ม่วนซื่น.!! อุบลราชธานี – อำนาจเจริญ สัมผัสวิถีชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ แหล่งอารยธรรมริมแม่น้ำโขงหลังจากที่เปิดให้ลงทะเบียนโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ซึ่งเป็นโครงการที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ริเริ่มเพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวมากขึ้น เป็นแนวทางการกระตุ้นทั้งเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวไปในตัว สำหรับใครที่ลงทะเบียนแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ทาง ททท. จึงเชิญสื่อมวลชนไปเยือนถิ่นอีสานภายใต้โครงการ ‘ม่วนซื่นริมแม่น้ำโขง’ สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามและสถาปัตยกรรมทางศาสนาอันเลื่องชื่อที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งพร้อมจะให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสความงดงาม รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง พร้อมลิ้มรสชาติอาหาร สไตล์ชาวอีสานแท้ๆ หาทานยากได้ที่นี่
เริ่มต้นทริปที่ วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นสถานที่แรก วัดหนองป่าพงสร้างโดยหลวงปู่ชา สุภัทโท หรือพระโพธิญาณเถร เป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ มีบรรยากาศอันร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง วัดหนองป่าพงยังมีสาขาอีกหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศเจดีย์โพธิญาณ วัดหนองป่าพง
หุ่นขี้ผึ้ง พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
พักรับประทานมื้อเที่ยงที่ ร้านอาหารอินโดจีน ร้านอาหารญวนเก่าแก่อายุนานกว่า 60 ปี เป็นร้านดังอันดับต้นๆ ของเมืองอุบลราชธานีเลยก็ว่าได้ หน้าตาและรสชาติอาหารคือต้นตำหรับอาหารญวณแท้ๆ หากใครมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ร้านนี้ไม่ควรพลาดร้านอาหารอินโดจีน
เมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดเวียดนาม ร้านอาหารอินโดจีน
เดินทางต่อที่ วัดป่าโพธิญาณ หรือ วัดเขื่อน เป็นวัดป่าสายวิปัสนากรรมฐาน สาขาที่ 8 ของวัดหนองป่าพง มีศาลาตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร บรรยากาศภายในวัดสงบร่มรื่นด้วยไม้ยืนต้นนานาชนิด มีลิงอาศัยอยู่ทั่วบริเวณวัด สร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเป็นอย่างมากศาลาริมน้ำ วัดป่าโพธิญาณ
ศาลาริมน้ำ วัดป่าโพธิญาณ
จากวัดริมเขื่อน ถัดมาคือ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือนิยมเรียกกันว่า วัดเรืองแสง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ตัววัดเป็นการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ ด้านหลังของอุโบสถจะเป็นงานจิตรกรรมเรืองแสงสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งมีความสวยงามมากในเวลากลางคืน ส่วนในตอนเช้าตัวอุโบสถจะสะท้อนแสงแดดยามพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้เกิดความสวยงามไปอีกแบบวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดเรืองแสง
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ วัดเรืองแสง (กลางคืน)
มื้อเย็นวันนี้ฝากท้องไว้กับ ร้านอาหารแพอารยา เป็นร้านอาหารที่อยู่ในแพติดริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดี เรียบง่าย ถือเป็นร้านอาหารโด่งดังของอำเภอโขงเจียมที่เปิดมาหลายปี การันตีคุณภาพด้วยอาหารสดใหม่ โดยเฉพาะปลาแม่น้ำโขงที่ถือเป็นของขึ้นชื่อของอำภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีอีกด้วยเมนูปลาเนื้ออ่อนทอดราดพริก ร้านอาหารแพอารยา
เช้าวันต่อมาออกเดินทางสู่จังหวัดอำนาจเจริญ มุ่งหน้าไปที่ บ้านนาภูคำ สัมผัสวิถีชีวิตสไตล์อีสานแท้ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมด้วยทุ่งนาและสวนผักต่างๆ มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถร่วมทำกิจกรรมกับชาวบ้านได้ เช่น ดำนา ทอผ้า ทอเสื่อกกกิจกรรมดำนา บ้านนาภูคำ
กิจกรรมทอผ้า บ้านนาภูคำ
หลังจากที่สนุกสนานกับกิจกรรมที่บ้านนาภูคำแล้ว ยังมีอาหารกลางวันรสแซบสไตล์อีสานเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานอีกด้วย มีทั้งอาหารทั่วไปและอาหารพื้นบ้านที่หาทานได้ยากในชุมชนเมืองสมัยนี้ อย่าง จิ้งโกร่งทอด แกงเห็ดเผาะใส่กะทิ ฯลฯอาหารสไตล์อีสาน บ้านนาภูคำ
เดินทางมุ่งหน้าสู่ วัดสี่แยกแสงเพชร ภายในวัดมีทั้งอุโบสถและลวดลายแกะสลัก ด้านหน้าอุโบสถมีรูปปั้นพญานาคสีขาวและรูปปั้นสิงโตอยู่เคียงคู่กัน ภายในประดิษฐานพระประธานองค์เล็กสีขาว นอกจากนี้ยังมีพระนอนวัดถ้ำแสงเพชร ซึ่งเป็นพระนอนขนาดใหญ่ที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม เชื่อกันว่าการได้มากราบไหว้บูชาพระนอนวัดถ้ำแสงเพชรจะเป็นเลิศด้านสติปัญญา ความรู้ ช่วยให้ปลอดภัย พ้นภัยจากคนที่คิดไม่ดี ชีวิตมีแต่ความสงบสุขวัดสี่แยกแสงเพชร
พระนอนวัดถ้ำแสงเพชร
ย้อนกลับมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ชมความงดงามของ สามพันโบก แก่งหินขนาดใหญ่ที่จะโผล่ให้เห็นแค่ช่วงหน้าแล้งเท่านั้น เนื่องจากช่วงที่น้ำหลาก แก่งหินจะจมอยู่ใต้ลำน้ำโขง สามบันโบกคือหินที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดรอยเว้าแหว่ง เป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้อย่างลงตัว เป็นสถานที่ถ่ายรูปบันทึกเป็นความทรงจำของใครหลายๆ คนสามพันโบก
หินรูปหัวสุนัข
ปิดท้ายกิจกรรมวันนี้ด้วยมื้อเย็นที่ ร้านแลโขง ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ติดริมแม่น้ำโขง ที่อำเภอเขมราฐ มีเมนูอาหารหลากหลาย โดดเด่นด้วยเมนูที่ทำจากปลาแม่น้ำโขง ไม่ว่าจะเป็นต้มยำปลาคัง ปลานึ่งกับน้ำจิ้มแจ่วรสแซบสูตรเด็ดของทางร้านอาหารอีสานรสแซบ ร้านแลโขง
เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้ เป้าหมายคือการเยี่ยมชม กลุ่มฝ้ายทอมือบ้านวงศ์ปัดสา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเรื่องราวและวิธีการทอผ้าแบบเขมราฐ หรือเรียกว่าการทอผ้ามัดหมี่ รวมถึงลายผ้า 14 ลายในตำนานที่บรรพบุรุษของป้าติ๋ว ธนิษฐา วงศ์ปัดสา เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ปัจจุบันบ้านของป้าติ๋วกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน สืบสานวัฒนธรรมของอำเภอเขมราฐ ให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจได้มาเรียนรู้กระบวนการทอผ้ามัดหมี่ ตั้งแต่การเก็บดอกฝ้ายไปจนถึงการทอผ้าให้เป็นลายที่ต้องการกิจกรรมทอผ้ามัดหมี่ กลุ่มฝ้ายทอมือบ้านวงศ์ปัดสา
กิจกรรมทอผ้ามัดหมี่ กลุ่มฝ้ายทอมือบ้านวงศ์ปัดสา
ปิดท้ายทริปนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ วัดพระธาตุหนองบัว เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางเมืองอุบลราชธานี มีชื่อเสียงและมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและน่าสนใจ คือ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ด้านหน้าองค์พระธาตุ มีรูปปั้นพญานาคราช 2 องค์ ขนาดใหญ่ คือ ท่านปู่กริชกรกต และท่านย่ามณีเกตุ ที่ประดิษฐานไว้คู่กัน ตามความเชื่อของชาวอีสานที่มีความศรัทธาในพญานาค เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขอพรกราบไหว้วัดพระธาตุหนองบัว
วัดพระธาตุหนองบัว
จากที่ได้ไปสัมผัสแต่ละสถานที่ที่กล่าวมานั้น เห็นได้ว่าคนไทยเริ่มออกมาท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว ถือว่าเป็นจุดเริ่มที่ดีของภาคการท่องเที่ยวรวมถึงภาคเศรษฐกิจ นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างเคร่งครัด สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้นอีกด้วย ถ้าหากมีการทำแคมเปญหรือให้สิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวได้แบบนี้ ก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ขอบคุณ :
https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_4510251ข่าวประชาสัมพันธ์ ,16 ก.ค. 2563 - 09:00 น.
ผู้เขียน
หัวข้อ: ม่วนซื่น อุบลฯ – อำนาจเจริญ สัมผัสวิถีชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ อารยธรรมริมโขง (อ่าน 904 ครั้ง)