ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ  (อ่าน 4794 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ
« เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 03:09:04 pm »
0

























บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 05:25:29 pm »
0
ผมเห็นภาพ แล้วอึ้งกับ หน่อไม้ และ สาหร่าย ครับ เพราะอุดหนุดบ่อยครับ

ถึงว่าอาหารจีน ยิ่งทานแทนที่จะได้สุขภาพ รู้สึกสุขภาพแย่เป็นเพราะสารเคมีพวกนี้นี่เอง

นึกแล้ว สยองเลยครับ

ต้อง ต่อต้าน การบริโภคของจีนแล้ว กึ๊ย ๆๆๆ



บันทึกการเข้า

สถาพร

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 220
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 06:16:33 pm »
0
ของโปรดผมเลยนะครับ เวลาไปเดินที่เยาวราช สำเพ็ง ก็จะไปหาซื้อ สาหร่ายประเทศจีนมาบริโภค ตอนนี้พอเห็นขั้นตอนวิธีการ
ผลิตแล้ว ผมจึงรู้สึกได้เหมือนกันว่า ผมก็บริโภคสาหร่ายเป็นประจำแต่ทำไมร่างกายไม่แข็งแรง แถมเจ็บออด แอด ๆ น่ากลัวจะ
ได้บริโภคของปลอมเสียแล้ว ที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร

เห็นไม่ครับ แค่อาหารปลอมก็ทำให้ชีวิตเราแย่แล้ว นะครับ
ที่นี้ถ้ามาเรื่องธรรมะ ที่ปลอมปนเข้ามาอีก ไม่ทำให้ใจเราแย่เพิ่มขึ้นหรือครับ

 :96:
บันทึกการเข้า
ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

somchit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 71
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สุดยอด นักปลอม ตัวฉกาจ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 01:11:29 am »
0
เห็นแล้ว รู้แล้ว ไม่อยากซ์้ออีกเลย ผมก็ชอบซื้อ สาหร่ายประจำครับ
เห็นว่าราคาถูก ๆ จีนต้มแน่ ๆ เลย

บันทึกการเข้า

aom-jai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการสร้างศูนย์แสดงสินค้านานาชาติไทย-จีน ที่ถนนบางนา-ตราด มูลค่า 45,000 ล้านบาทนั้น แม้จะเป็นการลงทุนของต่างชาติ ไม่ถือว่าผิด พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจต่างด้าว พ.ศ. 2542 เพราะเป็นการลงทุนที่มีหุ้นส่วนคนไทยรวมอยู่ด้วย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องของภาคเอกชน
   
“เราเปิดให้ทุนตะวันตกเข้ามา ก็ต้องให้ทุนจากจีนเข้ามาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่พอทุนจีนจะเข้ามา ก็ตั้งคำถาม ส่วนเรื่องสอบ   นอมินี ไม่อยากให้คิดไปถึงขนาดนั้น เพราะมีทุนไทยร่วมลงทุนอยู่ด้วย แต่ผมไม่ใช่เอกชนจะไปพูดแทนเอกชนว่าเป็นทุนจากไหนบ้าง คงไม่ได้ แต่ยืนยันว่าการลงทุนนี้ไม่ผิดกฎหมาย”
   
ทั้งนี้ ได้เตรียมเชิญนักธุรกิจจากสภา
หอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาห กรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เพื่อชี้แจงให้เกิดความเข้าใจในการเข้ามาลงทุน เพราะเอกชนบางส่วนอาจไม่เข้าใจข้อเท็จจริงโครง การทั้งหมด ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไม่ดำเนินโครงการลักษณะนี้เอง เนื่องจากโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจการค้า หากรัฐเข้าไปดำเนินการ ส่วนใหญ่จะไม่ประสบความสำเร็จ เช่น ศูนย์กระจายสินค้าไทยที่กรุงอัมสเตอร์ดัม เพราะภาครัฐมีข้อจำกัดหลายด้าน
   
การลงทุนนี้ จะยกระดับการค้าของธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องการส่งออกแต่ถูกมองข้าม ไม่ใช่การเข้ามาลงทุนและสร้างความเสียหายให้เอสเอ็มอี โดยจะเปิดโอกาสให้เอกชนไทยเข้าไปในพื้นที่ในศูนย์ฯ มากกว่า 30% ไม่ใช่แค่ 30% ตามที่เข้าใจกัน ส่วนย่านการค้าที่ไทยมีอยู่จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นสามารถดูแลตัวเองได้
   
“ผมไม่อยากให้วิจารณ์ไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง คาดว่าจะเชิญมาหารือกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งกระแสก็คงเหมือนกับการทำเอฟทีเอ แรก ๆ ก็คัดค้าน แต่ตอนนี้เห็นประโยชน์”.

ของปลอมจะระบาดเยอะหรือไม่ รอดูต่อไป
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=562&contentID=116842
บันทึกการเข้า

aom-jai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 134
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาห กรรม เปิดเผยว่า  ระหว่างวันที่ 23-29 ม.ค. นี้ ผู้แทนการค้าจากประเภทญี่ปุ่น ใน 4 เมืองใหญ่ ประกอบด้วย นาโกยา, โกเบ, โอซากาและเกียวโต จะเดินทางเข้ามาสำรวจและศึกษาลู่ทางการลงทุนในไทยเพิ่มเติม  หลังจากที่ผ่านมากลุ่มทุนญี่ปุ่นเป็นกลุ่มต่างชาติที่ยื่นขอรับส่งเสริมการ ลงทุนในไทยสูงอันดับ 1 มาตลอด  โดยปี 53 มี 364 โครงการเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 45.2%  มูลค่า 104,442 ล้านบาทเพิ่ม 62.2% เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุนอย่างมาก
   
“การเดินทางมาไทยของกลุ่มองค์  กรพันธมิตรครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าไทยยังเป็นประเทศที่น่าสนใจในการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในมุม มองของญี่ปุ่น ประกอบกับค่าเงินเยนที่สูงขึ้นมากยิ่งเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทญี่ปุ่น ออกมาลงทุนในต่างประเทศ  โดยโครงการขนาดใหญ่ที่ยื่นขอส่งเสริมในไทย เช่น กิจการผลิตชิ้นส่วนโลหะ, ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์,  การผลิตเคมีภัณฑ์,  ผลิตพลัง งานไฟฟ้า, ผลิตผลิตภัณฑ์จากน้ำนมดิบ และกิจการผลิตแผ่นซึมซับ”
   
นายชัยวุฒิ กล่าวถึงการลงพื้นที่มาบ ตาพุดว่า ได้ติดตามความก้าวหน้า 2 บริษัทที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ประกอบด้วยบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด และบริษัท ทีโอซี ไกลคอล จำกัด ที่จัดอยู่ในประเภทกิจการรุนแรงที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ  ล่าสุดทั้ง 2 บริษัท มีกรอบการทำงานที่ชัดจน เนื่องจากเป็นกิจการขนาดใหญ่ในด้านการป้อนระบบไฟฟ้าและสร้างมูลค่าเพิ่มใน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
   
ทั้งนี้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประ เทศไทย ( กนอ.) ได้ติดตามความคืบหน้าเพื่อรายงานผล ตลอด 24 ชม.
ที่มาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=562&contentID=116846
บันทึกการเข้า