ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "ทานะ" นั้น ชื่อว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุบรรลุผลพิเศษ อันเป็นไปในทิฏฐธรรม  (อ่าน 2493 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ทานะ รู้จักให้ | "ทานะ" นั้น ชื่อว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุบรรลุผลพิเศษ อันเป็นไปในทิฏฐธรรม

คำในพระสูตร : ทานญฺจ (ทา-นัน-จะ)
“ทานะ” อ่านว่า ทา-นะ
“ทานะ” เขียนแบบบาลีเป็น “ทาน” อ่านว่า ทา-นะ รากศัพท์มาจาก ทา (ธาตุ = ให้) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) : ทา + ยุ > อน = ทาน (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การให้” “สิ่งของสำหรับให้”

“ทาน” ในบาลีใช้ในความหมายว่า
    (1) การให้, ยกมอบแก่ผู้อื่น, ให้ของที่ควรให้ แก่คนที่ควรให้ เพื่อประโยชน์แก่เขา, สละให้ปันสิ่งของของตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น
    (2) สิ่งที่ให้, ทรัพย์สินสิ่งของที่มอบให้หรือแจกออกไป

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ทาน” ว่า giving, dealing out, gift; almsgiving, liberality, munificence (การให้, การแจกให้, ของขวัญ; การให้ทาน, การมีใจคอกว้างขวาง)

“ทาน” ใช้ในรูปเดียวกันทั้งบาลีและสันสกฤต

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า (สะกดตามต้นฉบับ)

“ทาน : (คำนาม) ‘ทาน’, การให้, การบริจาค; มันเหลวซึ่งเยิ้มออกจากขมับช้างตกน้ำมัน; การอุปถัมภ์, การบำรุง; วิศุทธิ, นิรมลีกรณ์; การตัด, การแบ่ง; ทักษิณา, ของถวาย, ของให้เปนพิเศษ; การตี, การเฆาะ; อรัณยมธุ, น้ำผึ้งป่า; giving, gift, donation; fluid that flows from the temples of an elephant in rut; nourishing, cherishing; a present, a special gift; striking, beating; wild honey.”


@@@@@@@

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ขยายความคำว่า “ทาน” ไว้ว่า

“ทาน : การให้, ยกมอบแก่ผู้อื่น, ให้ของที่ควรให้ แก่คนที่ควรให้ เพื่อประโยชน์แก่เขา, สละให้ปันสิ่งของของตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น; สิ่งที่ให้, ทรัพย์สินสิ่งของที่มอบให้หรือแจกออกไป ;

     ทาน 2 คือ
     1. อามิสทาน ให้สิ่งของ
     2. ธรรมทาน ให้ธรรม ;

     ทาน 2 อีกหมวดหนึ่ง คือ
     1. สังฆทาน ให้แก่สงฆ์ หรือให้เพื่อส่วนรวม
     2. ปาฏิบุคลิกทาน ให้เจาะจงแก่บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ”

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า

“ทาน ๑, ทาน- : (คำนาม) การให้, มักใช้ประกอบท้ายคำอื่น เช่น ธรรมทาน วิทยาทาน ; สิ่งที่ให้ มักหมายถึงเงินหรือสิ่งของที่คนให้แก่คนยากจน, เป็นธรรมข้อ ๑ ในสังคหวัตถุและทศพิธราชธรรม. (ดู สังคหวัตถุและทศพิธราชธรรม).”

@@@@@@@

อภิปรายขยายความ

มงคลข้อที่ 15 ในมงคล 38 ตามนัยแห่งมงคลสูตร คำบาลีในพระสูตรว่า “ทานญฺจ” (ทา-นัน-จะ) แปลว่า “การให้ ประการหนึ่ง”

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [353] มงคล 38 บอกไว้ว่า (15.) ทานญฺจ (รู้จักให้, เผื่อแผ่แบ่งปัน, บริจาคสงเคราะห์และบำเพ็ญประโยชน์ — Dāna: charity; liberality; generosity)

“ทานะ” = รู้จักให้ หรือมักพูดทับศัพท์ว่า “ทาน” มีหลักปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลไพบูลย์ ซึ่งขอให้คำว่า “เจตนาสามกาล” ได้แก่
     (1) ปุพพเจตนา (ปุบ-พะ-) (ความตั้งใจในเบื้องต้น) = เจตนาก่อนจะทำ
     (2) มุญจนเจตนา (มุน-จะ-นะ-) (แปลตามศัพท์ว่า “ความตั้งใจในการปล่อย”) = เจตนาในขณะทำ คือขณะปล่อยสิ่งของออกจากมือเพื่อให้แก่ผู้อื่น (เน้นที่ “ทาน-การให้”) เจตนาที่ 2 นี้คำเดิมท่านเรียก “สันนิฏฐาปกเจตนา” แปลตามศัพท์ว่า “ความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ” หมายถึงเจตนาในขณะลงมือทำและทำจนสำเร็จ
     (3) อปรเจตนา หรือ อปราปรเจตนา (อะ-ปะ-ระ- หรือ อะ-ปะ-รา-ปะ-ระ-) (ความตั้งใจต่อมา) = เจตนาสืบเนื่องต่อมาจากการกระทำนั้น หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากได้ทำสำเร็จแล้ว

ท่านสอนว่า ควรถวายทานหรือให้ทานด้วยเจตนาที่ครบทั้งสามกาล คือ
     (1) ก่อนให้ มีใจยินดี (ปุพพเจตนา)
     (2) ขณะให้ ทำใจผ่องใส (มุญจนเจตนา)
     (3) ให้แล้ว ชื่นชมปลื้มใจ (อปรเจตนา)

@@@@@@@

แถม : ท่านว่า ผู้ที่ทำบุญให้ทานแล้วรู้สึกเสียดายในภายหลัง ผลแห่งทานย่อมทำให้มีทรัพย์สมบัติมาก แต่ผลแห่งอปรเจตนาที่ไม่ผ่องใส จะทำให้ไม่ได้เสวยสุขอันเกิดจากสมบัตินั้น กล่าวคือ “รวย แต่ไม่มีความสุข”

พระพุทธพจน์ : "ปุพฺเพว ทานา สุมโน ททํ จิตฺตํ ปสาทเย ทตฺวา อตฺตมโน โหติ เอสา ยญฺญสฺส สมฺปทา." (ทานสูตร อังคุตรนิกาย ฉักกนิบาต พระไตรปิฎกเล่ม ๒๒ ข้อ ๓๐๘) (คำแปล)ก่อนให้ ก็ปลอดโปร่ง กำลังให้ ก็เปรมปรีดิ์ ให้แล้ว ก็ปลาบปลื้ม บุญที่สมบูรณ์เป็นดั่งนี้

ในคัมภีร์ท่านแสดงเหตุผลที่ “ทานะ = รู้จักให้” เป็นมงคลไว้ดังนี้
"ตํ พหุชนสฺส ปิยตาทีนํ ทิฏฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกานํ ผลวิเสสานํ อธิคมเหตุโต มงฺคลํ."
ทานะนั้น ชื่อว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุบรรลุผลพิเศษอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (คือในชาติปัจจุบันทันตาเห็น) และสัมปรายภพ (คือชาติหน้า) มีความเป็นผู้เป็นที่รักแห่งชนมาก เป็นต้น

_______________________________
ที่มา: มังคลัตถทีปนี ภาค 2 ข้อ 23 หน้า 18

@@@@@@@

ดูก่อนภราดา ความเป็นเศรษฐีไม่ได้วัดกันที่มีกี่ล้าน แต่วัดกันที่เคยทำทานบ้างหรือเปล่า




ขอบคุณ : dhamma.serichon.us/2021/06/21/ทานะ-รู้จักให้/
บทความของ ทองย้อย แสงสินชัย
21 มิถุนายน 2021 , By admin.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ