ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูแต่ตา อย่าครอบครอง.! | เรื่องลี้ลับจาก 'หิน' โดนดีจนต้องรีบส่งคืน  (อ่าน 857 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ดูแต่ตา อย่าครอบครอง.! เรื่องลี้ลับจาก 'หิน' โดนดีจนต้องรีบส่งคืน : เสาร์นี้ในอดีต

คุณเป็นหรือไม่.? เมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยว เรามักจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ , พักผ่อนหย่อนใจ หรือต้องการหาที่สงบเพื่ออยู่กับตัวเองให้มากขึ้น แต่หลังจากจบทริปเที่ยว นอกจากภาพถ่ายที่จะสัญลักษณ์ความทรงจำแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราคิดถึงช่วงเวลานั้นโดยผ่านความคิดสร้างสรรค์คือ *'ของที่ระลึก'

'ของที่ระลึก' นับเป็นวัตถุที่จะเล่าเรื่องราวอัตลักษณ์ของสถานที่นั้น ๆ และเน้นย้ำถึงครั้งหนึ่งเราเคยมาเยือน แต่ทว่าคนบางกลุ่มกลับหยิบสิ่งที่ไม่ควรมาครอบครองเป็นของส่วนตัว จนเกิดเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน

ล่าสุดกับ 2 เหตุการณ์เมื่อนักท่องเที่ยวนำหินจากอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ กลับไปบ้าน แต่ต่อมาต้องส่งกลับคืนมาทางไปรษณีย์ให้เจ้าหน้าที่นำกลับไปไว้ที่เดิม

@@@@@@@

โดย เพจอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ Phanom Rung Historical Park ได้โพสต์ภาพกระปุกสีดำที่บรรจุดิน พร้อมหน้าซองจดหมายระบุว่า

“รบกวนฝากคืนดินที่ปราสาทหลัง ที่กำลังบูรณะด้วยค่ะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ”

จากนั้นไม่นานทางเจ้าหน้าที่ได้พัสดุอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็น 'หินภูเขาไฟ' พร้อมจดหมายเขียนข้อความว่า

"ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอกราบขอขมาด้วยกาย วาจา ใจ ขอคืนสู่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ข้าพเจ้าเก็บตรงกลางทางขึ้นปราสาทนานแล้ว จึงนึกขึ้นได้ ขอคืนสู่พนมรุ้ง"

เสาร์นี้ในอดีต : จากเรื่องราวที่เผยในข้างต้น ก็ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดเหตุใดที่ทำให้ต้องส่งกลับมาไว้จุดเดิมที่ได้หยิบมา แต่ทว่าเรื่องในลักษณะดังกล่าวก็เกิดอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งตามอุทยานประวัติศาสตร์ถึงขั้นต้องประกาศขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่หยิบจับหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดออกจากโบราณสถาน LINE TODAY จึงได้หยิบเหตุการณ์ที่ชวนพิศวง…ว่าเหตุได้ต้องรีบส่งกลับมาคืน ณ จุดเดิม


@@@@@@@

เกาะหินงาม อุทยานแห่งชาติตะรุเตา

'เกาะหินงาม' แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ จ.สตูล ที่นักท่องเที่ยวต่างต้องตบเท้ามาที่แห่งนี้ ซึ่งบริเวณโดยรอบเกาะเต็มไปด้วย 'ก้อนหินสีดำ' ที่มีขนาดแต่ต่างกันไป เมื่อกระทบกับแสงแดดและคลื่นน้ำจะกลายเป็นสีมันวาววับที่สวยงาม จุดนี้เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากเก็บเป็นที่ระลึก

ช่วงปี 62 ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล ได้เผยเรื่องราว 'หินตะรุเตา' ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ส่งมาคืนพร้อมเล่าเรื่องราวชวนขนลุก

ภาพจาก อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล Tarutao National Park

"หลังจากที่ตนเองได้มาท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้นำหินไปเป็นที่ระลึกด้วย แต่เจอแต่โชคร้าย ทำให้เพิ่งรู้ว่าหินที่เกาะหินงามเป็นสิ่งที่ห้ามเอาออกไป เพราะมันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเกาะหินงาม และเชื่อเป็นคำสาป จึงได้ส่งคืน"

ภาพจาก อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล Tarutao National Park

ทั้งนี้ทางอุทยานฯ ก็มักได้รับพัสดุจากนักท่องเที่ยวอยู่บ่อยครั้งและกับการตั้งคำถามที่ว่า "เพราะเหตุใด…ที่หลายๆครั้ง หลายๆคน ส่งหินกลับมายังเกาะหินงาม…"

@@@@@@@

โบราณสถานอยุธยา

อยุธยา ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเก่าที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม อีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ศึกษาประวัติศาสตร์อันเลื่องลือ



แต่ทว่าในช่วงปี 61 ถือว่าเป็นข่าวใหญ่โตเลยทีเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พระนครศรีอยุธยา ได้เผยเรื่องราวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เก็บอิฐจากโบราณสถานกลับไปอังกฤษ หลังจากที่ได้ครอบครองกับเจอแต่ปัญหาและเหมือนมีคนไปตามทวงคืน จนต้องส่งพัสดุกลับมาคืน

อย่างที่เผยในข้างต้นกับ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ที่ชาวบ้านได้หยิบหินกลับไปที่บ้าน ก่อนที่จะทำการส่งคืนนั้น ก็ได้ทำพิธีตามความเชื่อโดยมีชาวบ้านได้ถ่ายคลิปขณะทำพิธี ในขณะช่วงทำพิธีผู้หญิงในคลิปมีอาการที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพฤติกรรมดังกล่าว 

(คลิกชมคลิป)

@@@@@@@

โทษทางกฏหมาย

รู้หรือไม่ ถึงจะเป็นก้อนอิฐที่หลุดอยู่ตามพื้น ในโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุก็มีความผิดในมาตรา 31 ทวิคือผู้ใดซ่อนเร้น หรือเอาไปเสีย จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่หากเป็นอิฐที่ยังเป็นโครงสร้างของโบราณสถาน แล้วเราไปงัดออกไป จะผิดตามมาตรา 33 คือผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ทำให้ไร้ประโยชน์ หรือทำให้สูญหาย ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'ทั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากใจของตัวเอง เพียงแค่อยากจะครอบครองทรัพทย์สินของสาธารณะ โดยไม่สนถึงอนาคต ถ้าเกิดทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวหยิบเรื่อย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามก็อาจพังทลายเหลือไว้เพียงแค่ชื่อ ส่วนเรื่องลี้ลับสำหรับผู้ที่พบเจอ ณ ตอนนี้อาจจะยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่ทว่าถ้าเราไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ก็อย่าหยิบสิ่งที่ไม่ใช่ของเรากลับไปเป็นที่ระลึก ขอให้เก็บแค่ภาพถ่ายไว้เป็นเพียงความทรงจำก็น่าจะเพียงพอ'






อ้างอิง :-
- อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ Phanom Rung Historical Park
- อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล Tarutao National Park
- สำนักงานอัยการสูงสุด

ขอบคุณที่มา : https://today.line.me/th/v2/article/N8X6Mn?view=topic&referral=linetodayexclusive
LINE TODAY ORIGINAL , เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • O.J.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ