====================================
ปฏินิสสัคคะ ความสละคืน. ความสละนั้นก็มี ๒ อย่าง คือ ปริจจาคโวสสัคคะ ความสละด้วยการบริจาค ปักขันทนโวสสัคคะ ความสละด้วยการแล่นไป.
บรรดาความสละทั้ง ๒ นั้น วิปัสสนาชื่อว่าปริจจาคโวสสัคคะ ความสละด้วยอำนาจตทังคปหาน. มรรคชื่อว่าปักขันทนโวสสัคคะ ความสละด้วยการแล่นไป ด้วยว่ามรรคนั้นย่อมแล่นไปสู่พระนิพพานโดยเป็นอารมณ์.
อีกอย่างหนึ่ง มรรคนั้นชื่อว่าโวสสัคคะ เพราะเหตุแม้ทั้ง ๒ คือ เพราะละขันธ์และกิเลสด้วยอำนาจสมุจเฉทปหาน และเพราะการแล่นไปในพระนิพพาน เพราะเหตุนั้น วิปัสสนาจึงชื่อว่าปริจจาคโวสสัคคะ สละด้วยการบริจาค เพราะวิปัสสนาย่อมละกิเลสและขันธ์ และมรรคที่ชื่อว่าปักขันทนโวสสัคคะ ความสละด้วยการแล่นไป เพราะจิตย่อมแล่นไปในความดับสนิทคือนิพพานธาตุ.
ก็เพราะเหตุนี้ คำทั้งสองนี้จึงจัดเข้าได้ในมรรค บุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยวิปัสสนาและมรรคทั้งสองนั้น ย่อมเป็นผู้ชื่อว่าปฏินิสสัคคานุปัสสี ผู้ตามเห็นความสละคืน เพราะประกอบด้วยปฏินิสสัคคานุปัสสนานี้. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายถึงบุคคลนั้น จึงตรัสอย่างนี้.
===================================
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต อัพยากตวรรคที่ ๑
๘. โมคคัลลานสูตร