ภาพถ่ายทางอากาศพระบรมมหาราชวัง (ภาพจากหนังสือสถาปัตยกรรมพระบรมมหาราชวัง สำนักราชเลขาธิการ พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ. 2513)
“เทวดาวังล่าง-เทวดาวังบน” คำเรียก เจ้านายองค์ใด.? มีที่มาอย่างไร.?“เทวดาวังล่าง-เทวดาวังบน” นั้น เป็นคำที่ใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหลวงอิศรสุนทร และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ ส่วนเหตุใดจึงเรียกขานเช่นนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไรนั้น
หนังสือความทรงจำของกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ (สำนักพิมพ์ต้นฉบับ, พ.ศ. 2552) ต้นฉบับเป็นของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร ซึ่งมีพระราชกระแสทักท้วงของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้อธิบายไว้ (เพื่อให้ง่ายในการอ่านจึงมีการจัดย่อหน้า, เน้นตัวอักษร) ดังนี้
ว่าด้วยคําพูดของคนเก่าๆ จะพรรณาถึงถ้อยคําของคนชั้นเก่าๆ คือ ขุนนางและราษฎรที่เข้าใจกันประหลาดๆ นั้นที่จะต้องเล็งเห็นความจริงควรจะใช้สืบมาก็มีบ้าง ที่ไม่มีหลักฐานไม่ควรใช้ก็มีบ้าง คือ ที่เรียกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อพระองค์ท่านยังดํารงพระยศอยู่ในที่กรมหลวงอิศรสุนทรนั้นว่า เทวดาวังล่าง เรียกสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ แต่พระองค์ยังดํารงอยู่ที่กรมหลวงเสนานุรักษ์นั้นว่า เทวดาวังบน
@@@@@@
คําที่ว่ามานี้ เพื่อจะเล็งเห็นท่านทั้งสองพระองค์มีพระยศเป็นเจ้าฟ้าที่บนฟ้าก็มีแต่เทวดา จึงได้เรียกว่า เทวดาวังล่างเทวดาวังบน มีคําถามว่าที่ เจ้าฟ้าในยุคนั้นมีถึง 19 พระองค์ เหตุใดจึงเรียกเทวดาอยู่แต่สองพระองค์ ก็ควรจะต้องเรียกทั่วกันไปทั้ง 19 พระองค์
จึงจะควรตอบว่า ท่านสองพระองค์นี้ ในครั้งนั้นท่านดํารงพระยศเป็นพระบันฑูรใหญ่พระบัณฑูรน้อย (พระกระแส, ถ้าเช่นนั้นจะต้องพูดทําไมถึงเจ้าฟ้า จะว่าเพราะท่านรับพระบัณฑูรทั้งสองพระองค์ เขาจึงเรียกว่าเทวดา มิสั้นดีกว่าฤา) ขึ้นแล้ว คนทั้งหลายจึงเพิ่งเห็นว่า เจ้าฟ้ากับเจ้าแผ่นดินเป็นคู่กัน
ถามว่า : เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสีหนาท ยังมีพระชนม์อยู่ท่านก็เป็นเจ้าฟ้า เหตุใดจึงไม่เรียกว่าเทวดาเล่า
ตอบว่า : ที่เรียกกันว่า กรมพระราชวังบวร คือ เอานามวังมาเรียกใช้ได้เป็นอย่างหนึ่งเหมือนกัน ครั้นจะเรียกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ว่า กรมพระราชวังพระองค์ใหญ่ กรมพระราชวังพระองค์น้อย ก็ชัดอยู่ด้วยท่านทั้ง 2 พระองค์นี้ไม่ได้เสด็จอยู่ในพระราชวังบวรฯ ท่านยังเสด็จประทับอยู่ที่วังเดิมของท่านทั้ง 2 พระองค์ (พระกระแส, ทําไมจึงไม่เรียกว่าพระบัณฑูรใหญ่ พระบัณฑูรน้อย ตามหมายรับสั่ง ซึ่งไม่เกี่ยวแก่วังและเคยใช้มาแต่โบราณเล็งเห็นอย่างไร)
@@@@@@
จึงรู้เรียกกันว่า เทวดาวังล่าง เทวดาวังบน ถ้อยคําที่กล่าวมานี้ถ้าจะใคร่ครวญดู ในความเห็นของคนทั้งหลายก็ชอบกลอยู่ แต่คําที่กราบทูลฤาคําใช้ในบาทหมายจึงว่า บัณฑูรใหญ่บัณฑูรน้อย
ซึ่งก็สอดคล้องกับ คำร่ำลืออาถรรพ์ “วังหน้า” กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อกรมพระราชวังบวรฯ ตรัสสาปแช่งว่า
“ของใหญ่ของโตของกูดีๆ ของกูสร้าง ใครไม่ได้ช่วยเข้าทุนอุดหนุน กูสร้างขึ้นด้วยกำลังข้าเจ้าบ่าวนายของกูเอง นานไปใคร ไม่ใช่ลูกกู เข้ามาเป็นเจ้าของครอบครอง ขอผีสางเทวดาจงบันดาลอย่าให้มีความสุข”ขอบคุณ :
https://www.silpa-mag.com/history/article_35620เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2563
เผยแพร่ครั้งแรก : 12 กรกฎาคม 2652