู่ต่างจังหวัด เลยตัดสินใจที่จะยกบ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร ใช้เป็นที่กักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมมากกว่าและที่สำคัญเธอต้องการที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่เธอได้เกิดมาบนแผ่นดินประเทศไทยแห่งนี้" เจ้าของบ้าน กล่าว

นางสีทอง กล่าวด้วยว่า เมื่อก่อนตนเองนั้นเคยจนมาก่อนฐานะทางบ้านยากจนมาก เธอต้องอาศัยกินข้าววัดมาตั้งแต่เด็ก เธอเรียนจบนักธรรมเอกตั้งแต่ยังไม่จบมัธยมต้น (ม.3) ชอบสวดมนต์ทำสมาธิ จนเรียนจบ ม.3 เดินทางเข้ามาทำงานเป็นสาวฉันทนาโรงงานเย็บผ้าในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการนานหลายปี ช่วงนั้นวันหยุดก็ยังแวะเวียนเข้าวัดมาตลอด

จนกระทั่งเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็กลับบ้านมาเปิดร้านรับจ้างเย็บผ้าและค้าขาย จนกระทั่งมีฐานะดีขึ้น แต่เธอก็ยังชอบเข้าวัดและนั่งสมาธิตลอดมา ส่วนเรื่องที่สื่อสารกับดวงวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้จริงก็เป็นความเชื่อส่วนตัว ใครจะมองว่าตัวเองไม่ปกติก็ไม่เป็นไร.



ขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1822954
ไทยรัฐออนไลน์ ,17 เม.ย. 2563 ,08:37 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2020, 12:21:45 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ