“เกิดเป็นเปรตไถนา” กรรมที่ต้องชดใช้ เพราะใช้วาจาจาบจ้วงขัดขวางการทำบุญที่มีคนมาบอกบุญ #เรื่องเล่าบุญ-กรรมที่ทำ
พระภิกษุสงฆ์กลุ่มหนึ่งจำพรรษาอยู่ในโรหนชนบท มีความประสงค์จะเดินทางไปนมัสการพระศรีมหาโพธิ์ ระหว่างทางหลงทางเข้าไปในป่า แล้วไม่สามารถหาทางออกได้ เดินวนเวียนกลับไปกลับมาในป่าเป็นเวลาหลายวัน ภิกษุเหล่านี้ได้รับความหิวโหยลำบากเป็นอันมา
วันหนึ่งหมู่ภิกษุสงฆ์เดินมาถึงทุ่งกว้างกลางป่าใหญ่แห่งหนึ่ง เห็นร่างๆ หนึ่งคล้ายมนุษย์ แต่มีรูปร่างที่ดูแปลกประหลาดไม่เหมือนคนธรรมดากำลังเทียมโคใหญ่ ๔ ตัวเข้าที่ไถเหล็กไถนาอยู่คนเดียวในกลางป่า ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่อย่างนั้น โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ภิกษุสงฆ์ดีใจมากจึงพากันตรงรี่เข้าไปถามว่า
"อุบาสก ขอให้ท่านพักไถสักครู่เถิด พวกอาตมาหลงทางอยากถามเส้นทางออกจากป่านี้ ขอให้ท่านบอกแก่อาตมาหน่อยเถิด จะได้เป็นบุญกุศล"
ชายผู้นั้นตอนแรกๆ ก็ไม่ตอบคำถามอะไร ได้แต่ไถนาไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อพระภิกษุถามซํ้าๆ อีก จึงกราบเรียนท่านไปว่า
“พระคุณเจ้า พวกท่านเพิ่งหลงทางแค่ ๗ วันเท่านั้น ความลำบากยังไม่มากเท่าไร แต่ข้าพเจ้าสิหลงทางอยู่ที่นี่ ไถนาอยู่ตรงนี้ตั้ง ๑ พุทธันดรแล้ว ได้รับความลำบากมากกว่าพวกท่านอย่างมากมาย”
@@@@@@@
พระภิกษุทั้งหลายได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจ จึงพากันพิจารณารูปร่างของอุบาสกผู้นั้น จึงทราบว่า บุรุษผู้นี้มิใช่มนุษย์
พระภิกษุจึงถามว่า "ท่านเป็นใคร"
เขาตอบว่า "ข้าพเจ้าเป็นเปรต กำลังรับทุกข์ทรมานอย่างหนัก ต้องไถนาทั้งกลางวันกลางคืน จะวางคันไถลง ก็วางคันไถลงไม่ได้"
เปรตตนนั้นพูดขึ้นด้วยความรันทดหดหู่ใจ พระภิกษุทั้งหลายจึงถามถึงกรรมในอดีตของเขา เขาจึงเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ตนเองเผลอไปทำพลาดพลั้งเอาไว้ว่า
เมื่อก่อนตัวข้าพเจ้าเป็นชาวนา ในยุคของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอยู่วันหนึ่งกัลยาณมิตรทั้งหลาย ซึ่งรักการสร้างบุญสร้างบารมีพากันไปทำบุญ สักการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเอิญว่ากัลยาณมิตรเหล่านั้นอยากจะให้ข้าพเจ้าได้บุญกับเขาด้วย จึงพากันมาชวนข้าพเจ้าไปทำบุญ แต่ตอนนั้นข้าพเจ้าเองกำลังมีใจขุ่นมัว ไม่อยากจะทำบุญทำทานแต่อย่างใด จึงคิดด้วยใจขุ่นๆ ว่า
"การไปทำบุญเป็นการเสียประโยชน์ เสียเวลาทำมาหากิน สู้ไถนาไม่ได้ จึงตอบคนพวกนั้นไปว่า ไม่ไปหรอก เสียเวลาไถนา"
@@@@@@@
พวกเขาก็พยายามชี้แจงเรื่องไม่ประมาทในชีวิต ข้าพเจ้าโมโหเลยพูดว่า
"พวกท่านเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เราหนวกหู ถ้าพระพุทธเจ้าของพวกท่านไม่สามารถไถนาให้เราได้ เราก็จะไม่ไปทำบุญด้วยหรอก เมื่อใดที่ท่านมาไถนาให้ดูได้ เมื่อนั้น เราจึงจะไปทำบุญ ด้วยการพูดจาไม่ยั้งคิด ไม่พิจารณาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ทำให้ข้าพเจ้านั้นต้องเกิดมาเป็นเปรต ชดใช้กรรม อดข้าว อดน้ำ ไม่ได้นั่ง ไม่ได้นอนตลอด ๑ พุทธันดร ต้องไถนาอยู่ตลอดเวลา ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะหมดกรรมสักที"
เมื่อพูดถึงตอนนี้เปรตก็ทำนิ่งๆ แล้วชี้บอกเส้นทางออกจากป่ากับเหล่าพระภิกษุทั้งหลายพร้อมกับบอกว่า เมื่อพระคุณเจ้าทั้งหลายออกไปแล้ว ขอให้บอกเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายด้วยเถิดว่า
"ขอให้เพื่อนมนุษย์ผู้ยังไม่ตาย จงขวนขวายในการทำบุญให้ทาน อย่าได้ประมาททำบาปอกุศลแม้เพียงเล็กน้อยเหมือนอย่างข้าพเจ้าเลย อย่าได้เป็นคนมีวาจาชั่วหยาบ จ้วงจาบผู้ทรงศีลจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ให้หมั่นสร้างบุญกุศลไว้ เมื่อถึงคราวละโลกไป จะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานเหมือนอย่างข้าพเจ้า"
พูดจบก็ประนมมือนมัสการพระภิกษุแล้วก็เริ่มไถนาต่อไปที่มา : FB : เพจ พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ขอบคุณ :
https://www.tnews.co.th/religion/317189/เกิดเป็นเปรตไถนา-กรรมที่ต้องชดใช้-เพราะใช้วาจาจาบจ้วงขัดขวางการทำบุญที่มีคนมาบอกบุญ-เรื่องเล่าบุญ-กรรมที่ทำข่าวโดย : กิตติ จิตรพรหม ทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์
Publish : 2017-05-08 ,11:23:21