« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2020, 07:25:13 am »
0
ปัญญาญาณ#ปัญญาญาณ หลายคนอยากมีสิ่งนี้อยู่กับตัวเพราะนั่นเท่ากับว่า #คุณมีอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในปฐพี ฝ่ายมืดก็เช่นกัน อยากมีสิ่งนี้เพื่อเอาไว้ล่อหลอกและบิดเบือนเพื่อทำให้สาวกได้คล้อยตามแบบเนียนๆและมันจะเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่จะสามารถครอบงำสมุนสาวกได้อีกด้วย
เมื่อความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ให้ได้มาซึ่งสิ่งนี้ จึงต้องดิ้นรนค้นหาข้อมูลเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้เอาไว้เพื่อประดับบารมีของตน ยิ่งศึกษาก็ยิ่งรู้ ความรู้ก็ยิ่งมาก ความรู้มันมากมายจนหาที่สิ้นสุดมิได้ ไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที สิ่งที่เขาคิดว่าเขารู้มากแล้วแต่กลับต้องมาเจอความรู้ที่มากกว่า สิ่งที่เขาคิดว่ารู้มาก่อนใครแล้ว แต่กลับมาต้องมาเจอความจริงที่เขาไม่รู้ #ความพอใจและความไม่พอใจ จึงเกิดขึ้นในตัวของเขา โดยที่เขาหาได้รู้ไม่ว่า #ความรู้ภายนอกนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความรู้ภายใน
#ปัญญาญาณ หาใช่ความรู้ที่เราเอาจิตไปจับกับสิ่งภายนอก แต่มันอยู่ภายในตัวตนของแต่ละคน การเข้าถึง #ตัวตนที่สูงส่งของตนเอง นั่นแหละคือการเชื่อมต่อสติปัญญาจากตัวตนที่อยู่ภายในให้ออกมาสู่ภายนอก เพราะตัวตนที่สูงส่งของเรานี้คือ #คลังแห่งปัญญา ที่ต้องบอกเช่นนี้เพราะเขา (ตัวตนที่สูงส่ง) มีประสบการณ์การเรียนรู้ข้ามภพข้ามชาติมาอย่างนับไม่ถ้วน เขาสะสมองค์ความรู้ในแต่ละยุคแต่ละสมัยเพื่อรอให้เราเข้าไปค้นหา
เมื่อเราสามารถเชื่อมต่อกับเขาได้อย่างสมดุลและเสถียรแล้ว ภูมิปัญญาองค์ความรู้จะหลั่งไหลออกมาอย่างที่เรายังต้องแปลกใจกับตัวเองว่า เรารู้ได้อย่างไร.? นั่นแหละที่เรียกว่า #ปัญญาญาณ
#คนที่ออกเดินทางก่อนหาใช่ว่าจะถึงเส้นชัยก่อน
#คนที่รู้มากกว่าหาใช่ว่าจะเข้าใจมากกว่า
#คนที่รู้ภายนอกหาใช่ว่าจะจบภายในได้
#คนที่อยู่ใกล้แสงหาใช่ว่าตัวเขาเป็นแสง
พระพุทธเจ้าออกเดินทางค้นหาสัจธรรมความจริงช้ากว่านักบวชในยุคนั้น พระพุทธองค์ร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆนาๆจนสำเร็จในทุกกระบวนศาสตร์ แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณได้ แต่การที่พระพุทธองค์หยุดที่จะเรียนรู้ภายนอกหันมาเรียนรู้ภายใน ด้วยการนั่งสมาธิอยู่กับที่ แต่กลับบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเฉยเลย นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดที่เราสามารถนำเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องได้
#ผู้พิทักษ์จักรวาลขอบคุณบทความจาก :
https://sites.google.com/site/sujittrawiengin/home/payya-yan