ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่หมั่นเจริญสมาธิภาวนา สมาธิท่านก็หมดไป เสื่อมไปตามสภาพ : หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม  (อ่าน 880 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29319
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




ไม่หมั่นเจริญสมาธิภาวนา สมาธิท่านก็หมดไป เสื่อมไปตามสภาพ : หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ถ้าท่านตั้งใจอย่างนี้ “เจริญสมาธิภาวนา” วงจรกระแสไฟฟ้าท่านก็จะเข้าสู่ล็อค ท่านจะเก็บไฟในหม้อแบตเตอรี่ไว้ได้ รักษาหม้อแบตเตอรี่ไว้ดีด้วย หมั่นเติมน้ำกลั่นรถท่าน ท่านมีรถหรือขายรถก็ตามต้องรักษารถ เอารถมาจอดทิ้งไว้ไม่ใช้ จะสตาร์ทไม่ติด รับรองรถท่านเสียแน่ นี่ยกตัวอย่างให้เห็น

เหมือนเรามีสมาธิไม่หมั่นทำ ไม่หมั่นเจริญสมาธิ สมาธิท่านก็หมดไปเอง รับรองสมาธิท่านก็ต้องเสื่อมไปตามสภาพ ไม่ใช่ว่าเรามานั่งกรรมฐานแล้วกลับไปเลิกเลย ไม่เจริญสมาธิภาวนา สมาธิยิ่งทำดียิ่งมีปัญญา สามารถจะแก้ไขปัญหาได้

ขอฝากท่านสาธุชนไว้ กระแสไฟมันหมดง่ายเหลือเกิน จิตมันตก ไปเชื่อคนโน้นคนนี้อย่าไปเชื่องมงาย อย่าไปเชื่อหมอดู เราก็เหมือนหม้อแบตเตอรี่หมดไฟ ระวังนะ หม้อแบตเตอรี่หมดไฟนี้จะไปไม่รอด จะไม่ปลอดภัย จะมีแต่เสนียดจัญไร จิตใจก็ตก จิตใจก็ไม่สบาย ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเสนียด มันไม่มีปัญญา ไม่รอบรู้ในกองการสังขาร คิดแล้วคิดเล่าเฝ้าแต่คิดเราจะไม่สามารถประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งใดได้

@@@@@@@

"การเจริญกรรมฐาน" เป็นการรวบรวมจิตตั้งสติปัญญา เจริญสติปัฏฐาน ๔ กายานุปัสสนา ตัวนี้ ท่านจะเดิน จะยืน นั่ง นอน เหลียวซ้ายแลขวา เอาสติจับเข้าไป ตั้งเข้าไว้ตลอดเหมือนเติมน้ำกลั่น น้ำกลั่นอย่าให้แห้งเหมือนจิตใจ ท่านจะไม่แล้งน้ำใจ ก็จะมีแต่อัธยาศัย มีแต่น้ำใจโอบอ้อมอารีเป็นต้น นี่แหละกระแสไฟ มันมีแสงสว่างเท่าไรเกิดเมตตามากเท่านั้น ถ้าท่านมืดท่านจะมีแต่อกุศล จะไม่ได้ผลงานแต่ประการใด เมตตาจะไม่มีกับคนที่ไร้สาระ คือ ขาดกระแสไฟ คนที่ไม่มีกระแสไฟน่ะคนโง่ คนโมหะมันต้องคลำไปมองไม่เห็นของจริง มองไม่เห็นของที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิตแก่ครอบครัวแต่ประการใดเลย กลายเป็นคนไร้สาระ ไม่มีสติปัญญาแต่ประการใด

การที่มีกระแสไฟทำให้เกิดแสงสว่าง บัดนี้ทำให้มันมืดแล้ว เราก็ใช้กระแสไฟฟ้า ท่านมีรถแต่ขาดไฟ หน้ารถก็ไม่มีไฟท้ายรถก็ไม่มี แล้วท่านจะวิ่งไปได้หรือ วิ่งไปไม่ได้หรอก เหมือนตัวเราก็เช่นเดียวกัน ขาดแสงสว่าง ก็คือ “ขาดปัญญา” คนเราขาดปัญญาแล้วจิตมันตก ไม่มีโอกาสตะเกียกตะกาย ขยันหมั่นเพียรได้ คนที่ขาดแสงสว่างขาดปัญญาส่วนมากจะขี้เกียจ ไม่อยากจะเอางานเอาการไม่อยากจะรับผิดชอบแต่ประการใด ขอฝากไว้อย่างนี้เป็นต้น





คัดลอกจาก http://www.jarun.org ขอบคุณลานธรรมจักร
ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/586695
วันเสาร์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 19.28 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ