ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: การเปลี่ยน “ลาวอีสาน” ให้เป็นไทยผ่านพระสงฆ์อีสานสาย “ธรรมยุต”  (อ่าน 924 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


“พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทำนุบำรุงศาสนา” ภาพเขียนสีปูนเปียกบนเพดานโดมด้านทิศตะวันตกของพระที่นั่งอนันตสมาคม


การเปลี่ยน “ลาวอีสาน” ให้เป็นไทยผ่านพระสงฆ์อีสานสาย “ธรรมยุต”

ในสมัยรัชกาลที่ 4 ลัทธิอาณานิคมได้รุกคืบมายังฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ภาคอีสานซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลายเป็นพื้นที่อ่อนไหวต่ออำนาจ ซึ่งอาจถูกมหาอำนาจผนวกเอาดินแดนส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของลาว เนื่องด้วยชาวอีสานล้วนมีประเพณีและวิถีชีวิตแบบชาวลาว

รัชกาลที่ 4 จึงต้องการปฏิรูปหัวเมืองลาวให้กลายเป็นไทยอย่างสมบูรณ์ ผ่านการชำระประวัติศาสตร์ในลักษณะชาตินิยมด้วยพระราชนิพนธ์ต่างๆ เช่น ปฐมวงศ์ พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นต้น ทำให้แนวคิดในการรวมหัวเมืองต่างๆเข้าเป็นรัฐชาติสยามชัดเจนมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้มีการออกประกาศเปลี่ยนแปลงนามมณฑล พ.ศ. 2442 และเมื่อมีการสำรวจสำมะโนครัวก็ได้ห้ามการระบุว่าเป็นชาติลาว เขมร ส่วย ผู้ไท ฯลฯ แต่ให้ใช้สัญชาติไทยเหมือนกันหมด

นอกจากนี้ พระสงฆ์ธรรมยุตก็นับว่ามีบทบาทสำคัญในการทำให้กระบวนการปฏิรูปหัวเมืองลาวประสบความสำเร็จ หลังได้รับการกล่อมเกลาด้วยอุดมการณ์ชาตินิยมจากสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร เหล่าพระสงฆ์จะถูกส่งไปทำหน้าที่เป็นครูสอนอุดมการณ์ของรัฐชาติผ่านภาษาบาลีและภาษาไทย (ซึ่งแสดงความเป็นไทยกลาง) โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐ

@@@@@@@

รัฐยังเข้าไปควบคุมความเชื่อและการประกอบพิธีกรรมของชาวอีสานอย่างเข้มข้นทั้งการออกระเบียบว่าด้วยการบรรพชาและอุปสมบท รวมถึงการห้ามพิธีกรรมแบบลาว เช่นพิธีฮดสรงซึ่งเป็นพิธียกย่องตำแหน่งพระสงฆ์แบบโบราณล้านช้างของชาวบ้าน โดยให้เหตุผลว่าการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

พระสงฆ์รุ่นใหม่ที่ทำงานภายใต้อุดมการณ์ของรัฐที่รู้จักดีในอีสานคือพระสายวัดป่าที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญในการปฏิวัติความเชื่อเป็นหลัก แต่ก็ทำงานภายใต้บริบทอุดมการณ์ของรัฐไทย โดยทำหน้าที่เทศน์สั่งสอนให้ชาวอีสานไม่เป็นปฏิปักษ์กับการปกครองของประเทศ หลังชาวอีสานเริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อทวงความยุติธรรมโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจที่อีสานถูกรัฐละเลยมานาน เช่น กรณีกบฏผู้มีบุญ

รัฐบาลจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ของคณะสงฆ์ธรรมยุตให้หันมาเน้นการปฏิวัติความเชื่อเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องผีสางเทวดา ผู้มีบุญ และโลกพระศรีอาริย์ ซึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อต้านอำนาจรัฐจนนำไปสู่การลุกฮือของชาวอีสานมาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ซึ่งพระวัดป่าสายธรรมยุตก็ยังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กลไกของรัฐได้เป็นอย่างดี





อ้างอิง : ธีระพงษ์ มีไธสง. “พระสงฆ์กับอำนาจรัฐไทย: บทเรียนจากอดีต-พระธรรมยุตสายอีสาน” ใน, ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ 2557.
เผยแพร่ : วันพฤหัสที่ 22 เมษายน พ.ศ.2564
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 27 กันยายน 2559
ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/history/article_1837
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ