โควิดทำสุขภาพจิตคนไทยย่ำแย่ เครียด-ตื่นตระหนกพุ่ง-อัตราฆ่าตัวตายเพิ่มกรมสุขภาพจิตเผยผลสำรวจสุขภาพจิตคนไทย พบจังหวัดที่มีการระบาดของโควิดสีแดง เครียด- กลัวติดโรค ส่วนจังหวัดพื้นที่เขียว-ขาว กังวลกลัวคุมโรคไม่อยู่ น่าตระหนกอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จของคนไทยขยับขึ้นเป็น 7.3 ต่อประชากรแสนคน
3 กุมภาพันธ์ 2564 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องเช็กอินหัวใจในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า จากการสำรวจสภาวะสุขภาพจิตของคนไทย พบว่ามีระดับความเครียดเพิ่มขึ้นและลดลงตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยในช่วงการระบาดระลอกแรก มีความเครียดสูงสุดร้อยละ 8 และค่อยๆลดลงช่วงปลายปี จนมาถึงช่วงการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งนอกจากพบว่าเครียดแล้ว ยังมีภาวะของความตื่นตระหนกเพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะสอดคล้องกับพื้นที่ของจังหวัดที่มีการระบาด
"จังหวัดที่มีการระบาดมากก็มีความตื่นตระหนกสูง โดยจังหวัดพื้นที่โซนสีแดงจะกลัวการติดเชื้อ จังหวัดที่อยู่ในโซนสีขาวและเขียวจะกลัวเรื่องการควบคุมการระบาดไม่อยู่ ซึ่งในเรื่องของการกลัวการติดเชื้อนั้นเราสามารถป้องกันได้โดยสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้คลายความวิตกกังวลลงได้" พญ.พรรณพิมล กล่าว
ส่วนกลุ่มผู้ที่เข้ารับการกักตัวหรือกลุ่มผู้สัมผัสโรค พบว่า จะมีระดับความเครียดสูงสุดในช่วง 2 วันแรกของการกักตัว เพราะรอฟังผลว่าติดเชื้อหรือไม่ และหากพบว่าไม่ติดเชื้อและต้องกักตัวที่บ้าน 14 วัน ก็มีความเครียดเช่นกัน ซึ่งขอแนะนำให้กำหนดตารางชีวิตประจำวันทั้ง 14 วัน ว่าแต่ละวันจะทำอะไรบ้าง
@@@@@@@
สำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ หากมีภาวะความเครียดหรือมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ขอให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในสถานที่กักกันนั้น ซึ่งเราจะมีระบบการดูแลด้านสุขภาพจิต ส่วนประชาชนทั่วไป ขอให้มีการตรวจสอบสภาวะจิตใจ อารมณ์ของตนเอง โดยสามารถเข้าไปตรวจเช็กสุขภาพจิตได้ที่เว็บไซด์ของกรมสุขภาพจิตที่ Checking.dmh.go.th หรือ สายด่วน 1323
"ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จของคนไทยขยับขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 6 ต่อแสนประชากรคงที่มา 5-6 ปี แต่ในปี 2563 พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จไต่ระดับขึ้น โดยเมื่อนำใบมรณบัตรที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเป็นฆ่าตัวตาย พบว่าอยู่ที่ 7.3 ต่อแสนประชากร ส่วนภาวะอ่อนล้าทางอารมณ์หรือภาวะหมดไฟในคนทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 6 แต่ในกลุ่มเปราะบางคือ คนที่มีปัญหาสุขภาพจิตอยู่แล้ว คนที่ต้องกักกันตัว และญาติจะอยู่ที่ร้อยละ 19" พญ.พรรณพิมล กล่าว ขอบคุณ :
https://www.naewna.com/likesara/550270วันพุธ ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 21.00 น.