ครุกรรม : กรรมที่หนักแน่น เป็นเพราะกรรมอื่นไม่สามารถให้ผลได้ครุกรรมเป็นกรรมหนัก จะส่งผลให้ได้รับก่อนกรรมอื่น ๆ ในคราวที่เกิดในชาติหน้า ดังมีพระบาลีแสดงไว้ว่า
“กมฺมนฺตเรหิ ปฏิพาหิตํ อสกฺกุเณยฺยุตฺตา ครุกํ กมฺมนฺติ = ครุกมฺมํ”
แปลความว่า กรรมที่หนักแน่น เป็นเพราะกรรมอื่นไม่สามารถให้ผลได้ จึงชื่อว่า "ครุกรรม"
ครุกรรมเป็นกรรมหนักที่จะนำเกิดในลำดับแห่งจุติ กรรมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ครุกรรมด้วยกันนั้นจะไม่สามารถปิดกั้นการให้ผลของกรรมนี้ได้ ครุกรรมมี 3 ประเภท คือ
@@@@@@@
1. นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม
เมื่อแยกศัพท์แล้วได้ดังนี้
นิยต + มิจฺฉา + ทิฏฺฐิ + กมฺม
นิยต = แน่นอน
มิจฺฉา = ผิดจากความจริง
ทิฏฺฐิ = ความเห็น
กมฺม = การกระทำ
แปลความว่า “กรรมคือ ความเห็นผิดไปจากความเป็นจริงที่ให้ผลแน่นอนในลำดับแห่งจุติ”
นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรมนี้มีอยู่ 3 อย่าง คือ
1.) นัตถิกทิฏฐิ เห็นว่าการกระทำดีหรือทำชั่วอย่างไรก็ตาม ผลนั้นย่อมไม่มี
2.) อเหตุกทิฏฐิ เห็นว่าสัตวโลกทั้งหลายที่กำลังเป็นไปอยู่นั้นมิได้อาศัยเนื่องมาจากเหตุอันใด
3.) อกิริยทิฏฐิ เห็นว่าการกระทำต่าง ๆ ของสัตว์ทั้งหลายนั้นไม่สำเร็จเป็นบุญเป็นบาปแต่อย่างไร
นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรมนี้ จัดว่าเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุดยิ่งกว่าโทษของสังฆเภทกรรมในปัญจานันตริยกรรมทั้งปวง
2. ปัญจานันตริยกรรม
แยกศัพท์ได้ดังนี้
ปญฺจ + อนนฺตร + อิย + กมฺม
ปญฺจ = 5
อนนฺตร = ไม่มีระหว่างคั่น
อิย = ให้ผล
กมฺม = การกระทำ
รวมศัพท์แล้ว ปญฺจานนฺตริยกมฺม แปลความว่าการกระทำ 5 อย่างที่ให้ผลโดยไม่มีระหว่างคั่นในลำดับแห่งจุติ
ปัญจานันตริยกรรมมี 5 อย่าง คือ
1.) ปิตุฆาตกรรม = ฆ่าบิดา
2.) มาตุฆาตกรรม = ฆ่ามารดา
3.) อรหัตตฆาตกรรม = ฆ่าพระอรหันต์
4.) โลหิตุปปาทกรรม = ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต
5.) สังฆเภทกรรม = ยุยงสฆ์ให้แตกกัน
ในบรรดาอนันตริยกรรมนั้น
- สังฆเภทเป็นกรรมที่หนักที่สุด
- โลหิตตุปปาทเป็นกรรมที่หนักรองลงมาจากสังฆเภท
- และกรรมหนักรองลงมาจากโลหิตตุปปาท คือ อรหัตตฆาต
- ส่วนมาตุฆาตและปิตุฆาตทั้งสอง นี้ต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของมารดาและบิดา ถ้ามารดาเป็นผู้มีคุณธรรมสูงกว่าบิดาการฆ่ามารดาก็เป็นกรรมหนักกว่าการฆ่าบิดา แต่ถ้าบิดาเป็นผู้มีคุณธรรมสูงกว่ามารดา การฆ่าบิดาก็เป็นกรรมหนักกว่ามารดา แต่หากว่าถ้ามารดาและบิดาเป็นผู้มีคุณธรรมเสมอกัน การฆ่ามารดาจะเป็นกรรมหนักกว่าการฆ่าบิดา ทั้งนี้เพราะมารดาเป็นผู้รับภาระหนักอันกระทำได้ยาก เป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งแก่บุตร
3. มหัคคตกุศลกรรม
มหัคคตกุศลกรรม เป็นกุศลครุกรรมที่นำให้เกิดในสุคติพรหมโลก ได้แก่
รูปาวจรกุศล 5 มี
1.) ปฐมฌานกุศล
2.) ทุติยฌานกุศล
3.) ตติยฌานกุศล
4.) จตุตถฌานกุศล
5.) ปัญจมฌานกุศล
อรูปวจรกุศล 4 มี
1.) อากาสานัญจายตนฌานกุศล
2.) วิญญาณัญจายตนฌานกุศล
3.) อากิญจัญญายตนฌานกุศล
4.) เนวสัญญานาสัญญายตนฌานกุศล
ในการส่งผลนำเกิดของมหัคคตกุศลกรรมเหล่านี้ ถ้าฌานไม่เสื่อมจะส่งผลให้ไปเกิดเป็นพรหมบุคคลในพรหมโลกทันที ถ้าบุคคลหนึ่ง ๆ ได้หลาย ๆ ฌาน ฌานที่สูงสุดจะเป็นตัวนำเกิด เช่น ผู้ที่ทำฌานไปสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านจากฌานขั้นต่ำไปจนถึงเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน เมื่อตายไปก็จะต้องไปเกิดในเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ ส่วนฌานขั้นต้น ๆ ต่ำ ๆ ที่เคยทำผ่านมาก็จะเป็นอโหสิกรรมไป
@@@@@@@
ข้อสังเกต
ในโลกุตตรกุศลกรรมก็มี มรรคจิต 4 นั้นความจริงเป็นกรรมที่มีกำลังหนักเหมือนกัน แต่เนื่องจากไม่มีหน้าที่นำเกิด มีแต่จะทำลายการเกิดตามสมควรแก่มรรคที่ตนได้ตามกำลัง มิใช่กรรมที่จะส่งผลให้เกิดในภพหน้าจึงไม่นำมาแสดงในที่นี้
ขอขอบคุณ :-
บทความของ วีริยา รักษาชาติ
web :
dhamma.serichon.us/2021/08/05/ครุกรรม/ 5 สิงหาคม 2021, By admin.