ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก.!! เปิดความจริงว่าด้วยเรื่อง "การนินทากาเล"  (อ่าน 918 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
Vintage vector created by vectorpocket - www.freepik.com


คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก.!! เปิดความจริงว่าด้วยเรื่อง "การนินทากาเล"

ว่ากันว่า “ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก” จริงที่สุดค่ะ ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว จะเป็นใครมาจากไหนก็หนีไม่พ้นการถูกนินทา เป็นหนึ่งในสัจธรรมพอๆ กับว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายนั่นล่ะค่ะ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำสอนใจทางศาสนาเท่านั้น แต่ทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาก็มีการทดลองมาแล้วว่าไม่มีใครที่ไม่เคยพูดนินทาคนอื่น

ด้วยธรรมชาติของมนุษย์เกิดมาเป็นนักพูดและขี้เล่าอยู่แล้ว พูดไปเรื่อย ไม่ว่าจะรู้จริงหรือรู้ไม่จริงทั้งหมดก็ตาม การทดลองทางจิตวิทยานี้เป็นของนักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำการทดสอบด้วยการบันทึกเสียงของอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลอง จำนวน 467 คนเกี่ยวกับการสนทนาในชีวิตประจำวัน พบว่า ไม่มีอาสาสมัครคนไหนเลยที่ไม่พูดถึง ‘เรื่องคนอื่น’

ซึ่งการพูดถึงเรื่องคนอื่นนี่เองที่ถูกนิยามว่าเป็นการนินทาในการทดลองครั้งนี้ สิ่งที่น่าว้าวอีกก็คือ ปกติเราจะมีความเชื่อกันว่า ผู้หญิงจะเป็นเพศที่ชอบนินทามากกว่าผู้ชาย แต่จากการทดลองครั้งนี้บอกว่า ผู้ชายก็ชอบนินทาคนอื่นๆ ไม่แพ้ผู้หญิงเลย โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องในทางลบ (อาสาสมัครในการทดลองเป็นผู้ชาย 198 คน และผู้หญิง 269 คน) และแน่นอนว่าเรามักจะนินทาคนรู้จักหรือคนใกล้ชิดมากกว่าคนที่ไม่สนิทกัน

    @@@@@@@

    52 นาที/วัน คือระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่มนุษย์เราใช้นินทาหรือพูดถึงเรื่องคนอื่น

จากการทดลองที่กล่าวมายังมีการทดลองอื่น ๆ เพิ่มเติมในเมืองนอกที่ตอกย้ำว่า เราทุกคนล้วนมีนิสัยชอบบอกเล่าและนินทาโดยธรรมชาติ แม้ว่าการนินทาส่วนมากแล้วเรามักจะรับรู้กันว่า มันต้องเป็นไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งก็จริงอยู่ แต่ส่วนมากไม่แพ้กัน เราจะพูดถึงคนอื่นในเรื่องกลางๆเฉยๆ อย่าง เช่น คนที่ไม่อยู่ในวงสนทนาก็จะถูกพูดถึงลับหลัง ซึ่งอาจจะเป็นแค่การพูดถึงธรรมดาๆ ไม่ได้มีนัยการกล่าวร้ายอะไรทั้งนั้น แต่พอการไม่ได้พูดกันต่อหน้าต่อตาแล้วก็จะสร้างความไม่สบายใจกันเสียเปล่าๆ ก็มันอดคิดไม่ได้อะเนอะ

    แสดงออกถึงความสัมพันธ์ต่อกัน

แน่นอนว่าหากใครสักคนพูดถึงเราในแง่ร้าย นั่นอาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ค่อยสู้ดีนักแต่รู้หรือไม่ว่าการนินทา ยังแสดงถึงแง่มุมอื่นๆ อีกด้วย นั่นก็คือ ‘นินทากับใครแปลว่าไว้ใจให้รับรู้’ การที่เราเปิดปากพูดถึงคนอื่นกับใครบางคน แปลว่า เราต้องไว้เนื้อเชื่อใจคนนั้นมากพอที่จะเล่าเรื่องคนอื่นให้เขาฟัง (แต่เขาฟังแล้วจะไว้ใจเราต่อไปอีกหรือไม่นั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณแล้วล่ะ)

นอกจากนี้ "การเม้าธ์มอยยังช่วยปรับและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน" แปลว่าอะไร.? มันแปลว่า เราจะรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์หรือบุคคลแต่ละคนง่ายขึ้น ผ่านการติฉินนินทาเหล่านั้น แม้ว่าเรื่องราวที่ได้ยินจากวงกอสซิปจะไม่ควรเชื่อถือทั้งหมด แต่นั่นก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่กำลังสอนเราอย่างกลายๆ ว่า เรื่องบางเรื่องก็ต้องฟังหูไว้หู

    @@@@@@@

    "เขาว่าเราจริง ก็ไม่ต้องโกรธเขา เพราะเรื่องมันจริง เขาว่าเราไม่จริง ก็ไม่ต้องโกรธเขา เพราะเรื่องมันไม่จริง แค่นี้จบ"

คำสอนนี้ของท่านพุทธทาสภิกขุ นับว่าเป็นคำสอนที่สากลและอมตะมากๆ อ่านแล้วก็ต้องรู้สึกว่าจริงด้วย หากใครนินทาเราแล้วเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไปโต้กลับ และหากเรื่องที่เขานินทาเป็นเรื่องไม่จริง ก็ไม่มีประโยชน์เช่นกันที่จะไปโต้กลับ เพราะว่ามันไม่มีความจริงอยู่ในนั้น แต่หลายคนอาจจะคิดว่า ในเมื่อเป็นเรื่องไม่จริง แต่ทำให้เราเสียหาย เราก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตนเองเช่นกัน หากพิจารณาแล้วว่าเรื่องที่ถูกนินทา สร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและชีวิต ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย แบบนั้นก็ไม่ว่ากันค่ะ ทุกคนมีเสรีภาพที่จะพิทักษ์ตนเองแน่นอน

ถ้าเลือกได้ คงไม่มีอยากถูกพูดถึงในแง่ลบหรอกค่ะ แต่ในเมื่อเราหนีมันไม่พ้นแล้ว ก็ใช้มันให้เกิดด้านบวกจะดีกว่า เก็บคำนินทามาใคร่ครวญอีกทีว่าที่เขาพูดถึงเราแบบนั้น มันมีส่วนจริงหรือไม่ หากจริงแล้วเราสามารถแก้ไขปรับปรุงอะไรได้บ้างไหม ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ก็ปล่อยมันไปกับสายลมค่ะ

แต่หากไม่มีส่วนจริงเลย ถามตัวเองว่าเราได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน หากคำตอบคือ ไม่ได้มีผลอะไรกับเรา ก็ทิ้งมันไป อย่าเก็บมาใส่ใจให้เสียเวลาและเสียอารมณ์ดีกว่า แต่หากเราได้รับผลกระทบจากคำพูดที่ไม่จริงนั้น ก็ลองหาทางออกที่เหมาะสมดูค่ะ ว่าจะจัดการกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไรได้บ้าง





ขอบคุณข้อมูลจาก :-
-time.com
-www.psychologytoday.com
-voathai.com

ขอบคุณ : https://today.line.me/th/v2/article/Nq5K7P
LINE TODAY ORIGINAL ,เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • nawa.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2021, 06:35:47 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ