ภาพประกอบเนื้อหา-เลขไทย ฉากหลังเป็นอักษรเขมรโบราณ ศิลาจารึกปราสาทบันทายศรี พุทธศตวรรษที่ 16 (ใช้ประกอบเนื้อหาเท่านั้น)
ถกหลักฐาน “เลขไทย” ได้แบบจาก เลขเขมร ฤๅมีต้นเค้าจาก “เลขอินเดียใต้”“เลขไทย” ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้เป็น “เลขไทย” หรือได้รับแบบแผนจาก “เลขเขมร” เป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่อย่างสนุกสนาน
หลักฐานที่ดีที่สุดในการพิจารณาประวัติความเป็นมา จำเป็นต้องดูจาก “จารึกโบราณ” เพื่อศึกษาถึงกระบวนวิวัฒนาการของอักษรโบราณเหล่านั้น รวมทั้ง “เลขไทย” และ “เลขเขมร” ด้วยเลขโบราณใน “จารึกเขมร”
เลขโบราณในจารึกเขมรมีหลายแบบ เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีการกำหนดรูปแบบการเขียนที่แน่นอน จารึกเขมรโบราณแบ่งออกได้เป็น ๒ สมัยคือ
๑. จารึกเขมรสมัยก่อนเมืองพระนคร มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๙-๑๔ หากเปรียบเทียบกับประเทศไทยก็จะตรงกับสมัยที่เรียกว่า “ทวารวดี” อักษรเขมรโบราณที่ใช้ในจารึกสมัยนี้มีรูปแบบตัวอักษรที่รับมาจาก “อักษรอินเดียใต้ (หรืออักษรสมัยราชวงศ์ปัลลวะ)” ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับ “อักษรทวารวดี” ที่พบในภาคกลางของประเทศไทย
๒. จารึกเขมรสมัยเมืองพระนคร มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๒๐ เปรียบเทียบกับไทยคือสมัยทวารวดีต่อสุโขทัยและอยุธยาตอนต้น รูปแบบตัวอักษรเขมรสมัยนี้เป็นต้นแบบให้กับอักษรเขมรปัจจุบัน, อักษรขอมในประเทศไทย และอักษรไทยสุโขทัย
รูปแบบตัวเลขที่ใช้ในสมัยทั้งสองมีต่างกันไปบ้าง แต่ก็มีบางตัวที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของตัวเลขในสมัยก่อนเมืองพระนครที่มีต่อสมัยเมืองพระนครอย่างเห็นได้ชัด แต่เป็นที่แน่นอนว่าตัวเลขในจารึกเหล่านี้เก่าแก่กว่า “เลขไทยสมัยสุโขทัย” ที่จะวิวัฒนาการมาเป็น “เลขไทยสมัยปัจจุบัน”
เพื่อความชัดเจน ผู้เขียนจะเปรียบเทียบให้เห็นโดยใช้ตัวอย่างตัวเลขที่ใช้ในจารึกเขมรโบราณ สมัยก่อนเมืองพระนคร, สมัยเมืองพระนคร และจารึกสุโขทัย (จารึกพ่อขุนรามคำแหง) ดังนี้
จากตัวเลขที่นำมาเปรียบเทียบ แสดงให้เห็นว่าเลขที่ใช้ในจารึกเขมรสมัยก่อนเมืองพระนคร (ก็คือเลขอินเดียใต้ สมัยราชวงศ์ปัลลวะ) ได้วิวัฒนาการเป็นเลขเขมรสมัยเมืองพระนคร และจากเลขเขมรโบราณสมัยเมืองพระนคร ก็ส่งอิทธิพลต่อเลขไทยสมัยสุโขทัย (จารึกพ่อขุนรามคำแหง)
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะสรุปได้ว่า “เลขอินเดียใต้ (ราชวงศ์ปัลลวะ)” เป็นที่มาของเลขที่ใช้ในดินแดนอุษาคเนย์ทั้งหมด (รวมทั้งเลขที่ใช้ในอาณาจักรทวารวดีในภาคกลางของประเทศไทย)
ต่อมาเลขอินเดียใต้ได้วิวัฒนาการกลายเป็นเลขเขมรโบราณสมัยเมืองพระนคร (เป็นลักษณะเฉพาะ) แล้วจากนั้นจึงส่งอิทธิพลมายังเลขไทยสมัยสุโขทัย จากนั้นจึงกลายเป็นเลขไทยในปัจจุบัน ด้วยการอธิบายตามวิวัฒนาการของรูปแบบตัวอักษร (Palaeography) ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม 2546
ผู้เขียน : ศานติ ภักดีคำ
เผยแพร่ : วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2564
แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาในระบบออนไลน์ : เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2562
ขอบคุณ :
https://www.silpa-mag.com/history/article_6720