บทบาทของพระในอดีต ภาพถ่ายราวสมัยรัชกาลที่ 5 (ภาพจาก สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร)
“พวกบวชไม่เรียน..สนใจแต่เล่นทางคาถาอาคม ปลุกเสกเวทมนต์” ต้องปฏิรูปสังคายนา
คำถามว่าทำไมต้องปฏิรูปสังคายนา…ในบันทึกของพระราชวิมลโมลี (ดำรง ทิฏฺฐธมฺโน ป.ธ.9, ดร.) อดีตเจ้าอาวาสวัดพายัพ จังหวัดนครราชสีมา ท่านเจ้าคุณกล่าวถึง พวกที่ต้องปฏิรูปสังคายนา ไว้ว่า
“พวกบวชไม่เรียน อยู่โลเลเหลวไหลละทิ้งกิจวัตรไม่สนใจพุทธศาสตร์ งมงายอยู่ไปนาน ๆ ก็จะหันไปสนใจแต่เล่นทางคาถาอาคม ปลุกเสกเวทมนต์ สร้างวัตถุมงคล คลั่งไสยศาสตร์ เทวศาสตร์ โหราศาสตร์ ภูตผีปีศาจ เดรัจฉานศาสตร์ เกิดมีรายได้ขึ้นมา ก็หลงตัวว่าเป็นผู้วิเศษ หันไปเดินทางผิด
มีพวกศิษย์ที่มุ่งเอาประโยชน์คอยเยินยอปอปั้นเชียร์ให้ดัง ก็เริ่มตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ เป็นฤาษี เป็นครูบาแสวงหาลาภโดยเดรัจฉานวิชา พาเชื่อถือและปฏิบัติทางงมงาย ในที่สุดก็ชวนให้ชาวบ้านออกนอกทางพุทธศาสตร์ ไปไกลจนกู่ไม่กลับเตลิดเปิดเปิงไป เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นอริยะจอมปลอม เป็นเจ้าลัทธิงมงาย เป็นผู้วิเศษองค์ใหม่ขึ้นมา
ในที่สุดทั้งที่ห่มผ้าเหลืองแบบพระภิกษุสงฆ์ เรียกว่าอาศัยผ้าเหลืองครองตน แต่สอนคนอื่นให้ถือศาสนาอื่น นี่คือพวกที่ต้องปฏิรูปสังคายนา”ขอบคุณ :
https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_16568เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2564