ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) วัดธรรมมงคล กทม.  (อ่าน 1174 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร

การทำสมาธิแบบบริกรรมนั้น การบริกรรม ทำให้จิตเป็นหนึ่ง จิตเป็นหนึ่ง ทำให้เกิดความสงบ ความสงบ ทำให้จิตมีพลัง จิตมีพลัง ทำให้มีสติระลึกรู้ มีสติระลึกรู้ ทำให้เกิดสติปัญญา มีสติปัญญา ทำให้รู้ทันอารมณ์ การรู้ทันอารมณ์ ทำให้จิตเป็นกลางได้

@@@@@@@

ประวัติโดยย่อ : พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) วัดธรรมมงคล กทม.

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร นามเดิมว่า วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เป็นบุตรขุนเพ็ญภาษชนารมย์ กับ นางมั่น บุญฑีย์กุล เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2463 ณ บ้านพักนายสถานีรถไฟปากเพรียว จ.สระบุรี เนื่องจากบิดาเป็นนายสถานีรถไฟที่นั่น ต่อมาได้ย้ายไปที่บ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว นครราชสีมา มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นคนที่ 5 หลวงพ่อได้รับการศึกษาชั้นมูลที่โรงเรียนวัดสุปัฏนาราม อุบลราชธานี เนื่องจากบิดาย้ายไปเป็นนายสถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ

หลังจากจบการศึกษาชั้นมูลแล้ว หลวงพ่อจึงกลับมายังบ้านเกิด อ.สีคิ้ว ได้ศึกษาไวยากรณ์บาลีกับพระอาจารย์ที่วัดกลาง นครราชสีมา วันหนึ่งขณะที่มีอายุ 13 ปี เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “ขลิบ” ชวนให้เป็นเพื่อนไปวัดเพื่อต่อมนต์กับหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ จึงรอด้วยความเบื่อหน่ายเพราะไปตั้งแต่สองทุ่มกลับเที่ยงคืน จะกลับบ้านเองก็ไม่ได้เพราะกลัวผี ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า “ตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่มาอีกแล้ว ๆๆ”

ในไม่ช้าก็เกิดความสงบขึ้น ตัวหาย เห็นตัวเองมีสองร่าง ร่างหนึ่งเดินลงศาลาไปยืนอยู่ที่ลานวัด มีลมชนิดหนึ่งพัดเข้าสู่ใจ รู้สึกเย็นและเป็นสุขอย่างยิ่ง ถึงกับอุทานว่า “คุณของพระพุทธศาสนา มีถึงเพียงนี้เทียวหรือ” แล้วเดินกลับไปที่ร่างกลับเข้าตัว พอดีเป็นเวลาเลิกต่อมนต์ จึงเล่าให้หลวงปู่กงมาฟัง ตั้งแต่นั้นมาจึงศึกษาเกี่ยวกับการทำสมาธิและอุปัฏฐากหลวงปู่กงมาตลอดมา

ต่อมาวันหนึ่ง หลวงพ่อทำงานหนักจึงล้มป่วยเป็นอัมพาต บิดาหาหมอมารักษา แต่ก็ไม่หาย ท่านได้แต่นอนอธิษฐานอยู่ในใจว่า “ถ้ามีผู้ใดมารักษาให้หายจากอัมพาตได้ จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น” ไม่นานก็ปรากฏว่ามีตาผ้าขาวคนหนึ่งมาหา พร้อมทั้งถามว่าอธิษฐานดังนั้นจริงไหม หลวงพ่อก็ตอบว่าจริง จึงให้พูดให้ได้ยินดัง ๆ หน่อย ท่านก็พูดให้ฟัง ตาผ้าขาวก็เอาหัวไพรมาเคี้ยว ๆ แล้วก็พ่นใส่ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นปรากฏว่าท่านกระดิกตัวได้และลุกขึ้นเดินได้อย่างน่าอัศจรรย์


@@@@@@@

หลังจากนั้นก็ได้ใส่บาตรตาผ้าขาวที่หน้าบ้าน แล้วบอกให้หลวงพ่อไปหาที่ใต้ต้นมะขาม วัดสว่างอารมณ์ เมื่อไปถึงตาผ้าขาวก็ให้พูดคำอธิษฐานให้ฟังอีกครั้ง แล้วเอามีดไปตัดหางควายมาชูให้ดู แล้วก็ต่อหางคืนไปใหม่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมกับถามว่า “ลุงเก่งไหม” หลังจากนั้นตาผ้าขาวก็บอกคาถาให้ แต่ให้หลวงพ่อท่องทุกวันเป็นเวลา 10 ปีจึงใช้ได้ พร้อมทั้งบอกว่าวันรุ่งขึ้นให้เตรียมใส่บาตร ปรากฏว่าไม่พบตาผ้าขาวอีกเลยจนกระทั่งบัดนี้

ในปี 2477 เมื่ออายุได้ 15 ปี หลวงพ่อได้บวชเป็นผ้าขาว ณ วัดสุทธจินดาวรวิหาร ต.โพธิ์กลาง นครราชสีมา โดยมีพระธรรมฐิติญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นก็ได้ติดตามหลวงปู่กงมาออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อแสวงหาสถานที่วิเวก ครั้งหนึ่งที่ดงพญาเย็น ได้พบโจรกลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือมาล้อมไว้ หลวงปู่กงมาได้เทศน์สั่งสอนโจร ปรากฏว่ากลุ่มโจรทั้งหมดวางอาวุธ ก้มลงกราบหลวงปู่กงมาอย่างนอบน้อม หัวหน้าโจรชื่อว่า “อุง” ได้มอบตัวเป็นศิษย์ บวชเป็นตาผ้าขาวถือศีล 8 เดินธุดงค์ไปด้วยกัน จนกระทั่งหมดลมหายใจขณะทำสมาธิในกลด

ต่อมาในปี 2479 หลวงปู่กงมาได้นำสามเณรวิริยังค์ ไปเผยแพร่ธรรมะที่ จ.จัทบุรี โดยสารทางเรือกลไฟชื่อ “ภาณุรังษี” ตามคำอาราธนาของนายอำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี ชื่อ “ขุนภูมิประศาสน์” เนื่องจากพระสหธรรมิกของหลวงปู่กงมา ท่านพ่อลี ธัมมธโร ที่ได้ไปเผยแพร่ธรรมะที่ จ.จันทบุรี ก่อนหน้านั้นแล้วในปี 2478 ไม่สามารถรับกิจนิมนต์อีกได้ เนื่องจากมีผู้สนใจธรรมะเพิ่มมากขึ้น ต่อมาหลวงปู่กงมาจึงได้สร้างวัดธรรมยุตแห่งที่ 2 ของ จ.จันทบุรี ขึ้น ชื่อว่า “วัดทรายงาม” ในพื้นที่ป่าช้าเก่าที่ชาวบ้านถวายให้

ในขณะนั้นเอง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้กลับมาพำนักที่ จ.สกลนครแล้ว หลังจากที่ไปจาริกธุดงค์ที่ภาคเหนือนานถึง 12 ปี สามเณรวิริยังค์จึงมีความประสงค์จะไปมอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น การอุปสมบทหลวงพ่อจึงเกิดขึ้นก่อนไม่นาน ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2484 ขณะที่มีอายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดทรายงาม บ้านหนองบัว จันทบุรี ประกอบพิธีทางสิมน้ำ โดยพระปัญญาพิศาลเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “สิรินฺธโร” (ผู้ทรงไว้ซึ่งความดี)

@@@@@@@

หลังจากนั้น หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร กับ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ จึงออกเดินทางไปทางป่าเขาจาก จ.จันทบุรี มุ่งสู่ จ.สกลนคร โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ได้ไปกราบและมอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งขณะนั้นพำนักอาศัยอยู่ที่เสนาสนะบ้านโคก ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ เพื่อปฏิบัติธรรมและอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นตั้งแต่ปี 2485 จนถึงปี 2488 เป็นระยะเวลา 4 ปีด้วยกัน

ต่อมาหลวงพ่อได้ติดตามหลวงปู่มั่นไปปฏิบัติธรรม ณ ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน ต่อมาหลวงปู่มั่นได้แนะนำให้หลวงพ่อกลับไปพัฒนาวัดต่าง ๆ ต่อที่ จ.จันทบุรี ในปี 2489 เป็นต้นมา ซึ่งหลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็จะรีบเดินทางออกจาก จ.จันทบุรี เพื่อกลับไปอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นที่วัดป่าบ้านหนองผือทุกปี จนกระทั่งหลวงปู่มั่นมรณภาพ

หลังจากหลวงปู่มั่นมรณภาพแล้ว หลวงพ่อได้กลับไปเผยแพร่ธรรมะและสร้างวัดขึ้นที่ จ.จันทบุรี อีกหลายวัด จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาในปี 2506 จึงได้เข้ามากรุงเทพ ฯ เพื่อเริ่มต้นสร้างวัดธรรมมงคล และวัดต่าง ๆ อีกหลายวัด รวมแล้ว 13 วัดในประเทศไทย อีกทั้งยังสร้างวัดไทยในประเทศแคนาดาอีก 6 แห่ง สร้างวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง รวมทั้งสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สถาบันพลังจิตตานุภาพ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ โรงเรียนอนุบาล และสถานที่สำคัญต่าง ๆ อีกมากมาย

นับว่าเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงของมนุษยโลกที่หลวงพ่อมีต่อพระพุทธศาสนา เพื่อความสันติสุขของโลก จนเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสาธารณชนทั่วไป ดังจะเห็นได้จากการที่สถาบันการศึกษาได้ถวายปริญญากิตติมศักดิ์แก่หลวงพ่อมากถึง 13 แห่ง รวมทั้งการได้รับการยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ  ทั้งไทยและเทศ


@@@@@@@

ทางด้านสมณศักดิ์ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระธรรมมงคลญาณ สีลาจารวัตรวิมล โสภณวิเทศศาสนดิลก สาธกวิปัสสนาธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี เมื่อปี 2553

ปัจจุบัน พระเดชพระคุณพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) แม้จะมีอายุย่างเข้า 99 ปีแล้วก็ตาม (ปี 2561) แต่การประกอบศาสนกิจของหลวงพ่อก็ยังคงเหมือนเดิม หลวงพ่อยังคงเมตตาเผยแพร่ธรรมะให้กับบรรดาศิษยานุศิษย์และพุทธมามกะ มุ่งเน้นการเจริญสมาธิภาวนาให้เกิดสันติสุขขึ้นในโลก โดยแนะแนวทางการปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ และ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาธุระ นั่นเอง




ขอบคุณ : https://thaitheravada.wordpress.com/2018/10/24/หลวงพ่อวิริยังค์-สิรินฺ/
ไทยเถรวาท | ธรรมะตามแนวทางพระเถระ | ตุลาคม 24, 2018 | By Monchai Tiantong
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ