« เมื่อ: ธันวาคม 08, 2020, 06:01:43 am »
0
หนึ่งเดียวในไทย.! วัดแหวกแนว พระพุทธรูปแปลกตาฮือฮาหนึ่งเดียวในไทย! วัดมรรครังสฤษดิ์ ปากน้ำโพ สร้างแหวกแนว พระพุทธรูปแปลกตา บนขออะไรสมหวังดั่งใจปรารถนา รองเจ้าวัดเชื่ออดีตเจ้าวัดรูปแรกสร้างเพื่อตั้งใจให้ใช้จินตนาการเรียนรู้
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดมรรครังสฤษดิ์ หรือวัดตะคร้อ ในพื้นที่บ้านหาดเสลา ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดดังกล่าว ถือเป็นวัดอันซีนที่มีพระพุทธรูปหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีรูปร่างแปลกตา และแหวกแนวไม่เหมือนกับของวัดที่ไหนของประเทศไทย จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบพระวิหารเก่าแก่ อายุกว่า 78 ปี
ซึ่งมีรูปร่างแปลกตา ตั้งแต่รูปปั้นสัตว์ปากประตูทางเข้าวิหาร ไปจนถึงภายใน จะพบว่ามีพระพุทธรูปที่ปั้นด้วยมือรูปร่างแปลกแหวกแนวไม่เหมือนกับที่ใด ตั้งเรียงรายอยู่ภายในพระวิหารกว่า 30 องค์ ซึ่งนอกจากจะดูแปลกตาแล้ว ยังดูเป็นศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงามอย่างยิ่ง

จากการสอบถาม พระประเสริฐ ถาวะระธัมโม รองเจ้าอาวาสวัดมรรครังสฤษดิ์ เล่าว่า ที่วัดแห่งนี้ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2485-86 โดยหลวงพ่อริ้ว กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดองค์แรก และเป็นพระเกจิ โด่งดังวัตถุมงคลของขลังด้านแคล้วคลาด คงกระพัน ได้ร่วมกับพระน้องชายจัดสร้างขึ้น ซึ่งในสมัยนั้น หลวงพ่อริ้ว ได้ตั้งชื่อเป็นวัดตะคร้อ เพราะมีต้นตะคร้อใหญ่ยืนต้นอยู่กลางวัด กระทั่งต่อมา อาจารย์จันทร์ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้มีการขอเปลี่ยนชื่อจากวัดตะคร้อ เป็นวัดมรรครังสฤษดิ์ ซึ่งแปลความหมายว่า หนทางสู่ความสำเร็จ
ส่วนภายในวัดแห่งนี้ นอกจากจะมีโบสถ์ ศาลาการเปรียญ รวมถึงกุฏิพระ แบบเหมือนกับวัดทั่วๆ ไปแล้ว ก็มีการสร้างพระวิหารที่ไม่เหมือนใคร แล้วก็ไม่มีใครเหมือน มีรูปปั้นแปลกตามากมาย ซึ่งสมัยที่วัดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ยังไม่มีอะไรที่สวยงามเลย ตั้งใจว่าจะใช้วิหารนี้เป็นพระอุโบสถ กลับถูกทางการไม่อนุญาต จนต้องสร้างพระอุโบสถตามแบบมาตรฐานขึ้นมาใหม่แทน

"อาตมาก็เป็นพระลูกวัดตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่หลวงพ่อริ้วยังไม่มรณภาพ ซึ่งครั้งแรกที่อาตมาได้มาบวชอยู่วัดแห่งนี้ ก็เห็นวิหารและรูปปั้นแปลกตา และก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นพระอะไร เพราะไม่เหมือนกับที่ไหนเลย จึงได้ถามหลวงพ่อริ้ว ก็ทราบว่า งานปั้นทั้งหมดไม่ว่าพระพุทธรูป หลวงพ่อกับน้องชายเป็นคนสร้างทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามคติความเชื่อในพุทธศาสนาทั้งสิ้น หากแต่ใช้จินตนาการและทักษะตามที่มีเรียกว่า ดิบๆ ทำขึ้นมา จึงไม่สามารถระบุได้ว่า รูปปั้นสัตว์ รวมถึงพระพุทธรูปทั้งหมด สื่อถึงอะไร
แต่ความตั้งใจของหลวงพ่อริ้วคือ อยากให้ชาวบ้านที่มาได้ใช้จิตนาการ และวิจารณญาณถึงตัวเราเองที่ผู้กำหนดให้รับรู้ว่าสิ่งไหนใช่หรือไม่ใช่ เป็นอัตตาโดยแท้ หากแต่เอาจิตที่บริสุทธิ์เข้าจับ จะเห็นถึงความตั้งใจ ความเชื่อและศรัทธา ในสิ่งที่ผู้สร้างบรรจงอย่างบริสุทธิ์ใจ มันไม่เรื่องง่ายที่จะทำเช่นนี้ได้ ต้องมีความเพียร ความตั้งใจ โดยปราศจากการครอบงำจากภายนอก" รองเจ้าอาวาสฯ กล่าว
พระประเสริฐ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด และเขามีความรูปทางด้านศิลปะ ได้มาบอกให้ฟังว่า วิหารที่ถูกสร้างให้เป็นศิลปะเช่นนี้ ทางตะวันตก จะเรียกว่า ศิลปะนาอีฟ Naïve art ซึ่งเป็นศิลปะที่สร้างโดยศิลปิน ที่สร้างสรรค์ด้วยตัวเอง ปราศจากความรู้พื้นฐานทางศิลปะจากเมือง และความเจริญโดยรอบ เรียกได้ว่าบริสุทธิ์โดยแท้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่สำรวจความงามภายในวิหารอยู่นั้น ก็ได้พบกับหญิงสาววัยทำงาน นำหัวหมูต้มจำนวน 5 หัว มาพร้อมกับพวงมาลัยอีกจำนวนหนึ่ง มาทำพิธีถวายให้กับองค์หลวงพ่อริ้ว ภายในวิหารเพื่อทำพิธีแก้บน จึงได้สอบถาม ทราบชื่อ น.ส.วีนัศรินทร์ กลิ่นเจริญ อายุ 32 ปี เป็นชาวบ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงวัด โดยบอกว่า ที่มาทำพิธีแก้บน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ไปหาหมอและพบว่ามีก้อนเนื้อที่หน้าอก ต้องผ่ามาตรวจสอบว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ ด้วยความตกใจกลัวและเป็นกังวลอย่างมาก จึงได้มาบนขอพรกับหลวงพ่อริ้ว ว่าขออย่าให้เป็นเนื้อร้าย จนกระทั่ง กลับไปฟังผลตรวจ ก็พบว่าเป็นก้อนเนื้อธรรมดาที่ไม่ถึงขั้นทำให้เป็นมะเร็ง จึงได้นำหัวหมูต้มและพวงมาลัยมาทำพิธีแก้บนดังกล่าว
น.ส.วีนัศรินทร์ เล่าอีกว่า ที่วัดแห่งนี้ มักจะมีชาวบ้านมากราบไหว้และบนบานขอพรกันเป็นประจำ ส่วนใหญ่ผู้ที่มาบนบาน จะมาขอให้สอบติดได้บรรจุเป็นข้าราชการ ซึ่งก็พบว่า มีผู้สมหวังดั่งใจกันไปหลายรายแล้ว ส่วนตนก็เช่นกัน ไม่ว่าตนจะมีเรื่องทุกข์ใจหรืออยากขอพรให้ได้อะไร ตนก็จะมากราบไหว้บนบานขอพรกับหลวงพ่อริ้วภายในวิหารแห่งนี้ทุกครั้ง และก็ขอท่านได้สำเร็จสมดังใจปรารถนาทุกครั้งด้วย.ชมวิดีโอได้ที่ :
https://youtu.be/tzog9-j4VAsขอบคุณ :
https://www.dailynews.co.th/regional/811476จันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563 เวลา 16.58 น.