เที่ยว 'ตลาดสามชุกร้อยปี' วันที่ฟ้าไร้ฝนเดินเที่ยวตลาดสามชุกร้อยปี เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ถ้าแสงแดดคือ มีดเล่มใหญ่ ศีรษะคงแตกเป็นหลายเสี่ยง
เหงื่อที่ซึมทะลุผิวตามแขน ขา และ ใบหน้า เหมือนถูกราดด้วยน้ำหลายคนบอก “ ร้อนกระหน่ำแบบนี้ดี โควิดกลัว” อยากบอกเหลือเกินก่อนโควิดจะม้วย ตัวเรานี่แหละจะมรณาเสียก่อน กระนั้นเราก็ยังพาสังขารเดินตลาดสามชุก ไม่ให้คนค้าคนขายที่ตลาดเสียน้ำใจ ไหนๆ ก็เปิดร้านขายของกันแล้ว จากลานจอดรถที่ปกติ เก็บค่าจอด 20 บาท วันนี้ไม่มีคนเก็บเงิน กวาดตาไปรอบหาคนเก็บเงินไม่มีก็เลยตามเลยละกัน ผักสดจากธรรมชาติ มีวางขายปกติ มีสายบัวอ่อนที่เก็บขนาดพอดีคำ จัดใส่ถุงวางในกระจาดใบย่อม
ยังมีผักพื้นบ้านประเภทอื่น ประกวดโฉมอยู่ในกระจาดใบเดียวกันผัดสดเหล่านี้ ปลอดสารพิษแน่นอนคะเนดูแล้วขายจนหมดกระจาด ก็ไม่ได้เงินมากมายอะไรแต่มันคือ ชีวิตที่มีความหมาย จากทางเข้าตลาด
ทั้งสองข้างมีร้านขายของ อยู่ในเรือนแถวไม้โบราณ มีทั้งร้านที่ขายหม้อ ขายกะละมังเคลือบสีขาวมีลายดอกไม้ ปิ่นโต เคลือบ กระติกน้ำร้อนรุ่นเก่าที่มีลายดอกไม้แบบเก่าสินค้าตลาดนี้ส่วนมากจะเป็นของกิน
ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อ ตลาดสามชุกใหญ่โตผิดจากลูกชิ้นไหนๆที่เคยประสบพบมา
ลูกใหญ่ขนาดเท่าลูกเทนนิสปกติของที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ รสชาติจะไปคนละทางแต่ลูกชิ้นที่นี่ลองซื้อมาทานดูรสชาติกับขนาดไปทางเดียวกันอร่อยใหญ่จัดเต็ม
มีร้านขายลูกชิ้นแบบนี้หลายร้าน เกือบจะทุกร้านมีประกาศจากทีวี สำนักพิมพ์ รับรองความอร่อยเด็ดหมูแดดเดียวที่นี่ รสชาติดี ขายกันกิโลละ 250 บาทเนื้อนุ่มฉ่ำ ทานกับข้าวเหนียวนุ่มๆ
ข้าวเกรียบเป็นสินค้าอีกประเภทที่ขายกันหลายร้าน ทั้งข้าวเกรียบว่าว ข้าวเกรียบงา หลายคนซื้อเป็นของฝาก ราคาขายถุงละ 30 บาท
สาลี่ของสามชุกก็มีแม้จะไม่ใช่เจ้าดัง แต่มาถึงสุพรรณบุรีสาลี่ที่ไหนก็อร่อยน้ำพริกที่ขายอยู่ในตลาดนี้ น่าทานหลายร้าน มีน้ำปลาร้าสับ และอีกหลากหลายน้ำพริกมากกว่าสิบชนิด
ในตลาดสามชุก ช่วงกลางตลาดจะมีศาลเจ้าเก่าแก่ มีถนนทางเดินคั่นกลาง ฝั่งตรงข้ามเป็นทางลงแม่น้ำท่าจีนที่ผู้สร้างทางลงเป็นมังกรหนึ่งคู่ เสมือนหนึ่งเลื้อยจากแม่น้ำขึ้นมาที่ศาลเจ้า มีกระถางธูปใหญ่วางระหว่างมังกร ศาลเจ้านี้คนสามชุกศรัทธา และ เคารพอย่างมาก
จากศาลเจ้าเดินไปไม่ไกล จะเจอร้านกาแฟโบราณที่มีเสน่ห์ด้วยสถาปัตยกรรมเก่า และ เครื่องดื่มที่อร่อยชื่นใจแก้วิกฤติคลื่นความร้อนจากอากาศได้ดีด้านหน้าของร้านกาแฟมีร้านขนมไทย หลากหลายชนิดมีทั้งข้าวฟ่างที่หาทานยาก ลูกเดือยที่ร้านนี้ทำได้ดีไม่มีกลิ่นสาบ และขนมหาทานยากอื่นๆนั่งดื่มโอเลี้ยงที่ต้องจ่ายเงินเอง เพราะโอไม่ได้เลี้ยงถ้ามาตรงเวลาอาหารเที่ยง จะค่อนข้างแออัดเพราะนอกจากร้านขนมแล้ว ยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวหมูแดงโบราณรสชาติดี อยู่ด้านหน้าด้วย
ต่อสู้กับโควิดมาหลายเดือน ไปเที่ยวได้แล้วค่ะคอลัมน์ : ชำเลืองเมือง โดย “แรมทาง"
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก : สามชุกตลาดร้อยปี
ขอบคุณ :
https://www.dailynews.co.th/article/777437อังคารที่ 2 มิถุนายน 2563 เวลา 14.00 น.