เรื่องเล่าที่' 'วัดลาดสิงห์'' สามชุกเรื่องเล่าจากคนวัดลาดสิงห์ เล่าสืบกันมาปากต่อปากว่า ''วัดลาดสิงห์'' เดิมเมื่อ 500 กว่าปีที่ผ่านมา คือที่พักทัพของสมเด็จพระนเรศวร และ สมเด็จพระเอกาทศรถ ก่อนออกสงครามยุทธหัตถีกับพม่า
การทำสงครามยุทธหัตถีระหว่างอยุธยากับพม่า มีขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ตรงกับเดือนยี่ วันจันทร์แรม 2 ค่ำ ปีมะโรง สถานที่ยังให้น้ำหนักระหว่างอำเภอดอนเจดีย์ สุพรรณบุรีและอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
อุราญร้าวแยก ยล สยบ เอนพระองค์ลงทบ ท่าวดิ้นเหนือคอคชซรอบซรบ สงงเวศวายชีวาด สุดสิ้น สู่ฟ้าเสวยสวรรค์ฯพระนิพนธ์ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ที่ทรงบรรยาย ภาพชองพระมหาอุปราชา ที่ต้องพระแสงของ้าวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวรรณกรรมเรื่อง ลิลิต ตะเลงพ่าย
เรื่องเล่าจากคนวัดลาดสิงห์ เล่าสืบกันมาปากต่อปากว่า “วัดลาดสิงห์“ เดิมเมื่อ 500 กว่าปีที่ผ่านมา คือที่พักทัพของสมเด็จพระนเรศวร และ สมเด็จพระเอกาทศรถ ก่อนออกสงครามยุทธหัตถีกับพม่าโบสถ์หลังไม่ใหญ่ คงรูปลักษณ์ความเก่าแก่โบราณ มีพระพุทธรูปศิลาแลง ปางสะดุ้งมาร เกตุบัวตูม ที่ประดิษฐานบนฐานชุกชีที่ก่ออิฐถือปูนอย่างเรียบง่าย มีชื่อเรียกตามพระนามของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชว่า “หลวงพ่อดำ“ วันนี้มีอายุ 554 ปี ด้านหน้าโบสถ์มีสระน้ำ ที่ขุดขึ้นในสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพักทัพที่นี่
วันที่อยุธยาชนะศึกพม่า สมเด็จพระนเรศวร ทรงยุทธหัตถีมีชัยชนะพระอุปราชาสิ้นพระชนม์ วันเดียวกันนี้สมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ทรงสิ้นพระชนม์ โดยพระเจ้านันทบุเรง วันที่อยุธยาได้ชัยชนะเหนือพม่า เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระเอกาทศรถ และ คนไทยโศกเศร้าสุดใจกับการสวรรคตของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาการสร้างวัดลาดสิงห์ เกิดขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนเรศวรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา “โบสถ์ที่นี่คงใช้ดินที่ขุดทำสระน้ำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างด้วย...” หลวงพ่อผู้ดูแลวัดลาดสิงห์เล่าให้ฟัง
เมื่อถามถึงเรื่องราวลี้ลับเกี่ยวกับวัด “ตั้งแต่บวชมาก็ไม่เคยเจอกับตัวเองแต่ชาวบ้านละแวกนี้บอกว่า วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงปี่พาทย์ตรงด้านข้างสระน้ำ”ชาวบ้านเก่าแก่ที่นี่ยังเล่าอีกว่า คนเก่าๆเล่าว่า สมเด็จพระนเรศวรมักจะนำทหารสวดมนต์ในช่วงเช้า และเย็น เพราะหลวงพ่อดำมีมาก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรจะมาตั้งทัพที่นี่ สิ่งที่เป็นเรื่องยืนยันคำบอกเล่า คงจะเป็นบทสวดหัวใจพาหุงมหากา “พา มา นา อู กา สะ นะ ทุ“ บทสวดที่สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วให้สมเด็จพระนเรศวรสวดอยู่ประจำก่อนออกรบ และบทสวดนี้เป็นบทสวดบูชาหลวงพ่อดำในโบสถ์บนพื้นที่ 35 ไร่ ของวัด ยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวรสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรถ สามพระองค์พี่น้องที่ทรงสละความสุขทั้งชีวิตเพื่อคนไทยทั้งประเทศคอลัมน์ : ชำเลืองเมือง โดย “แรมทาง"
ขอบคุณ :
https://www.dailynews.co.th/article/776326อังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 11.00 น.