ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คติธรรมคำสวด ในวันอุโบสถ  (อ่าน 1385 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
คติธรรมคำสวด ในวันอุโบสถ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2021, 05:58:42 am »
0




คติธรรมคำสวด ในวันอุโบสถ

คณะผู้ถือโบสถศีลวัดมหาธาตุ ราชบุรี มีการไหว้พระสวดมนต์ ๓ เวลา คือ

     ๑. ตอนเช้า หลังจากเสร็จพิธีทำบุญ ขณะที่พระกำลังฉันเช้า ไหว้พระสวดมนต์จบแล้วรับประทานอาหารเช้า แล้วฟังเทศน์ ๑ กัณฑ์
     ๒. ตอนเย็น หลังจากทำกิจวัตร-กิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่เช้ามาจนถึงประมาณ ๕ โมงเย็น ก็ไหว้พระสวดมนต์อีกเวลาหนึ่งประมาณ ๑ ทุ่ม ฟังเทศน์อีกกัณฑ์หนึ่ง
     ๓. เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ประมาณตีสี่ ไหว้พระสวดมนต์อีกเวลาหนึ่ง จบแล้วทำความสะอาดสถานที่ พอสายก็กลับบ้าน

เฉพาะไหว้สวดมนต์ตอนเย็น มีเวลาสวดมากกว่าเวลาอื่น เรียกว่าสวดกันอิ่ม ผมแปลคาถาสุภาษิตภาษาบาลีเป็นคำประพันธ์สั้นๆ ให้ชาวคณะอุโบสถสวดเป็นทำนองสรภัญญะปิดท้ายก่อนกราบลาพระรัตนตรัย ๒ บท

@@@@@@@

บทแรก นำมาจากคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา ภาค ๑ เรื่องพระจักขุบาล

    ชราชชฺชริตา โหนฺติ
    หตฺถปาทา อนสฺสวา
    ยสฺส โส วิหตตฺถาโม
    กถํ ธมฺมํ จริสฺสติ.
   (ชะราชัชชะริตา โหนติ
    หัตถะปาทา อะนัสสะวา
    ยัสสะ โส วิหะตัตถาโม
    กะถัง ธัมมัง จะริสสะติ.)

    ตอนมีแรงไม่เร่งทำ
    พอแก่หงำจะทำไง
    มือเท้าก้าวไม่ไหว
    จะเอาอะไรประพฤติธรรม

บทที่ ๒. เป็นบทที่เรียกกันว่า “คาถากาสลัก”

    จช ทุชฺชนสํสคฺคํ
    ภช สาธุสมาคมํ
    กร ปุญฺญมโหรตฺตํ
    สร นิจฺจมนิจฺจตํ.
   (จะชะ ทุชชะนะสังสัคคัง
    ภะชะ สาธุสะมาคะมัง
    กะระ ปุญญะมะโหรัตตัง
    สะระ นิจจะมะนิจจะตัง.)

    จงหลีกเว้นคนพาลอย่าผ่านพบ
    จงเลือกคบคนดีทวีผล
    จงทำบุญทุกวันคืนชื่นกมล
    จงเตือนตนหมั่นคิดอนิจจัง


@@@@@@@

อยู่มาวันหนึ่ง ในวงสนทนาธรรมที่เราชาวคณะอุโบสถจัดกันเองทุกวันพระ มีการซักถามกันถึงลักษณะที่พึงประสงค์ของคนที่มารักษาอุโบสถศีลว่า มาถือศีลนอนค้างวัดทุกวันพระ ควรจะได้อะไรเป็นคุณสมบัติประจำตัว เมื่อประมวลกันแล้ว ก็ได้คุณสมบัติชุดหนึ่งที่ทุกคนพอใจ ผมก็เลยแต่งเป็นคำประพันธ์ขึ้นอีกบทหนึ่ง ดังนี้

    ไม่ติดทั้งดีทั้งชั่ว
    รู้ตัวทั่วพร้อมผ่องใส
    รู้การควรไม่ควรอันใด
    กระทบแต่ไม่กระเทือน


บทนี้ไม่ได้แต่งจากคาถาบาลี ก็เลยไม่มีคำบาลีมารองรับ อยากจะขอแรงญาติมิตรที่เรียนบาลีช่วยหาคำบาลีที่มีความหมายตรงตามนี้ คงไม่มีที่ตรงกันทั้ง ๔ วรรคในคาถาเดียว ขอเพียงหาคำบาลีที่พอจะคุ้นๆ มารองรับได้ครบทั้ง ๔ วรรค ก็น่าจะพอใจแล้ว ประมาณว่า-วรรคนี้ตรงกับภาษิตบาลีว่าอย่างนี้ แค่นั้นก็พอ ฝึกใช้งานภาษาบาลีเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นธรรมกีฬากันนะขอรับ

ตั้งแต่เกิดโรคโควิดระบาดตั้งแต่รอบแรก คณะอุโบสถก็เลยประกาศงดกิจกรรมสนทนาธรรม ตัวผมเองก็มีความจำเป็นบางประการ ต้องงดการไปนอนค้างวัด ยังคงไปทำบุญวันพระ แล้วมาถืออุโบสถศีลอยู่กับบ้าน บุญกิริยาส่วนนี้ยังคงประพฤติได้เต็มตามปกติ

วันนี้วันพระ แรม ๑๔ ค่ำ สิ้นเดือน ๓ ตั้งแต่เช้ามาจนถึงเวลานี้ได้บำเพ็ญบุญพิเศษในวันพระตามที่เคยทำ
ขอแบ่งส่วนบุญให้ญาติมิตรทั้งปวง โปรดอนุโมทนาทั่วกันเทอญ

       นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
       ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ๑๓:๕๒




ขอบคุณ : dhamma.serichon.us/2021/02/14/คติธรรมคำสวดในวันอุโบส/
คติธรรมคำสวดในวันอุโบสถ, 14 กุมภาพันธ์ 2021 ,By admin.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 08, 2021, 05:38:32 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ