ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลักการ ของ "เถรวาท" | "ไม่บัญญัติ" สิ่งที่พระพุทธองค์ "ไม่ได้บัญญัติ"  (อ่าน 2416 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29389
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



หลักการ ของ "เถรวาท" | "ไม่บัญญัติ" สิ่งที่พระพุทธองค์ "ไม่ได้บัญญัติ"

ขออัญเชิญข้อความจาก คัมภีร์จุลวรรค พระไตรปิฎกเล่ม ๗ ข้อ ๖๒๑ อันเป็นตอนที่ว่าด้วยพระอรหันตเถระ ๕๐๐ ทำปฐมสังคายนา มาให้ศึกษาโดยทั่วกัน

พระมหากัสสปเถระซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ได้เสนอญัตติต่อที่ประชุม มีข้อความดังนี้


@@@@@@@

(๑) ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สิกขาบทของพวกเราที่ปรากฏแก่คฤหัสถ์ก็มีอยู่ แม้พวกคฤหัสถ์ก็รู้ว่า สิ่งนี้ควรแก่พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร สิ่งนี้ไม่ควร ถ้าพวกเราจักถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสีย จักมีผู้กล่าวว่า

พระสมณโคดมบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลายเป็นกาลชั่วคราว พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ยังดำรงอยู่ตราบใด สาวกเหล่านี้ยังศึกษาในสิกขาบททั้งหลายตราบนั้น เพราะเหตุที่พระศาสดาของพระสมณะเหล่านี้ปรินิพพานแล้ว พระสมณะเหล่านี้จึงไม่ศึกษาในสิกขาบททั้งหลายในบัดนี้

(๒) ถ้าที่ประชุมแห่งนี้พร้อมที่จะพิจารณาแล้ว ข้าพเจ้าขอเสนอญัตติดังนี้
     (1) สงฆ์ไม่พึงบัญญัติสิ่งที่พระบรมศาสดามิได้ทรงบัญญัติ
     (2) ไม่พึงถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว
     (3) พึงสมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว

(พระมหากัสสปเถระประกาศญัตติจบแล้ว ขอความเห็นจากที่ประชุมว่า..)

(๓) ท่านทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ญัตติที่ว่า
     (1) สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่พระบรมศาสดามิได้ทรงบัญญัติ
     (2) ไม่ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว
     (3) สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว

ท่านผู้ใดเห็นด้วย ท่านผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ท่านผู้ใดไม่เห็นด้วย ท่านผู้นั้นพึงพูด (คือทักท้วงหรือโต้แย้ง)

(ปรากฏว่าไม่มีท่านผู้ใดทักท้วงหรือโต้แย้ง ที่ประชุมจึงได้ตราเป็นมติว่า..)

    (1) สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่พระบรมศาสดามิได้ทรงบัญญัติ
    (2) ไม่ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว
    (3) สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว

นี่คือ หลักการของสงฆ์ฝ่ายเถรวาท

ผู้สนใจโปรดศึกษารายละเอียดทั้งหมดของเรื่อง รวมทั้งเหตุการณ์อื่นๆ ในช่วงเวลานั้นได้จากพระไตรปิฎกภาษาบาลีฉบับสยามรัฐ เล่ม ๗ ข้อ ๖๑๔-๖๒๙ พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลชุด ๙๑ เล่ม เล่มที่ ๙ หน้า ๕๐๙-๕๒๙

@@@@@@@

คำถามที่ควรจะต้องถามกัน คือ

     ๑. เราท่านในปัจจุบันนี้มีเหตุผลอะไรในการบัญญัติสิ่งใหม่ๆ ประพฤติอะไรที่แปลกไปจากที่พระบรมศาสดาทรงบัญญัติ พระบรมศาสดาทรงบัญญัติไว้ไม่พอไม่ครบไม่สมบูรณ์ จึงต้องมาบัญญัติเพิ่มเติมเช่นนั้นหรือ.?

     ๒. เราท่านในปัจจุบันนี้มีเหตุผลอะไรที่ไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว พระบรมศาสดาทรงบัญญัติไว้ไม่ถูกต้อง เป็นพระบัญญัติที่ไม่เหมาะแก่กาลเทศะ จึงปฏิบัติตามไม่ได้เช่นนั้นหรือ.?

คำถามนี้ไม่ได้หมายความว่า การที่เราท่านในปัจจุบันนี้บัญญัติสิ่งใหม่ๆ ประพฤติอะไรที่แปลกไปจากที่พระบรมศาสดาทรงบัญญัตินั้นเป็นความผิด เป็นสิ่งไม่ดี และการที่ไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้ ก็เป็นความผิด เป็นสิ่งไม่ดี มิได้หมายความเช่นนั้น เป็นเพียงคำถามที่ชวนให้คิด คิดหาเหตุผล คิดหาคำอธิบายที่มีเหตุมีผล สมเหตุสมผล

เพื่อที่ว่า เมื่อเรามีเหตุผลที่ถูกต้องดีงามแน่นอนแล้ว เราจะได้บัญญัติสิ่งใหม่ๆ ประพฤติอะไรที่แปลกไปจากที่พระบรมศาสดาทรงบัญญัติไว้ได้อย่างมั่นใจและสบายใจว่าเราทำถูกต้องแล้ว พร้อมไปกับที่-ไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้วได้อย่างมั่นใจและสบายใจว่าเราทำถูกต้องแล้วเช่นเดียวกัน

อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างตรงที่ว่า จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินว่า คำอธิบายและเหตุผลที่เรายกขึ้นมาอ้างนั้นเป็นคำอธิบายและเป็นเหตุผลที่ถูกต้องดีงามอย่างแท้จริง หรือว่าเป็นเพียงคำอธิบายและเป็นเหตุผลที่ถูกต้องดีงามตามที่เราเข้าใจของเราเอง รวมทั้งอ้างว่าคนอื่นๆ หรือใครๆ ก็เข้าใจแบบเดียวกับที่เราเข้าใจนี่แหละ เราจึงสรุปว่าอะไรก็ตามที่คนเข้าใจแบบนั้น ทำแบบนั้นกันมากๆ หรือทำกันทั่วไป นั่นเหละคือสิ่งที่ถูกต้องดีงาม

เราอาจจะต้องคิดหาเหตุผล (ในการบัญญัติและประพฤติสิ่งใหม่ๆ และในการไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติเดิม) ไปด้วย และคิดหาเกณฑ์ที่จะเอามาใช้ตัดสินเหตุผลนั้นไปด้วยพร้อมๆ กัน

@@@@@@@

โพสต์นี้มีเจตนาเพียงชวนให้คิด ชวนให้ศึกษา ผมเชื่อว่า พระภิกษุสามเณรปัจจุบันนี้ แม้แต่ที่กำลังเรียนบาลีอยู่ก็เถอะ ส่วนมากน่าจะยังไม่เคยอ่านพระไตรปิฎกตอนที่อัญเชิญมาข้างต้นนั้น

ส่วนพุทธศาสนิกชนชาวบ้านทั่วไปนั้นไม่ต้องสงสัย แทบทั้งหมดไม่ใช่เพียงไม่เคยอ่าน หากแต่ไม่เคยรู้เรื่องด้วยซ้ำไป

ปักป้ายบอกทางให้แล้ว ขอแรงตามไปศึกษากันนะครับ วิธีนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยกันสืบอายุพระศาสนา

อนึ่ง วันนี้ (๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๓) เป็นวันพระ ผมถืออุโบสถศีลตามปกติ ขอแบ่งส่วนบุญให้ญาติมิตรทั้งปวง โปรดอนุโมทนาบุญโดยทั่วกันเทอญ




บทความของ : นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ,๑๗:๒๑
ขอบคุณ : dhamma.serichon.us/2021/02/07/หลักการของเถรวาท/
หลักการของเถรวาท ,7 กุมภาพันธ์ 2021 ,By admin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 08, 2021, 07:12:14 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ