ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คณะสงฆ์แจง ยังมีการก่อสร้าง ‘พุทธมณฑลสงขลา’ ยันไม่ได้ปล่อยรกร้าง  (อ่าน 841 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





คณะสงฆ์แจง ยังมีการก่อสร้าง ‘พุทธมณฑลสงขลา’ ยันไม่ได้ปล่อยรกร้าง

23 สิงหาคม 2563 ที่พุทธมณฑลจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าสถานที่ก่อสร้างพุทธมณฑลจังหวัดสงขลา มีการปล่อยทิ้งรกร้าง ซึ่งทางคณะสงฆ์โดยการนำของ พระครูสุวัฒนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดนาทวี , พระครูบัณฑิตธรรมาลังการ เจ้าคณะอำเภอสะเดา และพระปลัดพลกฤต กลฺยาณธมฺโม วัดมหัตตมังคลาราม ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว

พระครูสุวัฒนาภรณ์ หรือพระอาจารย์ภัทร อริโย รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่าพุทธมณฑลจังหวัดสงขลาได้ทิ้งร้าง ก็อยากจะเจริญพรญาติโยมที่เป็นชาวพุทธทุกท่านว่าบางคนบางท่านใจห่อเหี่ยวว่าทำไมถึงทิ้งร้าง จริงๆแล้วไม่ได้ทิ้งร้าง ไม่ได้รก ช่วงนี้ไม่ได้รกแล้ว ไม่ได้ร้าง เพียงแต่ยังสร้างไม่เสร็จ ถ้าท่านได้เข้ามาดูแล้วจะเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ยังอยู่ในพื้นที่ของเขตการก่อสร้างที่ทางผู้รับเหมาก่อสร้างเซ็นสัญญากับสำนักงานจังหวัด เพราะบางอย่างทางสำนักงานจังหวัดซึ่งใช้ทุนจากจังหวัดมาก่อสร้าง ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาระยะการก่อสร้าง



ส่วนที่ระยะเวลาในการสร้างที่เนิ่นนานนั้น ก็อยากจะพูดกันตรงๆว่าเกิดมาจากงบประมาณ การที่เราอาศัยงบประมาณในส่วนหนึ่ง นอกเหนือจากเงินที่ได้มาจากการบริจาคจากศรัทธาญาติโยมพี่น้องแล้วทางงบประมาณของรัฐบาลที่ผ่านมาถึงจังหวัด งบพัฒนาจังหวัดนี้ไม่ใช่ได้มาเป็นก้อนมากๆ แต่เขาจะให้มาเป็นเคสงาน เช่น ช่วงนี้ก็ทำฐานพระพุทธรูป พระประธาน องค์พุทธมณฑล แล้วก็บริเวณ

หลังจากนั้นปีหน้า อาจจะมีอะไรสักชิ้นงาน ทีนี้ระยะเวลามันจะยืดออกมาเยอะ เพราะเงินของงบประมาณจังหวัดนี้ เขายังมีการพัฒนาในเรื่องอุปโภคบริโภคของประชาชนที่เกิดอุทกภัยอะไรต่างๆ ดังนั้นการที่จะมาช่วยเหลือพุทธมณฑลจังหวัดสงขลาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ถึงกับมาก แต่เพียงว่าทำได้เป็นเคสงาน แล้ว ณ วันนี้ ถือว่าเขาเดินมาเป็นระยะๆ

ส่วนของคณะสงฆ์นี้ มีส่วนหนึ่งคือเรื่องของพระพุทธรูปทั้งหมด ดังนั้นการทำงานระยะเวลาตั้ง 7-8 ปีนี้ คือ เราทำมาเป็นระบบ เพราะจริงๆแล้วตรงนี้เป็นดินถม ถมเสร็จแล้วจะก่อสร้างอาคารไม่ได้ มันจะยุบตัว ตรงนี้เมื่อก่อนเราถมเยอะ แต่หลังจากที่มีหมู่บ้านเกิดขึ้นมา เขาก็ถมสูงขึ้นมาอีกกลายเป็นที่กักเก็บน้ำ





พระครูสุวัฒนาภรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนภาคประชาชนที่เข้ามาดูแลที่ผ่านมา แล้วได้เข้ามาตรวจตราว่ายังดำเนินการอยู่หรือไม่ เป็นเจตนาหวังดีเพื่อให้การขับเคลื่อนพุทธมณฑลของชาวพุทธทุกคน จะได้ชี้แจงจะได้รู้กัน บางท่านก็ไม่รู้ว่าเรามีพุทธมณฑลจังหวัดสงขลาอยู่ เพียงแต่ข่าวที่ออกไป ญาติโยมพี่น้องที่เป็นชาวพุทธเกิดความไม่สบายใจว่าทำไมต้องปล่อยทิ้งร้าง แต่ถือว่าการที่ภาคประชาชนได้เข้ามาดูแลถือว่าขออนุโมทนา อย่างน้อยคณะสงฆ์ก็ได้ชี้แจงว่าเรากำลังดำเนินการอยู่

ส่วนในเรื่องของ ณ วันนี้ เราก็ได้มีคณะผู้มีจิตศรัทธาชุดหนึ่ง ซึ่งหลายเดือนแล้ว เขาก็ได้มาช่วยเหลือพุทธมณฑล ตอนนี้ก็เริ่มขับเคลื่อนๆกันอยู่ โดยได้ร่วมกันบริจาคเพื่อที่จะก่อสร้างเสนาสนะ ปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้เกิดความร่มเงาในพุทธมณฑลแห่งนี้

ทั้งนี้ จริงๆแล้วคณะสงฆ์อยากจะให้เสร็จตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้เลย เพราะว่าตรงนี้เราจะทำพุทธมณฑลแบบมีชีวิต ก็คือจะมีพระภิกษุ สามเณร ญาติโยมชาวพุทธ จะได้มาปฏิบัติธรรม ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการสอน หลังจากที่มีโควิด-19 ยอมรับว่ามันเงียบหายไปจริงๆทำให้เกิดการรกไปหน่อยหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็ได้ปรับความสะอาด








ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/513517
วันอาทิตย์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 09.11 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ