‘ไม่’ ใช่ว่าไม่ดี…5 ‘ไม่’ ที่ต้องพกติดตัว แล้วชีวิตจะดี
ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ คำว่า ‘ไม่’ ที่ดูเหมือนจะการปฏิเสธ หรือในมุมที่ติบลบ ก็ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป อย่างทั้ง 5 ‘ไม่’ ที่ต้องพกติดตัว ถ้าทำได้ตามนี้ ชีวิตดีขึ้นแน่นอน
@@@@@@@
‘ไม่เป็นไร’
คำที่มีความหมายค่อนข้างหลากหลาย มีนัยทั้งทางบวกและทางเกือบจะลบ จะเป็นการให้อภัยก็ได้หรือปลอบใจตัวเองก็ได้ แต่ในทางกลับกันก็อาจเป็นการหลอกตัวเองได้เหมือนกัน
สำหรับคำว่า ‘ไม่เป็นไร’ ในเชิงบวก จริง ๆ คำนี้มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นทั้งการให้อภัยและการปลอบประโลมตัวเอง แต่คนเราเดี๋ยวนี้ลืมใช้คำว่า ‘ไม่เป็นไร’ ไปกันเกือบหมดแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีใครยอมใคร ทำผิดก็ไม่ยอมรับผิด ไม่มีคำว่า “ขอโทษ” และอย่าหวังเลยถึง “การให้อภัย” หรือบอกว่า “ไม่เป็นไร” ทำให้คำนี้กลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ทั้ง ๆ ที่การให้อภัยเป็นง่ายและไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
ส่วนนัยของการปลอบใจตัวเอง คำว่า ‘ไม่เป็นไร’ ก็มีพลังในการเยียวยาตัวเองได้ดีไม่แพ้กัน เมื่อผิดหวัง เป็นทุกข์ หรือสิ้นหวัง ถ้าบอกตัวเองว่า ‘ไม่เป็นไร’ โอกาสที่จะกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งก็มีได้มากกว่า แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราโกหกตัวเอง ทั้งที่ใจยังไม่พร้อม หลอกตัวเองว่า ‘ไม่เป็นไร’เราก็ทำได้แค่โกหกตัวเองไปเรื่อย ๆ
จงอย่าใช้คำว่าไม่เป็นไร เพื่อปิดบังความรู้สึกลึก ๆ ในใจของตัวเอง หรือเลือกที่จะปฏิเสธความจริง เพื่อแลกกับความสบายใจของตัวเองและคนรอบข้าง เพราะมัน ‘ไม่เป็นไร’ เลยจริง ๆ ถ้าใจจะบอกว่า ‘เป็น’
‘ไม่ถือสา’
ถือสา หมายถึง ก. ยึดเอาเป็นเรื่องเป็นราว, ถือเอาเป็นโทษ เพราะฉะนั้น ‘ไม่ถือสา’ ก็คือการไม่ยึดเอาเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ถือเอาเป็นโทษ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือไม่ลงไปคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนั่นเอง
ทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตอยู่บนความคิดเล็กคิดน้อยกันมากขึ้นทุกที เรื่องเล็กก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ ทั้งที่เรื่องบางเรื่อง ‘ไม่ถือสา’ จะเป็นการดีที่สุด เช่น เจอคนขับรถปาดหน้า ถ้ายึดเอาเป็นเรื่องเป็นราว เราอาจจะขับแซงไปเอาคืน เค้าก็อาจจะไม่ยอม เอาคืนกันไป เอาคืนกันมา ชักปืนยิงใส่กันมาแล้วก็มี เรื่องแบบนี้ทำใจ ‘ไม่ถือสา’ ไปเลยปลอดภัยที่สุด กับคนไร้มารยาทบนท้องถนน เจอคนไร้มารยาทขับรถ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวไร้มารยาทไปด้วย
ถ้าคิดในอีกมุม การ ‘ไม่ถือสา’ ก็เป็นการเอาตัวเองออกจากปัญหาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบ ถ้าเราไม่ยึดเอามาเป็นเรื่องเป็นราวให้วุ่นวายใจ โอกาสที่จะทุกข์หรือผิดหวังก็มีน้อยลง
‘ไม่มีอะไรยาก’
ในชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งที่ต้องเจอก็มีแค่ ‘ง่าย’ กับ ‘ยาก’ ถ้าเจออะไรง่าย ๆ แล้วผ่านไปได้แบบสบาย ก็ถือว่าโชคดี แต่นอกจากนั้นบางช่วงบางตอน..คนเราก็ต้องเจอกับเรื่องยาก ๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นธรรมดา
เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ‘ยาก’ เราคงต้องฝ่าฟันกว่าจะผ่านมันไปได้ แต่ถ้าคิดว่า “ยาก..ทำไม่ได้หรอก” “ยาก..ไม่อยากทำ” หรือวิ่งหนีไปเฉย ๆ ก็คงไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้ ทางที่ดีลองเปลี่ยนความคิด ปรับมุมมองกับเรื่องยาก ๆ ที่เข้ามาในชีวิตเสียใหม่ มองให้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ มองว่าไม่มีอะไรเกินความพยายามและความสามารถของเรา สุดท้ายความพยายามบวกความตั้งใจ ก็ไม่มีอะไรยากอีกต่อไป
จริง ๆ แล้วความยากคือบททดสอบที่สำคัญในชีวิต ถ้าผ่านไปได้ สิ่งที่จะได้รับกลับมาก็คือบทเรียนที่ทำให้เติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น คนเราคงเลือกแต่จะเจอของง่ายอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าเจออะไรยาก ๆก็แค่บอกตัวเองว่า ‘ไม่มีอะไรยาก’
‘ไม่คิดมาก’
จริง ๆ การคิดหรือวางแผนอะไรไว้ล่วงหน้าไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่ ‘คิดมากไป’ ต่างหากที่ไม่ดี บางคนยิ่งคิด ยิ่งกังวล กระวนกระวายอยู่กับความคิดตัวเองจนทำให้จิตใจย่ำแย่
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะการกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ไม่ก็ไม่พอใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ซึ่งก็คือไม่หลุดจากอดีตและกังวลกับเรื่องของอนาคตนั่นแหละ แต่ลืมไปว่าทั้งอดีตและอนาคตเป็นเรื่องควบคุมไม่ได้ต่อให้คิดจนหัวแตกก็ทำอะไรไม่ได้ เราทำได้แค่คิดวางแผนให้ดี ตั้งใจให้อย่างเต็มที่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
บางครั้งคนเราก็ต้องรู้จักปล่อยวางความคิดลงบ้าง การคิดมากของคนส่วนใหญ่ไม่ใช่การคิดเพื่อวางแผนหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เป็นการคิดมากที่นำไปสู่การตอกย้ำถึงเรื่องแย่ ๆ หรือสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้น เมื่อวนเวียนแต่คิดเรื่องเดิม ๆ โดยหาทางออกไม่ได้ก็มีแต่จะดึงรั้งตัวเองให้อยู่กับความทุกข์ไปเรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้นลอง ‘ไม่คิดมาก’ แล้วช่างมันกับเรื่องที่ผ่านไปแล้วหรือเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วดูบ้าง ก็ทำให้เราปล่อยวางได้ง่ายขึ้น เรื่องพวกนี้ต่อให้คิดไปก็ทำอะไรไม่ได้ หยุดเสียเวลาไปกับความคิดแย่ ๆ ที่ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลยเสียที
‘ไม่หวั่นไหว’
‘ไม่หวั่นไหว’ ที่จะพูดถึงนี้เป็นเรื่องของ ‘จิตที่ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม’ ซึ่งเป็นมงคลที่ 35 ในมงคลชีวิต 38 ประการ คำว่า ‘โลกธรรม’ ก็คือ ลาภ-เสื่อมลาภ ยศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทาสุข-ทุกข์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการไม่หวั่นไหวไปกับเรื่องที่ดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ถ้าพิจารณากันตามจริงแล้ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นของไม่ยั่งยืน ทั้งลาภ ยศ สรรเสริญ หรือแม้แต่ความสุข ไม่เคยอยู่กับใครนาน ๆ ทุกอย่างเป็นของชั่วคราว มีได้ ก็หายไปได้ง่าย ๆ ถ้าเราหวั่นไหวไปกับของพวกนี้ ก็มีแต่จะทำให้ตัวเองทุกข์ไปเรื่อย ๆ ไม่จบสิ้น
แต่การจะ ‘ไม่หวั่นไหว’ เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน ต้องใช้สติ ใช้ปัญญา ใช้การเจริญสมาธิเข้ามาช่วยเพื่อให้หยุดนิ่ง ไม่ไหวเอนไปกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่มากระทบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ก็ตาม เมื่อนิ่งได้บ่อยเข้าก็จะค่อย ๆ ไม่หวั่นไหวไปกับทุกเรื่องที่มันเข้ามา สุดท้ายเราก็จะสามารถเผชิญหน้าและก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นไปได้
@@@@@@@
จริง ๆ ทั้ง 5 ‘ไม่’ เป็นคำที่เราทุกคนใช้กันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ลึกซึ้งไปถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ของมัน ซึ่งถ้าเรายึดทั้ง 5 ‘ไม่’ นี้ไว้ให้ขึ้นใจ นอกจากเราจะไม่ค่อยทุกข์แล้ว เรายังเข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นด้วยขอบคุณ :
https://today.line.me/th/v2/article/kzgXOMLINE TODAY ORIGINAL, เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • เพื่อนตุ้ม
ขอบคุณภาพจาก master1305 | freefix.com