ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระราชหัตถเลขาในรัชกาลที่ 4 ว่า ไทยเราก็เป็นสวรรค์ เพราะมีน้ำทิพย์-อาหารทิพย์  (อ่าน 888 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ฉากหลังเป็นภาพคลองบางกอกน้อยในราวต้นศตวรรษที่ 20 ภาพโดย Karl Döhring)


พระราชหัตถเลขาในรัชกาลที่ 4 ว่า ไทยเราก็เป็นสวรรค์ เพราะมีน้ำทิพย์-อาหารทิพย์

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จเจ้าฟ้ามหามาลา เมื่อจุลศักราช 1225 ความตอนหนึ่งว่า

    “วาจาของคนบางพวกพูดกันว่า เมืองลาวเหมือนเมืองสวรรค์ ทั้งหญิงทั้งชาย ตั้งแต่บ่ายจนดึกมีแต่สนุก ร้องรำทำเพลงรื่นเริงอยู่เปนนิตย์ อีกพวกหนึ่งนักเลงพูดกันว่า ต้องการอะไรที่จะทำบุญไปสวรรค์ เมืองไทยของเราก็เปนสวรรค์อยู่แล้ว เพราะมีน้ำทิพย์ คือเหล้ากิน เพราะมีอาหารทิพย์ คือฝิ่นสูบสบายดี แลมีต้นกัลปพฤกษ์ คือบ่อนโป เปนที่สำราญรื่นชื่นบานได้ลาภผล รายอยู่รอบบ้านรอบเมือง ทั้งทางบกทางเรือ คำนักเลงพูดอย่างนี้นั้นไม่เห็นด้วย ถ้าเมืองไทยเมืองลาวเปนเมืองสวรรค์ ก็สวรรค์วิมานรุงรังนัก ไฟไหม้วิมานฉิบหายบ่อยๆ”

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปรียบเปรยเช่นนี้เนื่องจากทรงเป็นกังวลต่อการปฏิบัติภารกิจของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ในการออกติดตามหาช้างเผือก

ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเดือนบุญหลังเสร็จสิ้นการทำไร่นาที่ชาวลาวจะมีการเฉลิมฉลองกัน และเจ้าฟ้ามหามาลาก็ทรงเป็นเจ้านายที่มีบ่าวไพร่เป็นคนลาวมาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชหัตถเลขาย้ำเตือนว่า “พ่อกลางบ่าวไพร่ก็เป็นลาวมากอย่าพลอยสนุก ไปด้วยคิดการหาช้างเผือกมาใส่บ้านเมืองดีกว่า”





เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2564
แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 19 ตุลาคม 2560
ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_5818
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ