ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “นาฬิกาชีวภาพ” เข็มทิศสุขภาพดี  (อ่าน 919 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
“นาฬิกาชีวภาพ” เข็มทิศสุขภาพดี
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2020, 09:27:06 am »
0



“นาฬิกาชีวภาพ” เข็มทิศสุขภาพดี

ถ้านาฬิกาปกติ เป็นสิ่งบ่งบอกเวลาว่าเราต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เพื่อให้การดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยความเรียบร้อย Biological Clock หรือ นาฬิกาชีวภาพ ก็น่าจะเป็นสิ่งบ่งบอกให้การดูแลสุขภาพของตนเองในแต่ละวัน เช่นเดียวกัน

นาฬิกาทั่วไป ถูกควบคุมด้วยการไขลานหรือแบตเตอรี่ แต่นาฬิกาชีวภาพ ถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนที่หลั่งจากสมอง เช่น เมื่อร่างกายต้องการอาหาร สมองจะส่งสัญญาณความหิวออกมา ทำให้รู้สึกอยากกินอาหาร หรือเมื่อร่างกายอ่อนเพลีย สมองจะหลั่งซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารส่งผ่านประสาท ทำให้เรารู้สึกง่วง โดยเฉพาะเวลาหลังอาหาร หรือพอฟ้าสว่างก็จะปลุกให้เรารู้ว่าต้องตื่นนอน พอมืดค่ำก็ทำให้อยากพักผ่อน ซึ่งไม่ใช่เพราะฟ้ามืดหรือฟ้าสว่าง แต่เพราะสารเคมีในสมองที่ชื่อ “ซีโรโทนิน” นั่นเอง

ตามหลักการ ถ้าคนเราใช้ชีวิตในแต่ละวัน เช่น กิน ทำงาน พักผ่อน ออกกำลังกาย ตามการหมุนของนาฬิกาชีวภาพ แน่นอน สุขภาพแข็งแรงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย เพราะร่างกายจะเรียนรู้การปรับสมดุลการใช้ชีวิตโดยอัตโนมัติ

อธิบายอย่างกว้างๆ นาฬิกาชีวภาพของร่างกาย แบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ ตีสี่ถึงเที่ยงวันเป็นเวลาขับถ่าย จากเที่ยงวันไปจนถึงสองทุ่มเป็นเวลาดูดซึมสารอาหาร คนจำนวนมากที่คิดว่ามื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดของวัน แต่จริงๆแล้วถ้าตามกฎของนาฬิกาชีวภาพ เวลาเที่ยงวันเป็นเวลาเริ่มต้นของการดูดซึมสารอาหาร ดังนั้น มื้อเที่ยงจึงเป็นมื้อสำคัญที่สุด ที่ควรเลือกสรรอาหารที่ดี มีประโยชน์ ที่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้อย่างดี

เพราะอย่างที่บอก ตั้งแต่ตีสี่จนถึงเที่ยง ร่างกายได้ผ่านช่วงเวลาของการทำความสะอาดลำไส้และขับสารพิษใน
ช่วงเช้าออกไปแล้ว เซลล์ต่างๆในร่างกายเริ่มต้องการดูดซึมอาหารอย่างเต็มที่

@@@@@@@

สิ่งที่แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและนักโภชนาการ แนะนำตรงกัน ก็คือ ก่อนรับประทานอาหารมื้อเที่ยง 1 ชั่วโมง ควรดื่มน้ำผัก ผลไม้ 1 แก้ว และรับประทานผักสลัด หรือผักสดหลากสี เช่น แครอต บีตรูต มะเขือเทศ ก่อนที่จะรับประทานเนื้อสัตว์ที่ให้โปรตีนแก่ร่างกาย

ส่วนเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกายจะได้ปรับสมดุล ซ่อมแซมตัวเอง และฟื้นฟูสุขภาพ คือ ตั้งแต่ช่วงสองทุ่มไปจนถึงตีสี่ ช่วงเวลานี้ ตับซึ่งผ่านการดูดซึมและสะสมอาหารไว้ จะเริ่มแจกจ่ายสารอาหารไปยังอวัยวะต่างๆ พร้อมกับส่งมอบพลังงาน ให้แก่อวัยวะต่างๆ ทดแทนส่วนที่ใช้ไปแล้วใน 1 วัน

และในช่วงเวลาดังกล่าว ยังมีช่วงเวลาทอง ที่ถือว่าถ้าได้ทำตามกลไกของนาฬิกาชีวภาพอย่างเคร่งครัด รับรองได้เลยว่า โอกาสที่จะป่วยหรือเป็นโรคร้ายต่างๆจะลดลงไปมาก นั่นก็คือ ช่วงเวลาตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงตีสอง (22.00–02.00 น.) ซึ่งเป็นเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันและระบบรักษาตัวเองทำงานอย่างเต็มที่ เป็นช่วงเวลาทองของการนอนหลับ ที่ฮอร์โมนเมลาโทนินจะควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ยิ่งระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และกำจัดเชื้อโรคทั่วร่างกายก็จะดีขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกัน ร่างกายก็จะได้ชาร์จพลังงาน เติมพลังชีวิตได้อย่างเต็มที่


@@@@@@@

นอกจากนี้ ในการนอนหลับ ในช่วงเวลาทอง คือ สี่ทุ่มถึงตีสอง มีข้อแนะนำว่า ควรปิดไฟในห้องขณะนอนหลับพักผ่อน เคยมีการทดลองในอเมริกาให้ผู้เข้าทดลองนอนหลับระหว่างสี่ทุ่มถึงตีสอง โดยเปิดไฟสว่างไว้ทั้งห้อง แล้วตรวจวัดด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ พบว่า การทำงานของระบบรักษาตัวเองเกือบเท่ากับศูนย์ ขณะที่ ระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานต่ำมากจนถึงจุดต่ำสุด ทำให้แม้จะนอนเต็มที่ แต่ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลีย

ในทางตรงกันข้าม คนที่นอนหลับในช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงตีสอง โดยปิดไฟในห้องให้มืดสนิท ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดในช่วงเวลาดังกล่าว ปรากฏว่าระบบภูมิคุ้มกันและการรักษาตัวเอง ทำงานดีมาก เป็นการส่งสัญญาณว่า หากอยากเป็นคนที่แข็งแรง อย่าเอาเวลาทองที่ร่างกายพร้อมจะซ่อมแซมตัวเอง สร้างภูมิคุ้มกัน ไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเด็ดขาด

เพราะถ้านอนหลับไม่สนิทในช่วงสี่ทุ่มถึงตีสอง ต่อให้มีเวลานอนยาวนานแค่ไหน ร่างกายก็ซ่อมแซมตัวเองได้ไม่มาก และเซลล์ที่ถูกทำลายจะไม่สามารถฟื้นฟูได้เลย รวมทั้งยังเปิดช่องให้เชื้อโรคเข้าโจมตีได้ง่ายอีกด้วย

ถ้าอยากมีสุขภาพแข็งแรง ลองปรับชีวิตไปตามนาฬิกาชีวภาพ...แล้วสังเกตดูว่า ในระยะเวลา 1 เดือน สุขภาพของคุณดีขึ้นหรือไม่ ไม่เชื่อก็ลองดู..!!



ขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/1935697
ไลฟ์สไตล์สุขภาพและความงาม ,ไทยรัฐ ฉบับพิมพ์ ,24 ก.ย. 2563, 05:01 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ