ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดแผนบูรณะ ‘วัดภูมินทร์’ คาด ปี 65 ปิดเข้าชม ซ่อมแซมครั้งใหญ่  (อ่าน 947 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เปิดแผนบูรณะ ‘วัดภูมินทร์’ คาด ปี 65 ปิดเข้าชม ซ่อมแซมครั้งใหญ่

14 มิถุนายน 2564 ที่อุโบสถจตุรมุข วัดภูมินทร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการโครงการบูรณะซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนัง วัดภูมินทร์ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการบูรณะซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ ที่ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมและทำความสะอาดจนเกือบจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ พระอุโบสถวัดภูมินทร์ ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของชาติไทยที่กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้แล้ว ทางกรมศิลปากรได้ให้ความสำคัญในการที่จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ในแผนงานของกรมศิลปากรได้มีการขออนุมัติงบประมาณในปีงบประมาณ 2565 ประมาณ 16 ล้านเศษ แต่คาดว่าจะได้รับอนุมัติงบประมาณ 12 ล้านบาท โดยจะดำเนินการในส่วนที่สำคัญก่อน เช่น หลังคา และโครงสร้าง ประกอบกับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ จากการสำรวจพบมีการเสื่อมโทรมตามอายุ ประกอบกับหลังคามีรอยรั่ว เพื่อป้องกันปัญหาของน้ำฝน ซึ่งมีผลเสียต่อโบราณสถาน โดยการซ่อมแซมบูรณะเครื่องบนของพระอุโบสถเพื่อป้องกันปัญหาความชื้นและน้ำฝนที่ทำลายภาพจิตรกรรมฝาผนังที่อยู่ภายใน รวมทั้งองค์พระประธาน

สำหรับพระประธานปัจจุบันสามารถสังเกตเห็นได้โดยตาเปล่าว่ามีลักษณะโป่งพอง เนื่องจากมีความชื้น ทางกรมศิลปากรจะได้ดำเนินการบูรณะตัดความชื้นที่ฐานชุกชีและปิดทององค์พระประธานใหม่ ที่เป็นโครงการหลักในการปิดบูรณะในปี 2565 ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ยังจะได้ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ภายในวัด และบริเวณโดยรอบโบราณสถาน โดยจะได้ขอความอนุเคราะห์จากภูมิสถาปนิกของกรมศิลปากรส่วนกลาง มาให้คำแนะนำในการออกแบบปรับปรุงอีกครั้งหนึ่งว่ามีส่วนไหนจะดำเนินการปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรบ้าง ทั้งนี้จะได้ปรับปรุงโครงสร้างหลังคาอาคารภายในบริเวณวัดเพื่อให้กลมกลืนกับตัวโบราณสถานมากขึ้น ทางสำนักศิลปากรที่ 7 จะรับไปปรับปรุงออกแบบให้กับทางวัดต่อไป





นายสถาพร เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ กล่าวว่า ในการเข้ามาชมโบราณสถาน และภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นสิ่งที่ทางกรมศิลปากรได้บูรณะซ่อมแซมโดยรักษาสภาพความดั่งเดิมเอาไว้ ถึงแม้ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมก็ไม่สามารถทำให้มั่นคงแข็งแรงมากกว่านี้ เป็นไปตามธรรมชาติที่จิตรกรรมฝาผนังจะต้องเสื่อมสภาพลงไปตามอายุ เพราะฉะนั้นในการเข้าชม สิ่งที่สำคัญอย่างมากคือห้ามสัมผัสกับภาพจิตรกรรมเหล่านั้น เพราะการสัมผัสจะทำให้สีนั้นลบเลือนไป เพราะสีที่ใช้จะเป็นสีโบราณ สำหรับสีที่นำมาบูรณะจะเป็นสีฝุ่นจึงไม่คงทนถาวร

นอกจากนั้นการถ่ายภาพไม่ควรจะใช้แสงแฟลช ด้วยแสงจากแฟลชจะมีผลอย่างมากในการเสื่อมสภาพของสี ภาพจิตรกรรมฝาผนังถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดน่านก็ต้องการมาเข้าชมจิตรกรรมฝาผนัง จึงขอความร่วมมือในการดูแลรักษาให้คงสภาพต่อไป

ด้านนางสาวกรอุมา นุตสรินทร์ นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มอนุรักษ์จิตรกรรมและปฏิมากรรม กองโบราณคดี กรรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการสำรวจเพื่อวางแผนการบูรณะภาพจิตกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์นั้นส่วนมากภาพจะได้รับความเสียหายเป็นกลุ่มภาพที่มีความสูงจากพื้นอุโบสถ 0-3 เมตร มีทั้งชั้นปูนฉาบที่เกิดการเสื่อมสภาพ และชั้นสีชำรุด สาเหตุเกิดจากการเสื่อมสภาพของวัสดุตามการเวลา และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่ไปจับสัมผัสจนส่งผลเสียหายต่อภาพจิตรกรรมโดยตรง โดยขั้นตอนการบูรณะเริ่มต้นจากการทำความสะอาดตามกรรมวิธีและองค์ความรู้ของกรมศิลปากร






ในส่วนของภาพจิตรกรรมปู่ม่าน-ย่าม่าน หรือภาพจิตรกรรมกระซิบรักบันลือโลกที่เป็นภาพที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวนั้น ทางกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะและอนุรักษ์ในส่วนของใบหน้าทั้งของปู่ม่านและย่าม่าน และช่วงลำตัว และในส่วนของชั้นปูนที่เสื่อมสภาพโดยการเสริมความแข็งแรง ในส่วนของใบหน้าทำการบูรณะในชั้นดินสอพอง และซ่อมสี ให้กลับคืนดังเดิม หลังจากทำการบูรณะภาพจิตรกรรมทำให้ภาพดูสวยสดและคมชัดยิ่งกว่าเดิม

ปัจจุบันวัดภูมินทร์ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไปเข้าชมตามมาตรการควบคุมโรคของทางสาธารณสุขจังหวัดน่านอย่างเคร่งครัด ก่อนจะปิดทำการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งในปีงบประมาณ 2565 คาดว่าใช้เวลาในการบูรณะและเปิดให้เข้าชมได้อีกครั้งในปี 2567










ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/580110
วันจันทร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 15.12 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ